นายพนม ควรสถาพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเชียกรีน เอนเนอจี จำกัด(มหาชน) หรือ AGE ผู้นำเข้าและจำหน่ายถ่านหินบิทูมินัส (ถ่านหินสะอาด) เปิดเผยถึงผลประกอบการงวดไตรมาส 1 ปี 2561 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2561 ว่า บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการ 1,591.91 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.60% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยแบ่งเป็นรายได้จากการขายถ่านหินที่ 1,509.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.73% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา รายได้จากธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ที่ 82.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 119.3% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และกำไรสุทธิ อยู่ที่ 32.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้นช่วงเดียวกันของปีก่อน 195.5%
รายได้รวมปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีการขยายตลาดในประเทศ และต่างประเทศเพิ่มสูงขึ้นจากปีก่อน โดยปริมาณการขายในประเทศอยู่ที่ 0.59 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 31 % เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ปริมาณการขายในต่างประเทศอยู่ที่ 0.14 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 139.1 % เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ไตรมาส 1 ปี 2561บริษัทฯมีปริมาณการจำหน่ายถ่านหินทั้งตลาดในประเทศ และต่างประเทศอยู่ที่ 0.73 ล้านตัน อย่างไรก็ตามในไตรมาสนี้มีรายการพิเศษซึ่งจะบันทึกเพียงครั้งเดียว เป็นการบันทึกค่าเสียหายจากคดีฟ้องร้องเป็นจำนวนเงิน 30.27 ล้านบาท ถ้าหากไม่รวมรายการดังกล่าว บริษัทฯจะมีกำไรจากการดำเนินงานที่ 56.35 ล้านบาท
"ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2561 มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ซึ่งเป็นผลจากกลยุทธ์การขยายตลาดที่ หลากหลายทั้งในประเทศ ที่มีการขยายฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้น และต่างประเทศ อาทิ เวียดนาม มีความต้องการใช้ถ่านหิน เพื่อใช้ในกระบวนการผลิตในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ต่างๆมากขึ้น และบริษัทฯเริ่มรับรู้รายได้เพิ่มเติมจากธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์" นายพนม กล่าว
อีกทั้งธุรกิจด้านโลจิสติกส์ด้านการขนส่งทางน้ำ มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ในปีนี้ บริษัทฯเตรียมสั่งต่อเรือโป๊ะเพิ่มอีก 10 ลำ เพื่อการรองรับรองรับการขยายตัวของลูกค้าที่จะเติบโตมากขึ้น ทั้งการนำเข้าและส่งออก ส่งผลให้ภายในต้นปีหน้าบริษัทฯจะมีเรือโป๊ะ ทั้งหมด 22 ลำ นอกจากนี้บริษัทได้ปรับปรุงพื้นที่จากที่ดินที่ซื้อเพิ่มเติมในช่วงปี 2560 เพื่อขยายพื้นที่คลังสินค้าเพื่อเพิ่ม พื้นที่กองเก็บถ่านหิน และพื้นที่ให้บริการคลังสินค้า ซึ่งคาดว่าส่วนแรก จะเสร็จในช่วงไตรมาส 3 ปี 2561
ดังนั้นจากกลยุทธ์ช่องทางการขยายธุรกิจดังกล่าว ส่งผลให้บริษัทฯมั่นใจว่าอัตราการเติบโตของรายได้ในปี 2561 เป็นไปตามแผนที่วางไว้ โดยมีปริมาณการขายถ่านหินที่ 20-25% แบ่งเป็นสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศ 20% และในประเทศจะอยู่ที่ 80% และมียอดขายถ่านหินทั้งปี ที่ระดับ 3 ล้านตัน และรายได้จากธุรกิจการให้บริการในคลังสินค้า ขนสินค้าผ่านท่าเรือ และให้บริการขนส่งทางน้ำทางบก แบบครบวงจรเพิ่มมากขึ้นจากจำนวนเรือที่เพิ่มขึ้น