นายชัยรัตน์ ธรรมพีร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิลท์ แลนด์ จำกัด (มหาชน) เผยว่า "ภาพรวมเศรษฐกิจอสังหาริมทรัพย์ปี 2561 มีแนวโน้มเติบโตไปในทิศทางที่ดีขึ้นมากกว่าปีที่แล้ว เนื่องจากมีปัจจัยที่ดีขึ้นทั้งจากการส่งออก การท่องเที่ยว อัตราดอกเบี้ยทรงตัวค่อนข้างต่ำ นอกจากนี้ภาครัฐยังมีการลงทุนโครงการด้านสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ต่อเนื่อง จึงเป็นสัญญาณที่ดีของภาคอสังหาริมทรัพย์ ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่น และเริ่มกลับเข้าสู่การตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับปัจจุบันชาวต่างชาติหันมาซื้อคอนโดมิเนียมในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก เพราะราคายังถูกอยู่มากเมื่อเทียบกับราคาในประเทศของเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จีน สิงคโปร์ ฮ่องกง คอนโดมิเนียมที่ยังได้รับความสนใจอยู่จะเป็นบริเวณแนวรถไฟฟ้า รถไฟฟ้าใต้ดินทั้งที่สร้างเสร็จแล้วและส่วนต่อขยาย ในขณะที่กำลังซื้อที่ดินของผู้ประกอบการที่จะนำมาพัฒนาโครงการยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง เพราะมีแหล่งเงินทุนจากต่างชาติเข้ามาลงทุนร่วมกับคนไทยในการประกอบธุรกิจคอนโดมิเนียม โดยเฉพาะ ญี่ปุ่น จีน สิงคโปร์ ส่งผลให้ราคาที่ดินดิบมีราคาสูงต่อเนื่อง ทำให้ในอนาคตราคาคอนโดมิเนียมจะมีราคาสูงเพิ่มขึ้นตาม ตลาดก็จะมีการแข่งขันมากยิ่งขึ้น ซึ่งจำเป็นที่ผู้ประกอบการจะต้องหาตลาดใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดที่รองรับกำลังซื้อของคนต่างชาติ
สำหรับโครงการล่าสุดของบริษัท บิลท์ แลนด์ จำกัด (มหาชน) คือ "เลสโต คอนโด สุขุมวิท 113" สถานีสำโรง เป็นคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จแล้ว แต่งครบพร้อมเข้าอยู่ บนเนื้อที่ 7 ไร่เศษ เป็นคอนโดมิเนียมแบบ Low Rise 8 ชั้น 4 อาคาร จำนวน 786 ยูนิต มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพสูง ห่างจาก BTS สถานีสำโรงเพียง 400 เมตร และในอนาคตสถานีนี้จะเป็นสถานี Interchangeเชื่อมต่อเพื่อเปลี่ยนไปสายสีเหลืองที่วิ่งไปทาง รัชดา – ลาดพร้าว ได้ด้วย"
ด้วยประสบการณ์ในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของบริษัท บิลท์ แลนด์ จำกัด (มหาชน) ที่มีมากว่า 10 ปี และประสบความสำเร็จอย่างสูงในการปิดขายโครงการต่างๆ ในระยะเวลาอันสั้น ดังนั้นในปี 2561 บริษัทจึงตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 1,000 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับปี 2560 โดยบริษัทเน้นที่อัตราการทำกำไรให้สูงขึ้น เนื่องจากโครงการต่างๆ ที่มีอยู่นั้น บริษัทได้มีการปรับขึ้นราคาขายไปแล้ว 5-10% โดยเฉพาะโครงการห้องชุดซึ่งอยู่ในแนวรถไฟฟ้า เช่น โครงการ "เลสโต คอนโด สุขุมวิท 113" สถานีสำโรง ซึ่งเป็นย่านชุมชนที่ยังมีความต้องการที่พัก อาศัยค่อนข้างสูง โดยเป็นโครงการที่มีความคุ้มค่าเงินสูงสุดในราคาที่เป็นเจ้าของได้ง่าย และเป็นคอนโดมิเนียมเพียงไม่กี่แห่งที่มีรถไฟฟ้าผ่านถึง 2 เส้นทาง (สายสีเขียวและสายสีเหลือง) เพื่อความสะดวกในการเลือกเดินทาง หรือกรณีใช้รถยนต์ส่วนตัวสามารถใช้ถนนสุขุมวิท หรือทางด่วนเข้าสู่กรุงเทพฯ ชั้นในได้สะดวกเช่นกัน
