ไตรมาสแรกปี 2561 PDI กำไรสุทธิ 97 ล้านบาท ธุรกิจยังคงเติบโตต่อเนื่อง

ศุกร์ ๑๑ พฤษภาคม ๒๐๑๘ ๑๓:๕๕
PDI เผยผลประกอบการไตรมาส 1/61 เป็นไปตามเป้าหมาย มีกำไรสุทธิ 97 ล้านบาท จากธุรกิจการค้าโลหะสังกะสีและธุรกิจพลังงานทดแทน พร้อมเดินหน้าขยายการลงทุนในธุรกิจใหม่เพื่อสร้างรายได้และผลกำไรที่ยั่งยืนต่อเนื่อง ตั้งเป้าขยายกำลังการผลิตรวมของโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มให้ได้อีก 100 เมกะวัตต์ ภายในปีนี้

นายฟรานซิส แวนเบลเลน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผาแดงอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ PDI เปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2561 ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,289 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิจำนวน 97 ล้านบาท

ผลประกอบการไตรมาสแรกปีนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ แม้จะลดลงเมื่อเทียบกับ ไตรมาสเดียวกันของปี 2560 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 313 ล้านบาท ทั้งนี้เนื่องจากบริษัทฯ ได้ยุติธุรกิจสังกะสี ในกระบวนการผลิตแบบเดิมและปรับสู่ธุรกิจการค้าโลหะสังกะสีหรือเทรดดิ้งอย่างเต็มตัว ทำให้มีกำไรหรือมาร์จิ้นการขายสังกะสีน้อยมาก เทียบไม่ได้กับโลหะสังกะสีที่ผลิตจากสต็อกแร่ต้นทุนต่ำที่มีอยู่ เมื่อปีที่แล้ว อย่างไรก็ตามภาพรวมผลประกอบการในปีนี้ของ PDI คาดว่าจะยังคงมีแนวโน้มที่ดีมีกำไร อย่างต่อเนื่องจากธุรกิจด้านพลังงานทดแทนเป็นหลัก และรายได้อื่นจากการบริหารจัดการสินทรัพย์ที่มีอยู่และไม่ได้ใช้งานแล้วจากธุรกิจสังกะสี

PDI ประสบความสำเร็จด้านการลงทุนในช่วงเปลี่ยนผ่านธุรกิจสังกะสีสู่ธุรกิจใหม่ที่สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะธุรกิจพลังงานทดแทน ปัจจุบัน PDI มีโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์หรือโซลาร์ฟาร์มที่เปิดดำเนินการแล้วทั้งในประเทศไทยและญี่ปุ่นรวม 50 เมกะวัตต์ ซึ่งสามารถรับรู้รายได้และมีกำไรทดแทนธุรกิจสังกะสี ในปีนี้ PDI จะดำเนินการปรับปรุงการดำเนินงานโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มทั้งหมดในกลุ่มพีดีไอ เอ็นเนอร์ยี เพื่อให้การผลิตเป็นไปด้วยความราบรื่น ขณะเดียวกันอยู่ระหว่างการพิจารณาการลงทุนเพิ่มเติม โดยตั้งเป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิตให้ได้อีก 100 เมกะวัตต์ภายในปีนี้ PDI ยังคงมองหาโอกาสเข้าลงทุนในธุรกิจอื่นๆ ที่มีศักยภาพในการสร้างรายได้และกำไรเพื่อสร้างผลตอบแทน ให้ผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่อง

ข้อมูลทั่วไป

บริษัท ผาแดงอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือเรียกย่อว่า พีดีไอ ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2524 เป็นบริษัท จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีทุนจดทะเบียน 2,260 ล้านบาท ดำเนินธุรกิจเหมืองแร่และถลุงแร่สังกะสีมาเป็นระยะเวลากว่า 30 ปี ในปี 2557 บริษัทฯ ได้ปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่เพื่อยกระดับขึ้นสู่ "อุตสาหกรรมสีเขียว" ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยจัดโครงสร้างธุรกิจเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1. พีดีไอ เอ็นเนอร์ยี ดำเนินธุรกิจจัดหาพลังงานจากพลังงานทดแทนเป็นหลัก 2. พีดีไอ แมททีเรียล ดำเนินธุรกิจจัดหาผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มจากการรีไซเคิล และ 3. พีดีไอ อีโค ดำเนินธุรกิจบริหารจัดการกากอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO