การประเมินอันดับเครดิตยังพิจารณาถึงสถานะทางการตลาดในการเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหญ่ของบริษัทและแนวโน้มการเติบโตที่ดีของการใช้บริการด้านข้อมูล อีกทั้งยังพิจารณาถึงการแข่งขันที่รุนแรงในอุตสาหกรรม รวมทั้งการลงทุนขนาดใหญ่เพื่อให้มีปริมาณคลื่นความถี่ที่เพียงพอ และเพื่อพัฒนาคุณภาพโครงข่ายด้วย
ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต
เป็นบริษัทย่อยรายสำคัญของบริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น
อันดับเครดิตสะท้อนสถานะของบริษัทในการเป็นบริษัทย่อยที่สำคัญของบริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น โดยพิจารณาจากทั้งการสร้างรายได้และกำไร รวมถึงฐานลูกค้า และบทบาทในการสร้างรายได้บนโครงข่ายภายใต้ใบอนุญาต บริษัทมีรายได้ในปี 2560 รวม 65,289 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 83% ของรายได้รวมของบริษัทแม่ และมีรายได้จากการให้บริการที่ไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่าย (Interconnection Charges -- IC) อยู่ที่ประมาณ 60,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นประมาณ 93% ของรายได้จากการให้บริการที่ไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่ายของบริษัทแม่ นอกจากนี้ บริษัทยังสร้างกำไรคิดเป็นประมาณ 54% ของกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ของบริษัทแม่อีกด้วย โดยรายได้ของบริษัทจะใกล้เคียงกับบริษัทแม่มากขึ้นเมื่อสัมปทานของบริษัทแม่หมดอายุลงและมีการย้ายลูกค้าทั้งหมดไปอยู่บนโครงข่ายของบริษัท
บริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น มีส่วนในการควบคุมการดำเนินงานของบริษัทอย่างเต็มที่โดยผ่านช่องทางการแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูงและคณะกรรมการของบริษัท นอกจากนี้ บริษัทยังใช้ทรัพยากรและอุปกรณ์โครงข่ายร่วมกันกับบริษัทแม่ในการให้บริการแก่ลูกค้าด้วย ทั้งนี้ การให้บริการเทคโนโลยี 2G บนคลื่นความถี่ภายใต้ระบบสัมปทานของบริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จะหมดอายุลงในเดือนกันยายน 2561 นี้และจะมีการย้ายลูกค้าทั้งหมดของบริษัทแม่ไปอยู่บนโครงข่ายของบริษัท เมื่อพิจารณาถึงความสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นดังกล่าวแล้ว ทริสเรทติ้งเชื่อว่าบริษัทจะได้รับการสนับสนุนจากบริษัทแม่ รวมถึงได้รับความช่วยเหลือทางการเงินในเวลาที่จำเป็น
อันดับเครดิตของบริษัทมีปัจจัยเสริมความแข็งแกร่งจากการสนับสนุนที่ Telenor มีให้แก่บริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น ซึ่งเป็นบริษัทแม่ทั้งในด้านการบริหารจัดการ เทคโนโลยี และความช่วยเหลืออื่น ๆ ด้วย บริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น ถือว่ามีส่วนสำคัญในการสร้างรายได้ให้แก่กลุ่ม Telenor โดย เป็นบริษัทที่สร้างรายได้ในระดับแนวหน้าในกลุ่มบริษัทที่ Telenor ลงทุนนอกประเทศนอร์เวย์ ความสำคัญดังกล่าวทำให้ทริสเรทติ้งคาดหวังว่า Telenor จะยังคงให้การสนับสนุนทางการเงินแก่บริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น ในเวลาที่จำเป็นต่อไป
เมื่อพิจารณาถึงความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งระหว่างบริษัทและบริษัทแม่แล้ว อันดับเครดิตองค์กรของบริษัทจึงมีระดับเท่ากับอันดับเครดิตองค์กรของบริษัทแม่และเปลี่ยนแปลงไปตามทิศทางอันดับเครดิตของบริษัทแม่ด้วย
ความกดดันเรื่องคลื่นความถี่ที่ผ่อนคลายลง
บริษัทได้ลงนามในสัญญาเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับบริษัททีโอทีซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจด้านสื่อสารโทรคมนาคมเพื่อให้บริการ 4G LTE-TDD (Long Term Evolution-Time Division Duplex) (เทคโนโลยีการสื่อสารไร้สายด้วยความเร็วสูง) บนคลื่นความถี่ (Spectrum) 2.3 GHz ขนาด 60 เมกะเฮิร์ทซ์ (Megahertz -- MHz) โดยบริษัทดีแทค ไตรเน็ต จะจ่ายเงินให้แก่บริษัททีโอทีจำนวน 4,510 ล้านบาทต่อปีเพื่อใช้งานในสัดส่วน 60% ของจำนวนความจุคลื่น