นอกจากนี้ นายชัยรัตน์ ธรรมพีร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิลท์ แลนด์ จำกัด (มหาชน) ยังมีเป้าหมายที่จะนำ "บิลท์ แลนด์"เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายในปี 2562 เพื่อรองรับแผนการขยายการลงทุนในอนาคต
"สำหรับแผนการกระจายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ ของ "บิลท์ แลนด์" นั้น บริษัทฯ จะเพิ่มทุนอีกจำนวน 100 ล้านหุ้น เพื่อขายให้แก่ประชาชนทั่วไป ส่วนราคาเสนอขายก็จะต้องรอปรึกษาที่ปรึกษาทางการเงินก่อน ปัจจุบันธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยังเป็นธุรกิจที่สามารถสร้างผลกำไรได้สูง เนื่องจากเรามีความเชี่ยวชาญในการบริหารบริษัทอสังหาริมทรัพย์ มองขาดในเรื่องทำเล คุณภาพของงานก่อสร้าง ครอบคลุมไปถึงการบริหารจัดการหลังการขายที่มีบริษัท บิลท์ ฮาร์ท จำกัด ช่วยในการบริการลูกค้า จัดการบริหารอาคารนิติบุคคล และคอยรองรับการบริหารห้องชุดให้ลูกค้าในกรณีที่มีความต้องการขายต่อหรือให้เช่า รวมทั้งรู้จักกลุ่มเป้าหมายที่เป็นลูกค้าของเราเป็นอย่างดี สำหรับโครงการในอนาคตจะเน้นไปที่การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวสูงเป็นหลักที่ระดับราคา 2-5 ล้านบาท เพื่อกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่ที่ต้องการใช้ชีวิตอิสระ ปลอดภัย สะดวกสบายในการดูแลรักษา และง่ายต่อการเดินทาง ส่วนแผนการร่วมทุนบริษัทข้ามชาตินั้น บริษัทยังเปิดกว้างอยู่ตลอด ที่ผ่านมาได้มีหลายบริษัทในประเทศเอเชีย เช่น สิงคโปร์ ญี่ปุ่น ติดต่อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งความร่วมมือดังกล่าวจะมีส่วนสนับสนุนการขยายตลาดไปสู่ลูกค้าต่างชาติมากขึ้น โดยในการพิจารณาผู้ร่วมทุนนั้น บริษัทให้น้ำหนักเรื่องเม็ดเงินลงทุนและแนวทางการทำงานร่วมกันว่าสามารถร่วมกันได้หรือไม่เป็นหลัก ส่วนในเรื่องเทคโนโลยีหรือโนว์ฮาวต่างๆ นั้นเป็นเรื่องรองลงมา" นายชัยรัตน์ กล่าว
โครงการ "เลสโต คอนโด สุขุมวิท 113" สถานีสำโรง เป็นคอนโดมิเนียมแบบ Low Rise 8 ชั้น 4 อาคาร จำนวน 786 ยูนิต ที่มีพื้นที่ส่วนกลางกว่า 3,000 ตารางเมตร ประกอบด้วย Triple Club คลับเฮ้าส์ 3 ชั้น หน้าโครงการ ไว้ให้พักผ่อนหรือรองรับเพื่อนฝูง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกระดับ 5 ดาว ไม่ว่าจะเป็น Fitness Room, Swimming Pool, Yoga Fly, Play Room, Movie Room, BBQ Deck, Library Room, Co-Working Space พร้อมสวนขนาดใหญ่รายล้อมโครงการ เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับทุกอาคาร สามารถตอบโจทย์ความสุขของการอยู่อาศัยได้อย่างรอบด้าน
