นายศิวนัส ยามดี ผู้ก่อตั้ง บริษัท คอยน์ แอสเซท จำกัด (Coin Asset) ผู้ดำเนินธุรกิจศูนย์กลางในการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินดิจิทัล ที่มีพันธมิตรมากหลายทั้งในและต่างประเทศ เปิดเผยถึงการให้บริการบนแพลตฟอร์ม เพื่อตอบโจทย์ผู้สนใจในธุรกิจคริปโต พร้อมให้บริการพัฒนาโมเดลแฟรนไชส์ (Franchise) แก่ลูกค้าในอาเซียน ควบคู่กับการพัฒนาระบบ Point of sale (POS) ซึ่งเป็นโปรแกรมแอพลิเคชัน เพื่อจำหน่ายและติดตั้งให้แก่ลูกค้า ช่วยเสริมสร้างสภาพคล่อง พร้อมเปิดตลาดเพิ่มอีกทางหนึ่ง โดยมุ่งหวังขยายฐานนักลงทุนไปยังกลุ่มนักลงทุนสถาบัน
นอกเหนือจากบริการที่หลากหลาย บริษัทฯ ยังเป็นรายแรกของประเทศไทยที่ได้ลงทุนมาตรฐาน ISO 27001:IEC 2013 ระบบบริหารจัดการความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกันกับสถาบันการเงิน เพื่อสร้างมาตรฐานความปลอดภัยแก่นักลงทุน อีกทั้งยังได้พัฒนาเทคโนโลยี BOB (Blockchain on Blockchain) เพื่อทำการเก็บธุรกรรมภายในที่เกิดขึ้นถือเป็นการสร้างความโปร่งใส ตรวจสอบได้
นายศิวนัสเผย "คอยน์ แอสเซทจะไม่จัดเก็บสินทรัพย์เงินดิจิทัล (Crypto Asset) ในรูปแบบออนไลน์ 100% แต่จะใช้วิธีกระจายการจัดเก็บในรูปแบบที่อยู่นอกเหนือเครือข่ายอินเตอร์เนท (Cold Storage) ในสัดส่วนที่เหมาะสม โดยปัจจุบัน บริษัทฯ มีผู้ใช้บริการทั้งในและต่างประเทศ อาทิเช่น กลุ่มประเทศอาเซียน และ กลุ่มประเทศเอเชียตะวันออก ที่เข้ามาใช้บริการซื้อขายแลกเปลี่ยนในแพลตฟอร์มของบริษัทฯ เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ผู้ใช้บริการของคอยน์ แอสเซทมั่นใจได้ว่าทรัพย์สินของท่านจะปลอดภัยอย่างแน่นอน"
ล่าสุด คอยน์ แอสเซท ได้รับการยอมรับจาก บมจ. เจ มาร์ท (JMART) ในการนำเหรียญ JFIN COIN เข้าซื้อขายในกระดานเป็นรายแรก เปิดเผยถึงรายการในวันแรกที่มีการนำเหรียญ JFIN COIN ขึ้นเทรดในกระดาน ว่าได้รับการตอบรับล้นหลาม มีผู้สนใจในเหรียญเป็นจำนวนมาก
"ปัจจุบันนักลงทุนไทย เริ่มให้ความสนใจในสกุลเงินดิจิทัลกันมากขึ้น สังเกตจากสินค้าและบริการหลายแห่ง ที่เริ่มรับชำระเงินด้วยเงินดิจิทัล ประกอบกับการเข้ามาศึกษา หาที่มาของมูลค่าเงินดิจิทัลโดยเฉพาะสกุลบิทคอยน์ ที่ราคาทะยานขึ้นสูงในช่วงปีที่ผ่านมากว่า 100% อีกทั้งยังมีการติดต่อเข้ามาขอคำปรึกษาในการออก ICO เพื่อใช้เป็นช่องทางการระดมทุนที่ง่ายและรวดเร็ว และจากการที่ JFIN COIN ได้เข้าเทรดวันแรกนั้น ทางเราพบว่ามีผู้ให้ความสนใจเข้ามาถึงดูคู่เทรด JFIN/THB ถึง 8,000 ยูสเซอร์ และมียอดการเข้าชมรายการหน้าคู่ JFIN ถึง 100,000 ครั้ง ใน 2ชั่วโมง ทางคอยน์ แอสเซทจึงได้ปรับขยายเซิฟเวอร์เพิ่มขึ้น เพื่อให้สามารถรองรับออเดอร์ซื้อขายได้มากกว่าเดิมถึง 5 เท่า" นายศิวนัส กล่าวเพิ่มเติม
