นายจิรวัฒน์ สุภรณ์ไพบูลย์ Private Banking Business Group Head ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารมีความมุ่งมั่นในการส่งมอบบริการไพรเวทแบงก์ที่เป็นเลิศและครบวงจรที่สุดของไทย โดยนับตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นมา ธนาคารกสิกรไทยมีพันธมิตรสำคัญคือ ลอมบาร์ด โอเดียร์ (สิงคโปร์) ผู้ให้บริการไพรเวทแบงก์จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่เก่าแก่และให้บริการลูกค้าสินทรัพย์สูงทั่วโลก ดำเนินธุรกิจนานกว่า 222 ปี มาร่วมพัฒนาบริการ ยกระดับบริการไพรเวทแบงก์และส่งมอบบริการที่ปรึกษาทางการเงินส่วนบุคคลครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้าบุคคลสินทรัพย์สูง (HNWIs) ในประเทศไทย
จากการนำเสนอแนวทางการบริหารพอร์ตแบบ Risk-based Approach เป็นการลงทุนที่เน้นการบริหารความเสี่ยงของพอร์ตลงทุน ขณะเดียวกันก็สามารถส่งมอบผลตอบแทนตามเป้าหมายได้ตลอดระยะเวลาการลงทุน ปัจจุบัน กองทุนที่ธนาคารกสิกรไทยพัฒนาร่วมกับ ลอมบาร์ด โอเดียร์ จำนวน 3 กองทุน ได้แก่ K-SGM K-GREAT และ K-APB มีมูลค่ากองทุนรวมกันทะยานสู่ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือกว่า 3 หมื่นล้านบาทไทยแล้ว หลังร่วมมือกับ ลอมบาร์ด โอเดียร์ ในเวลาเพียง 3 ปี เท่านั้น ซึ่งผลตอบรับจากมูลค่าการลงทุนในกองทุนดังกล่าวเป็นเครื่องสะท้อนว่า ผลิตภัณฑ์ที่ธนาคารนำเสนอสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงเป้าหมาย
นายจิรวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ธนาคารกสิกรไทยและลอมบาร์ด โอเดียร์ มีความยินดีกับความสำเร็จครั้งนี้เป็นอย่างยิ่ง และยังคงเดินหน้าพัฒนาบริการร่วมกันอย่างต่อเนื่อง ทั้งผลิตภัณฑ์เพื่อการลงทุนในตลาดที่มีศักยภาพ มีกลไกการลงทุนที่ชาญฉลาด รวมทั้งการพัฒนาบริการที่มากกว่าการลงทุน เพื่อดูแลทุกมิติในชีวิตของลูกค้าอย่างสมบูรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริการด้านการบริหารและให้คำปรึกษาจัดการทรัพย์สินครอบครัว (Family Wealth Planning Services) ซึ่งธุรกิจไพรเวทแบงก์ ธนาคารกสิกรไทย ถือเป็นผู้ให้บริการแห่งแรกๆ ในประเทศไทย ที่สามารถให้บริการได้อย่างครอบคลุมตลอด 3 ปีที่ผ่านมา เสริมด้วยประสบการณ์ และองค์ความรู้ 222 ปีของลอมบาร์ด โอเดียร์ ประยุกต์เข้ากับความต้องการของคนไทย จนในปีนี้ได้รับรางวัลระดับโลกจาก EUROMONEY PRIVATE BANKING SURVEY 2018 ในหมวด "ผู้ให้คำปรึกษาวางแผนส่งต่อความมั่งคั่งจากรุ่นสู่รุ่น และ ทรัสต์ ดีที่สุด (Best Bank for Succession Planning Advice and Trusts, Thailand)" ซึ่งเป็นรางวัลที่แสดงให้เห็นถึงการได้รับยอมรับความเป็นที่หนึ่งจากคนในอุตสาหกรรมเดียวกัน
นอกจากการให้บริการกับลูกค้าไพรเวทแบงก์แล้ว ในฐานะพันธมิตร ทางลอมบาร์ด โอเดียร์ ยังได้พัฒนาหลักสูตรอบรมเฉพาะสำหรับทีมงานไพรเวทแบงก์เกอร์ และทีมงานสนับสนุน โดยหลักสูตรจัดอย่างเข้มข้นครอบคลุมทั้งด้านการบริหารจัดการการลงทุน และแนวทางการให้บริการในระดับสากล รวมทั้งยังแบ่งปันองค์ความรู้ และความเชี่ยวชาญในการลงทุนในตลาดโลก ผ่านทางความร่วมมือระหว่างทีมที่ปรึกษาทางการเงินของทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อพัฒนาเป็นกลยุทธ์ คำแนะนำ และแนวทางการลงทุนที่เหมาะสมกับแต่ละสถานการณ์อีกด้วย
ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าในปี 2561นี้ จำนวนลูกค้าบุคคลสินทรัพย์สูง (HNWIs) หรือ กลุ่มลูกค้าที่มีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการมากกว่า 50 ล้านบาท ในประเทศไทย จะมีประมาณ 30,800 ราย โดยปัจจุบัน ธนาคารกสิกรไทยให้บริการลูกค้าบุคคลสินทรัพย์สูงมากกว่า 10,500 ราย สินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) ทั้งหมดประมาณ 7.5 แสนล้านบาท ครองส่วนแบ่งการตลาด 34% ตั้งเป้าหมาย ปี 2561 ผลิตภัณฑ์การลงทุนเติบโต 2 หมื่นล้านบาท