กลุ่มปตท. โดยบริษัท พีทีที ดิจิตอล และ RISE นำสตาร์ทอัพ 15 ทีม จากทั่วโลก เข้า Bootcamp ในประเทศไทย ภายใต้โครงการ D-NEXT by PTT Digital x RISE

ศุกร์ ๐๔ พฤษภาคม ๒๐๑๘ ๐๙:๑๕
หลังจากกลุ่มปตท.เปิดตัว Accelerator Program ภายใต้ชื่อโครงการ D-NEXT by PTT Digital x RISE ดำเนินการโดยบริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด (PTT Digital) ผู้ให้บริการด้านดิจิทัลในกลุ่มปตท. ร่วมกับ RISE สถาบันเร่งสปีด นวัตกรรมองค์กรและสตาร์ทอัพระดับภูมิภาค ล่าสุดพร้อมเปิดตัวเหล่าสตาร์ทอัพที่คัดเลือกมา 15 ทีม จาก 7 ประเทศทั่วโลก ได้แก่ ประเทศไทย สหรัฐอเมริกา ฟิลิปปินส์ เวียดนาม มาเลเซีย เกาหลี และสิงคโปร์ เข้า Bootcamp ในประเทศไทยเป็นเวลา 3 เดือน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่มีการจัดโครงการลักษณะนี้ นับเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับสู่การเป็นธุรกิจดิจิทัลชั้นนำของภูมิภาคอาเซียนในอนาคต

นายแพทย์ศุภชัย ปาจริยานนท์ ผู้ก่อตั้ง RISE สถาบันเร่งสปีดนวัตกรรมองค์กรและสตาร์ทอัพ กล่าวว่า "หลังจากกลุ่มปตท.เปิดตัวโครงการฯ เราใช้เวลากว่า 2 เดือนในการเฟ้นหาและคัดเลือกสตาร์ทอัพ ผ่านการไปโรดโชว์ใน 5 ประเทศภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีผู้สนใจมาสมัครกว่า 300 ทีม จาก 22 ประเทศใน 3 ทวีป ตั้งแต่อเมริกาเหนือ ยุโรป และเอเชีย โดยเป้าหมายของการจัดโครงการในครั้งนี้ก็เพื่อเปิดโอกาสให้สตาร์ทอัพที่มีศักยภาพในภูมิภาคอาเซียนได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Digital Transformation ของกลุ่มปตท.และรวมถึงการขยายการลงทุนในธุรกิจใหม่ของบริษัทพีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด

โดยล่าสุด โครงการฯ ได้คัดเลือกทีมสตาร์ทอัพ 15 ทีม จาก 7 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย สหรัฐอเมริกา ฟิลปปินส์ เวียดนาม มาเลเซีย เกาหลี และสิงคโปร์ ซึ่งล้วนเป็นทีมที่มีศักยภาพระดับโลก และพร้อมที่จะรุกตลาดในประเทศไทยอย่างเต็มตัว โดยแต่ละทีมมาจากหลายๆ อุตสาหกรรม อาทิ Cleantech, Energy Optimization, Predictive Maintenance ไปจนถึง Industrial IOT, Data Analytics, Lifestyle, HRTech, Saas, CRM, Fintech, Blockchain, Cyber Security, Artificial Intelligenceและ Edtech เรียกว่า เป็น Batch ที่น่าสนุก และตื่นเต้นมากๆ"

นายแพทย์ศุภชัย กล่าวด้วยว่า การเข้าร่วม Bootcamp ระยะเวลา 3 เดือนในประเทศไทยของเหล่าสตาร์ทอัพนั้นไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ และนอกจากได้รับการสนับสนุนหลักจากปตท.และเหล่าพันธมิตรจาก RISE แล้ว ทางทีมยังได้รับการสนับสนุนเรื่อง Smart Visa จากหน่วยงานรัฐอีกเช่นกัน ทั้งนี้เพื่อก้าวสู่การเป็นธุรกิจดิจิทัลชั้นนำในอนาคต

ทางโครงการฯ มีการจัดให้สตาร์ทอัพได้พูดคุยร่วมกันระหว่างผู้เชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในแต่ละผลงาน เพื่อเป็นการพัฒนาของสตาร์ทอัพให้พร้อมในทุกด้านสู่เป้าหมายการต่อยอดธุรกิจในประเทศไทย โดยจะมีทั้งองค์กรเอกชน หน่วยงานรัฐ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าร่วมด้วย และเท่าที่ทราบตอนนี้ทุกทีมที่เข้ารอบมามีความตื่นเต้นที่จะได้มาเปิดตลาดในประเทศไทย เปิดมุมมองใหม่ๆ โดยใช้เทคโนโลยีเป็นตัวนำ

รวมทั้งเมื่อจบโปรแกรม Bootcamp แล้ว จากนั้นจะมี Demo Day ในเดือนกรกฎาคม 2561 เป็นการเปิดตัวสตาร์ทอัพทั้ง 15 ทีมสู่สาธารณะ เพื่อให้ VCs และผู้ที่สนใจทั้งในประเทศและต่างประเทศ ได้ชื่นชมผลงานนำไปสู่การต่อยอดธุรกิจ

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๒ ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๑๗:๑๖ กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๑๗:๕๕ Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๑๗:๔๗ โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๑๗:๑๒ ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๑๗:๐๐ กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๑๖:๐๐ WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๑๖:๐๔ เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๑๖:๔๗ ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๑๖:๐๒ NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