ทั้งนี้ คอยน์ แอสเซท คาดปีนี้มีไอซีโอ (ICO) ทยอยเข้ามาจดทะเบียนซื้อขายบนแพลตฟอร์มของ คอยน์ แอสเซท ประมาณ 20 ตัว ด้วยแพลตฟอร์มนี้ จะรองรับการซื้อขายที่ทันสมัย ใช้ระบบจับคู่การซื้อขาย (Matching Server) บน Cloud server ที่รองรับการจับคู่ธุรกรรมได้รวดเร็ว โดยคอยน์ แอสเซทมีเกณฑ์ในการรับเหรียญขึ้นซื้อ-ขายบนกระดานผ่าน 3 ทีมงานผู้ตรวจสอบ ได้แก่
1. ทีมกฎหมาย ผู้ซึ่งจะทำการตรวจสอบธุรกิจ และความเสี่ยงของเหรียญ ที่ต้องการระดมทุนผ่านไอซีโอ (ICO)
2. ทีมเทคนิคคอล ที่มีหน้าที่ตรวจสอบความเป็นไปได้เชิงเทคโนโลยีและการเติบโตตามแผนของเหรียญดิจิทัล (ICO)
3. ทีมการตลาด ผู้ทำหน้าที่ประสานงาน และกิจกรรมทางการตลาดควบคู่กับผู้ออกไอซีโอ
โดยขั้นตอนเหล่านี้จะสามารถคัดกรองเหรียญที่มีคุณภาพ ทำให้ผู้ใช้บริการกระดานเทรดของคอยน์ แอสเซท มั่นใจได้ว่าเหรียญทุกเหรียญที่ขึ้นลิสต์บนกระดานมีความน่าเชื่อถือ เหมาะแก่การซื้อ-ขาย แลกเปลี่ยนแก่ผู้ใช้บริการของธุรกิจนั้น ๆ
ปัจจุบัน คอยน์ แอสเซท ดำเนินธุรกิจโดยมุ่งหวังให้บริการที่เป็นมิตรแก่ผู้ที่สนใจในโลกคริปโด (Cryptocurrency) ทั้งในและต่างประเทศ (ICO) โดยนำเหรียญ Happy Coin (HPC) เงินดิจิทัลของคนไทยที่ได้รับการ Vote เป็นเหรียญแรก ๆ และเหรียญดิจิทัล JFIN Coin ที่ออกโดย บมจ. เจ มาร์ท (JMART) ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ขึ้นลิสต์ในกระดาน ล่าสุดได้มีการลงนามสัญญาความร่วมมือร่วมกับ "ซุปเปอร์ริช" แสดงถึงความแข็งแกร่งของพันธมิตร ตอกย้ำความมั่นใจในศักยภาพและความปลอดภัยในระบบของคอยน์ แอสเซท และเพื่อเป็นการตอบแทนผู้ใช้บริการ บริษัทฯ ยังสร้างความคึกคักโดยการจัดโปรโมชั่นฟรีค่าธรรมเนียมในการซื้อขาย 30 วัน ให้แก่ ICO ที่เข้ามาลิสต์บนกระดานอีกด้วย
สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจเข้ามาซื้อขายแลกเปลี่ยน เงินตราดิจิทัล สามารถ สมัครและเปิดบัญชีได้ที่ www.coinasset.co.th และ www.coinasset.com
เกี่ยวกับบริษัทคอยน์ แอสเซท จำกัด
บริษัทคอยน์ แอสเซท จำกัด ก่อตั้งโดยนายศิวนัส ยามดี และผู้ร่วมก่อตั้งอีก 3 ท่าน ดำเนินธุรกิจศูนย์กลางในการซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล (Exchange) ที่มีพันธมิตรมากหลายทั้งในและต่างประเทศ ด้วยเงินจดทะเบียนที่ 30 ล้านบาท มุ่งหวังให้บริการที่เป็นมิตรแก่ผู้ที่สนใจในธุรกิจคริปโต ภายใต้โมเดล "ศูนย์กลางซื้อ / ขาย / แลกเปลี่ยน Cryptocurrency ที่มีมาตรฐานที่ดีที่สุดในอาเซียน"
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเข้าชมที่ www.coinasset.co.th และ www.coinasset.com