นายธานินทร์ ตันประวัติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอร์โรว์ ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) (ARROW) เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจของบริษัทและบริษัทย่อยในครึ่งปีหลัง เชื่อว่าจะฟื้นตัวอย่างโดดเด่นจากครึ่งปีแรก เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ ซึ่งจะมีคำสั่งซื้อสินค้าเข้ามาอย่างสม่ำเสมอ โดยบริษัทฯ มีแผนจะผลักดันส่วนแบ่งทางการตลาดท่อร้อยสายไฟใต้ดิน ซึ่งเริ่มมีโครงการเร่งด่วนเป็นจำนวนมาก รวมทั้งการริเริ่มงานโครงการที่ดำเนินงานกับ กิจการร่วมค้า "เอ.ที.อี.เมฆา-เอส" เพื่อรับงานโครงการต่อๆไป
นอกจากนี้ ยังทยอยรับรู้รายได้จากงานในมือ (Backlog) ที่ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 900 ล้านบาท และคาดว่าจะมีงานใหม่ๆ จากภาครัฐและเอกชน ทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างเสนองานอีกไม่ต่ำกว่า 400 ล้านบาท ทำให้มั่นใจว่าผลการดำเนินงานทั้งปีจะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ไม่ต่ำกว่า 10-20% หรืออยู่ที่ประมาณ 1,600 ล้านบาทได้
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 1/2561 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2561บริษัทฯและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 38.97 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมเท่ากับ 387.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้เท่ากับ 360.57 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้น 7.41%
"รายได้ไตรมาสแรกปีนี้ถือว่าออกมาอยู่ในทิศทางที่ดี แม้กำไรสุทธิจะลดลง เนื่องจากวัตถุดิบมีราคาสูงขึ้นมาก แต่เชื่อว่าจะปรับตัวดีขึ้นอย่างโดดเด่นตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3-4/2561 เหมือนทุกๆ ปี เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ ที่มีคำสั่งซื้อทั้งจากภาครัฐและเอกชนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยภาครัฐยังคงเร่งผลักดันให้มีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งโครงการรถไฟฟ้า และการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าจากอากาศลงใต้ดิน จึงทำให้ ARROW ได้รับอานิสงส์ตามไปด้วย ทำให้มั่นใจว่าทั้งปีผลการดำเนินงานจะเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้"นายธานินทร์กล่าว