พงศธร ธรรมวัฒนะ ประธานจัดงาน Thailand Toy Expo มาตลอดระยะเวลา 6 ปี กล่าวถึงงานในปีนี้ว่า "งาน Thailand Toy Expo เป็นความตั้งใจของผมที่อยากทำงานของเล่นให้เกิดขึ้นในประเทศไทยและมีมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก ซึ่งเราก็จัดมาถึงปีที่ 6 และต่างชาติต่างก็ยอมรับในงานของเรามาตลอดตั้งแต่ปีแรก จนตอนนี้งาน Thailand Toy Expo กลายเป็นงานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและเป็น 1 ใน 10 มหกรรมของเล่นที่ใหญ่ที่สุดในโลก จำนวนคนมาร่วมงานปีล่าสุดกว่า 600,000 คนตลอดระยะเวลาที่จัดงาน โดยในปีนี้เรามากับธีม "Rewrite History" เพราะทุกเพศทุกวัยต่างต้องเคยมีประสบการณ์กับของเล่นกันมาแล้ว พอโตเป็นผู้ใหญ่อาจจะลืมความรู้สึกตรงนั้น ความสุขจากการเล่นของเล่นนั้นๆ หรือจินตนาการและแรงบันดาลใจที่ได้จากของเล่น ซึ่งครั้งนี้เราได้นำของเล่นเหล่านี้กลับมาอีกครั้งแต่มาในรูปแบบที่ทันยุคทันสมัย เพื่อเปิดโอกาสอีกครั้งที่จะนำความรู้สึกเหล่านั้นกลับมาแล้วร่วมสร้างสิ่งดีๆ ความคิดดีๆ จินตนาการดีๆ ในชีวิตของเราต่อไป อย่างที่ จอร์จ เบอร์นาร์เชอว์ นักเขียนบทละครชาวไอริชชื่อดังได้กล่าวว่า 'We don't stop playing because we grow old; we grow old because we stop playing'
ภายในงานยังจะได้พบกับกลุ่มศิลปินนักออกแบบของเล่นระดับโลกกว่า 150 แบรนด์ดัง ทั้งจากอเมริกา ยุโรป และ เอเชีย ที่ขนเอาผลงาน Exclusive และ Limited Edition มาจัดแสดงและจำหน่ายที่ประเทศไทยเป็นที่แรกก่อนใคร อีกทั้งยังมีศิลปินที่มาร่วมพูดคุยกว่า 50ชีวิตแบบใกล้ชิด อาทิเช่น Sven & Mark จาก COARSE, AMANDAVISELL, KENNY WONG, 9G, SHOKO NAKAZAWA, KONATSU, MAI NAGAMOTO, DAN, SHON, DEHARA YUKINORI และ UAMOU เป็นต้น และยังมีกิจกรรมพิเศษต่างๆ ภายในงานมากมาย ซึ่งปีนี้ เป็นปีพิเศษที่เราได้รับเกียรติจากต้นสังกัด Yu-Gi-Oh! หนึ่งในการ์ดเกมส์ที่นิยมสูงที่สุดในโลกขณะนี้ มาจัดการแข่งขัน Yu-Gi-Oh! OPEN TOURNAMENT THAILAND 2018 ที่งานอีกด้วย"
"นอกจากนี้งาน Thailand Toy Expo ยังได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากกรุงเทพมหานคร, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ องค์การมหาชน (สสปน.) และ CentralWorld โดยมีวัตถุประสงค์หลัก คือ การจัดงานของเล่น ของสะสมระดับนานาชาติ เพื่อดึงดูดให้ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจากทั่วทุกมุมโลกเข้ามาเยี่ยมชมงาน ที่สำคัญคือเป็นเวทีสำหรับนักออกแบบของชาวไทยที่จะได้มีโอกาสนำเอาผลงานมาจัดแสดงต่อสายตานักสะสมทั่วโลกเพื่อเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันให้อุตสาหกรรมการออกแบบในประเทศโตขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปีและเพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านธุรกิจบันเทิงและดิจิทัลคอนเทนต์แห่งภูมิภาคอาเซียน" พงศธร กล่าวทิ้งท้าย