การทำสัญญากับบริษัททีโอทีช่วยลดความกังวลในเรื่องของจำนวนคลื่นความถี่ที่จำกัดเนื่องจากคลื่นความถี่ 850-MHz และ 1.8 GHz ขนาด 35 MHz ภายใต้สัญญาสัมปทานของกลุ่มบริษัทจะหมดอายุลงในเดือนกันยายน 2561 ที่จะถึงนี้ การลงนามในสัญญาเป็นพันธมิตรกับบริษัททีโอทีส่งผลทำให้สถานะในการถือครองคลื่นความถี่ของกลุ่มบริษัทเข้มแข็งยิ่งขึ้นและมีปริมาณเพียงพอต่อการรองรับอุปสงค์การใช้งานด้านข้อมูลที่เพิ่มขึ้นของลูกค้าได้
ทั้งนี้ หน่วยงานกำกับมีความตั้งใจที่จะจัดการประมูลคลื่นความถี่ 1.8 GHz ก่อนที่สัญญาสัมปทานของบริษัทจะหมดอายุลง อย่างไรก็ตาม การดำเนินการตามแผนยังมีความไม่แน่นอน ซึ่งทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะเข้าร่วมการประมูลเพื่อให้ได้คลื่นความถี่ที่เพียงพอสำหรับการให้บริการในอนาคต อย่างไรก็ดี การที่บริษัทมีคลื่นความถี่ 2.3 GHz เพื่อใช้งานเพิ่มเติมนั้นจะช่วยลดแรงกดดันให้แก่บริษัทในการประมูลคลื่นความถี่ในครั้งต่อไปอย่างมีนัยสำคัญ
แนวโน้มการเติบโตที่ดีของบริการด้านข้อมูล
ในปี 2560 รายได้จากการให้บริการของบริษัทที่ไม่รวมค่า IC เพิ่มขึ้น 2.2% จากปีก่อนมาอยู่ที่ประมาณ 60,000 ล้านบาทโดยมีแรงขับเคลื่อนจากการเติบโตของบริการด้านข้อมูล ในระยะ 3 ปีที่ผ่านมารายได้จากการให้บริการด้านข้อมูลของบริษัทเติบโตเฉลี่ย 25% ต่อปี ในปี 2560 รายได้จากการให้บริการข้อมูลคิดเป็น 66% ของรายได้จากการให้บริการที่ไม่รวมค่า IC ทั้งหมดของบริษัท การเติบโตขึ้นอย่างมากของรายได้จากการให้บริการข้อมูลช่วยลดผลกระทบจากฐานลูกค้าแบบเติมเงินที่เล็กลงและรายได้จากการให้บริการด้านเสียงที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง
เมื่อพิจารณาถึงความต้องการใช้บริการด้านข้อมูล ตลอดจนการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบสมาร์ทโฟน และความครอบคลุมของโครงข่าย 3G และ 4G ที่มีมากขึ้นแล้ว ทริสเรทติ้งคาดว่าความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นในการใช้บริการด้านข้อมูลและคลื่นความถี่จะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมในระยะปานกลาง อีกทั้งยังคาดว่าการให้บริการด้านข้อมูลของบริษัทจะเติบโตอย่างต่อเนื่องต่อไปด้วย นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาถึงสถานะในการถือครองคลื่นความถี่ของบริษัทที่เข้มแข็งยิ่งขึ้นแล้วก็คาดว่าบริษัทจะแข่งขันในเชิงรุกมากยิ่งขึ้นเพื่อเพิ่มจำนวนผู้ใช้งานและเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดในการให้บริการด้านข้อมูล อย่างไรก็ตาม การแข่งขันที่รุนแรงในอุตสาหกรรมอาจจะกดดันการเติบโตของรายได้ของบริษัทได้เช่นกัน
ในระหว่างปี 2561-2563 ทริสเรทติ้งมีสมมติฐานว่ารายได้จากการให้บริการด้านข้อมูลของบริษัทจะเติบโตในอัตราเลข 2 หลัก โดยจะทดแทนรายได้จากการให้บริการด้านเสียงที่ลดลงอย่างต่อเนื่องและจะทำให้รายได้จากการให้บริการที่ไม่รวมค่า IC ของบริษัทเติบโตโดยเฉลี่ยปีละ 2%
ฐานะทางการเงินที่มีแนวโน้มอ่อนแอลง
ฐานะทางการเงินของบริษัทมีแนวโน้มอ่อนแอลงจากค่าใช้จ่ายฝ่ายทุนที่เพิ่มขึ้นเพื่อเพิ่มจำนวนคลื่นความถี่ที่ถือครองและเพื่อพัฒนาคุณภาพโครงข่าย ทั้งนี้ ในช่วงปี 2561-2563 ทริสเรทติ้งคาดว่าเงินทุนจากการดำเนินงานของบริษัทจะอยู่ในช่วงประมาณ 13,000-18,000 ล้านบาทต่อปี แม้ว่าบริษัทจะควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ทริสเรทติ้งก็มีมุมมองว่าบริษัทจะพยายามเพิ่มจำนวนผู้ใช้งานและเพิ่มส่วนแบ่งรายได้ค่าบริการให้มากขึ้นซึ่งจะส่งผลให้บริษัทมีต้นทุนในการเพิ่มจำนวนลูกค้าที่สูงขึ้นจากระดับปัจจุบัน นอกจากนี้ กระแสเงินสดของบริษัทอาจได้รับแรงกดดันจากค่าใช้จ่ายด้านโครงข่ายที่เพิ่มขึ้นจากการเพิ่มความหนาแน่นของโครงข่าย ตลอดจนค่าธรรมเนียมที่จะต้องจ่ายให้แก่บริษัททีโอที รวมถึงค่าเช่าโครงสร้างพื้นฐานและอุปกรณ์โทรคมนาคมของ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ที่อยู่ในระหว่างการเจรจาด้วย
