นายสมชาย มนต์บุรีนนท์ รองผู้ว่าการ (วิชาการ) รักษาการแทนผู้ว่าการการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) กล่าวว่า การรวบรวมและพัฒนาฐานข้อมูลให้ทันสมัย มีมาตรฐาน และเชื่อมโยงฐานข้อมูล เพื่อนำมาสนับสนุนการให้บริการประชาชนถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในการให้บริการประชาชน ล่าสุด กปภ. ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการบูรณาการข้อมูลด้านการเงิน-สาธารณูปการ เพื่อยกระดับการให้บริการประชาชนสู่การเป็น Big Data ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการ นโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด รัฐวิสาหกิจกลุ่มสถาบันการเงินของรัฐ 9 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย บรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม และรัฐวิสาหกิจกลุ่มสาธารณูปการ จำนวน 4 แห่ง ได้แก่ การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปานครหลวง และการประปาส่วนภูมิภาค ซึ่งพิธีลงนามดังกล่าวจัดขึ้นโดยสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) โดยมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีและนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ร่วมเป็นสักขีพยาน เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2561 ณ ห้องประชุมวายุภักษ์ 4 กระทรวงการคลัง ทั้งนี้ การลงนามบันทึกข้อตกลงในครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นในการบูรณาการฐานข้อมูลร่วมกันอย่างเป็นระบบและมีการนำฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) มาวิเคราะห์เพื่อประกอบการวางนโยบายและเชื่อมโยงข้อมูลเพื่อพัฒนาสินค้าและการให้บริการต่อไป
รักษาการแทนผู้ว่าการ กปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า กปภ. พร้อมสนับสนุนและผลักดันนโยบายของรัฐบาลในด้านการบูรณาการข้อมูลรัฐวิสาหกิจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการประชาชนให้มีความสะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น