พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการฯ ได้กล่าวว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบ ทั้ง 2 ประเด็น คือ ประเด็นที่ 1 โครงการนำร่องการบูรณาการการบริหารจัดการวัคซีนรูปแบบใหม่ โดยการจัดทำโครงการนำร่องการบูรณาการบริหารจัดการการจัดซื้อและสำรองวัคซีนรูปแบบใหม่ เพื่อให้ประเทศไทยมีวัคซีนใช้ในการให้บริการประชาชนอย่างพอเพียงและต่อเนื่อง ทั้งในภาวะปกติและภาวะที่มีการระบาด ซึ่งจะทำให้มีความมั่นคงทางสุขภาพ สังคม และเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน โดยได้คัดเลือกวัคซีนพื้นฐาน 3 ชนิด ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการขาดแคลน ได้แก่ (1) วัคซีนโปลิโอชนิดฉีด (IPV) (2) วัคซีนรวมหัด-คางทูม-หัดเยอรมัน (MMR) และ (3) วัคซีนมะเร็งปากมดลูก (HPV) ซึ่งจะแต่งตั้งคณะทำงานติดตามกำกับและประเมินผล ที่มีปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน และให้เริ่มดำเนินการบูรณาการจัดซื้อวัคซีนได้ในปีงบประมาณ 2562 และประเด็นที่ 2 การนำวัคซีนใหม่มาใช้ในแผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค 2 ชนิด สำหรับใช้ในเด็กทั่วประเทศ คือ วัคซีนรวมคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน-ตับอักเสบบี-ฮิบ ภายในปีงบประมาณ 2562 และวัคซีนป้องกันโรคอุจจาระร่วงโรต้า ภายในปีงบประมาณ 2563
- ธ.ค. ๒๕๖๗ ภาพข่าว: มูลนิธิเมืองไทยยิ้ม รับรางวัล “องค์กรที่มีผลการดำเนินงานด้านผู้สูงอายุ” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2
- ธ.ค. ๑๗๙๒ ประมงเมืองคอนโชว์ผลงานฟื้นทรัพยากรสัตว์น้ำในพื้นที่ จับมือประมงพื้นบ้านร่วมกันทำซั้งเชือก – กระโจมบ้านปลา
- ธ.ค. ๒๕๖๗ รัฐบาลมอบเกียรติบัตร-เข็มเกียรติคุณ แก่ชาวประมง NGO เอกชน ภาครัฐ ร่วมปลดล็อคประมงไอยูยู