ทั้งนี้ ในวันเสาร์ที่ 19 และวันอาทิตย์ที่ 20 พฤษภาคม นี้ "บิลท์ แลนด์" จะจัดงาน "LESTO OPEN HOUSE" ในธีม "รวมร้านเด็ดย่านสำโรง" เปิดให้ผู้ที่สนใจเข้ามาร่วมชมห้องชุดแต่งครบพร้อมเข้าอยู่ ในราคาเริ่มต้นเพียง 1.45 ล้านบาท พร้อมร่วมสนุกกับกิจกรรมเวิร์คช้อปสุดคูล และชิมอาหารจานเด็ดแนะนำจาก Wongnai สำหรับผู้ที่จองในวันงาน เลือกฟรี! ทุกค่าใช้จ่ายในวันโอน หรือ ฟรี! เครื่องใช้ไฟฟ้า นอกจากนี้ยังฟรี! วอลล์เปเปอร์ทุกยูนิต ฟรี! เครื่องปรับอากาศ 15,000 บีทียู และเครื่องทำน้ำอุ่น และในวันอาทิตย์ที่ 20 พฤษภาคม ช่วงระหว่างเวลา 16.00-17.00 น. ร่วมสนุกกับมินิคอนเสิร์ตจาก "ป๊อป-ปองกูล" ณ TRIPLE CLUB คลับเฮ้าส์ 3 ชั้น หน้าโครงการ "เลสโต คอนโด"
ข้อมูลบริษัท บิลท์ แลนด์ จำกัด (มหาชน) โดยสังเขป
บริษัท บิลท์ แลนด์ จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2552 เพื่อดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โครงการบ้าน ทาวน์เฮ้าส์ และคอนโดมิเนียม ทั้งในเขตกรุงเทพมหานครและเขตปริมณฑล รวมถึงแนวรถไฟฟ้า เน้นการออกแบบที่อยู่อาศัยตามความต้องการพื้นฐานเพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่ที่มีอยู่อย่างจำกัดได้อย่างคุ้มค่า โดยผลงานที่ผ่านมา ประกอบด้วย
- ปี 2552 - เปิดตัวโครงการแรก คือ The Tempo ร่วมฤดี มูลค่าโครงการ 400 ล้านบาท
- ปี 2553 - เปิดตัวโครงการ The Tempo พหลโยธิน มูลค่าโครงการ 395 ล้านบาท
- ปี 2554 - เปิดตัวโครงการ The Tempo รัชดา มูลค่าโครงการ 312 ล้านบาท และ The Tempo M ติวานนท์ มูลค่าโครงการ 295 ล้านบาท
- ปี 2555 - เปิดตัวโครงการแนวราบ โครงการแรก Tempo Town รัตนาธิเบศร์-ไทรม้า มูลค่าโครงการ 136 ล้านบาท
- ปี 2556 - เปิดตัวโครงการตึกสูง Tempo Grand สาทร-วุฒากาศ มูลค่าโครงการ 2,690 ล้านบาท
- ปี 2557 - เปิดตัวโครงการ Tempo One รามคำแหง-พระราม 9 มูลค่าโครงการ 300 ล้านบาท
- ปี 2558 - เปิดตัวโครงการ Tempo Quad สะพานใหม่ มูลค่าโครงการ 350 ล้านบาท
- ปี 2559 - เปิดตัวโครงการ The Ritmo ชัยพฤกษ์-วงแหวน มูลค่าโครงการ 1000 ล้านบาท และโครงการ Lesto Condo สุขุมวิท 113 มูลค่าโครงการ 1068 ล้านบาท
บริษัท บิลท์ ฮาร์ท จำกัด
เปิดขึ้นมาเพื่อวัตถุประสงค์ในการรองรับการบริการหลังการขายของ บริษัท บิลท์ แลนด์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยมิได้มีวัตถุประสงค์หลักในเรื่องของผลกำไร แต่ช่วยในการบริการลูกค้า ในการจัดการบริหารอาคารนิติบุคคล และคอยรองรับการบริหารห้องชุดให้ลูกค้าในกรณีที่มีความต้องการขายต่อ หรือให้เช่า พร้อมกันนี้บริษัท บิลท์ ฮาร์ท เองก็จะทำการศึกษาข้อมูลทางการตลาดจากสภาวะแวดล้อมจริง พร้อมกับประเมินความเสี่ยง ปัจจัยต่างที่จะส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมของผู้บริโภค เพื่อนำข้อมูลส่งต่อให้กับกลุ่มบริษัทฯ เพื่อใช้ในการปรับปรุง และพัฒนาบริษัทและผลิตภัณฑ์ต่อไป