บริษัทมีเงินกู้รวม 64,500 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2560 ทั้งนี้ เงินกู้รวมส่วนหนึ่งเป็นเงินกู้ยืมจากบริษัทแม่จำนวน 15,500 ล้านบาท ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะมีค่าใช้จ่ายฝ่ายทุนในช่วงปี 2561-2563 ประมาณ 57,000-60,000 ล้านบาทโดยยังไม่รวมค่าใบอนุญาตคลื่นความถี่ที่จะประมูลใหม่ อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนคาดว่าจะปรับสูงขึ้นหากบริษัทชนะการประมูลคลื่นความถี่ด้วยราคาที่สูงและอาจจะส่งผลให้อัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมลดลงไปด้วย อย่างไรก็ดี ทริสเรทติ้งมีมุมมองว่าบริษัทจะยังคงมีสภาพคล่องที่เพียงพอที่จะรองรับภาระทางการเงินได้เมื่อพิจารณาถึงสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งของบริษัทแม่และความช่วยเหลือที่บริษัทจะได้รับจากบริษัทแม่
แนวโน้มอันดับเครดิต
แนวโน้มอันดับเครดิต "Negative" หรือ "ลบ" เป็นไปตามแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น โดยแนวโน้มอันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะการตลาดที่อ่อนแอลงของ บริษัทแม่และความคาดหมายว่าบริษัทแม่จะยังคงเผชิญกับความท้าทายในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรง ทั้งนี้ คาดว่าสถานะทางการเงินของบริษัทแม่น่าจะอ่อนแอลงเมื่อพิจารณาถึงค่าใช้จ่ายฝ่ายทุนจำนวนมากที่จะต้องใช้ในการลงทุนเพื่อให้มีคลื่นความถี่ที่เพียงพอและมีโครงข่ายที่ครอบคลุม
ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง
เมื่อพิจารณาจากเกณฑ์ในการจัดอันดับเครดิตแบบกลุ่ม (Group Rating Methodology) ของทริสเรทติ้งแล้วอันดับเครดิตของบริษัทจะเปลี่ยนไปตามอันดับเครดิตของบริษัทแม่ โดยการเปลี่ยนแปลงใดใดที่กระทบต่ออันดับเครดิตของบริษัทแม่ก็จะส่งผลต่ออันดับเครดิตของบริษัทตามไปด้วย
บริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด (DTN)
อันดับเครดิตองค์กร: AA+
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
DTN187A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 AA+
DTN197A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2562 AA+
DTN207A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 4,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2563 AA+
DTN213A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2564 AA+
DTN217A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2564 AA+
DTN227A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2565 AA+
DTN237A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 AA+
DTN244A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 AA+
DTN257A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 6,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568 AA+
DTN267A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2569 AA+
DTN274A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 5,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2570 AA+
DTN279A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2570 AA+
DTN299A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2572 AA+
แนวโน้มอันดับเครดิต: Negative