กรุงเทพฯ--16 ส.ค.--สตีล อินเตอร์เทค
"ประสิทธิ์"เชื่อสิ้นปีนี้ STEEL มีอัตราการเติบโต 15% ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ หลังไตรมาส2/49 โชว์ผลงานเยี่ยมกำไรพุ่ง 298.07% พร้อมเปิดแผนงานครึ่งปีหลัง เตรียมเจาะฐานลูกค้าใหม่ๆ เพิ่ม โดยเน้นการขายตรงไปยังกลุ่ม Owner และผู้รับเหมาฯมากขึ้น พร้อมทั้งเร่งดำเนินการในสินค้าใหม่ที่จะดันรายได้เพิ่มขึ้นในช่วงปลายปีนี้
นายประสิทธิ์ อุ่นวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตีล อินเตอร์เทค จำกัด (มหาชน)(STEEL)กล่าวถึงการดำเนินธุรกิจในปีนี้ โดยคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตประมาณ 15% จากปี 2548 ภายหลังจากประกาศผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2549 ซึ่งกำไรสุทธิมีอัตราการเติบโตถึงร้อยละ 298.07 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันปีก่อน
"สาเหตุทำให้มั่นใจว่าจะไปถึงเป้าหมายได้ เพราะที่ผ่านมา STEEL ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพของทั้งทีมผู้บริหารและพนักงาน สินค้าที่มีคุณภาพ ความซื่อสัตย์ต่อลูกค้า และความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาองค์กรให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นต่อไป"
เขากล่าวต่อถึงแผนงานของบริษัทฯ ในครึ่งปีหลังว่า นอกจากการรักษาฐานลูกค้าเดิม ยังจะบุกเบิกตลาดเพื่อเพิ่มลูกค้าใหม่ๆ เน้นการขายตรงไปยังกลุ่ม Owner และผู้รับเหมาก่อสร้างมากขึ้น พร้อมทั้งเร่งดำเนินการในสินค้าใหม่ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการทดสอบและคาดว่าจะติดตั้งเครื่องจักรในเดือน ก.ย. และสามารถผลิตพร้อมจำหน่ายได้ในไตรมาส 4 ซึ่งจะเพิ่มรายได้ให้กับบริษัทได้ทันที นอกจากนี้ยังดูแลเรื่องการบริการ รวมถึงการส่งมอบสินค้าและการส่งมอบงานให้ดีขึ้น เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้า
ส่วนสถานการณ์การแข่งขันนั้นมีการแข่งขันสูง เนื่องจากมีคู่แข่งขันรายใหม่เพิ่มขึ้น แต่คู่แข่งขันรายใหม่นั้นก็ยังขาดความชำนาญและประสบการณ์ในการทำธุรกิจประเภทนี้ ซึ่งส่งผลให้บริษัทฯ ยังสามารถรักษาส่วนแบ่งตลาดไว้ได้ แม้ว่าทิศทางของเศรษฐกิจและการลงทุนจะมีการชะลอตัว เนื่องจากปัจจัยลบเรื่อง น้ำมัน การเมือง ดอกเบี้ย และเงินเฟ้อก็ตาม
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 2/2549 บริษัทมีกำไรสุทธิ 8.28 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 298.07 จากไตรมาส 2/2548 ที่มีกำไรสุทธิ 2.08 ล้านบาท ส่วนงวด 6 เดือนมีกำไรสุทธิ 14.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 89.26 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 7.45 ล้านบาท
สาเหตุที่ทำให้ผลประกอบการของ STEEL ดีขึ้นมาก เนื่องจากบริษัทมีสัดส่วนการขายตรงให้กับเจ้าของโครงการมีเพิ่มมากขึ้นในไตรมาส 2/2549 ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้น(Gross Profit Margin : GP) ปรับตัวสูงขึ้น
เป็นประมาณ 23% จาก 14% ในไตรมาส 2/2548
ขณะเดียวกัน ภาพโดยรวมของธุรกิจราคาเหล็ก Coated Steel ในปีที่ผ่านมาอยู่ในจังหวะขาลง คู่แข่ง Rollformers ก็พยายามจะขายเหล็ก Stock ออก ทำให้เกิดการแข่งขันด้านราคาอย่างรุนแรง มีผลกระทบต่อ GP ในทางตรงกันข้ามราคาเหล็ก Coated Steel ช่วงไตรมาส 2 ปีนี้อยู่ในช่วงขาขึ้น การแข่งขันด้านราคาลดความ รุนแรงลง และลูกค้ามีแรงจูงใจที่จะสรุปการซื้อล่วงหน้า ทำให้บริษัทมีทางเลือกในการบริหาร Stock และการซื้อเหล็กจาก BlueScope มากขึ้นส่งผลให้ GP ดีขึ้นด้วย
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมกรรมการบริษัทครั้งที่ 3/2549 ได้มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลประจำปี 2549 สำหรับผลการดำเนินงานงวด 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2549 ในอัตราหุ้นละ 0.20 บาท โดย กำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นเพื่อกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 28 สิงหาคม 2549 เวลา12.00น. และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 6 กันยายน 2549
"บริษัทฯ มีนโยบายการจ่ายปันผลไม่น้อยกว่า 40% ทั้งนี้บริษัทฯ ได้ดำเนินการตามหลักบรรษัทภิบาล ซึ่งเน้นสร้างความเชื่อมั่น ความมั่นใจ และเพิ่มมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาว ดังนั้นเมื่อผลประกอบการของบริษัทฯ ดีพอที่จะสามารถจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้นั้น บริษัทฯ จึงไม่ลังเลที่จะเร่งดำเนินการ "นายประสิทธิ์กล่าวในที่สุด
สอบถามรายละเอียดที่
คุณณัฐพงษ์ ใจแกล้ว 01-4010226