ดร.จาชชัว แพส กรรมการผู้จัดการ AddVentures โดยเอสซีจี เปิดเผยว่า AddVentures ได้เข้าลงทุนในสตาร์ทอัพ 2 ราย ได้แก่ 1.Baania แพลทฟอร์มค้นหาอสังหาริมทรัพย์พร้อมบริการข้อมูลแบบครบวงจร และ 2.GetLinks แพลทฟอร์มจัดหาบุคลากรที่มีทักษะสูงสำหรับ Tech Company ขณะเดียวกัน ได้สร้างความร่วมมือในลักษณะพันธมิตรทางกลยุทธ์ (Strategic Partnership) กับสตาร์ทอัพอีก 3 ราย ได้แก่ 1.Builk แพลทฟอร์มการบริหารธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งมีธุรกิจอยู่แล้วใน 5 ประเทศ 2.HG Robotics บริษัทผลิตหุ่นยนต์ที่แก้ปัญหาให้กับทั้งภาคอุตสาหกรรมและภาคเกษตรกรรม และ 3.Ralali B2B Marketplace สัญชาติอินโดนีเซีย
"สตาร์ทอัพทั้ง 5 ราย มีลักษณะร่วมกันคือ 1.เป็นสตาร์ทอัพที่มีโมเดลโดดเด่น สามารถแก้ไข Pain Point ในธุรกิจและอุตสาหกรรมของตัวเองได้เป็นอย่างดี 2.ทีมงานของสตาร์ทอัพแต่ละรายล้วนมีประสบการณ์ในแวดวงของตัวเองมาอย่างยาวนาน และ 3.ทั้งหมดล้วนเป็นสตาร์ทอัพด้าน Industrial, B2B และ Enterprise สอดคล้องกับแนวทางการพิจารณาลงทุนของ AddVentures สำหรับ 3 รายหลังที่เป็นพันธมิตรกันอยู่นั้น ทาง AddVentures อยู่ระหว่างการเจรจาพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องการเข้าลงทุนด้วย คาดว่าจะมีความชัดเจนในเร็วๆ นี้" ดร.จาชชัว กล่าว
ทั้งนี้ การพิจารณาเข้าลงทุนในสตาร์ทอัพทุกรายยังคงเป็นไปตามวิสัยทัศน์ You Innovate, We Scale คือการเข้าลงทุนในสตาร์ทอัพที่มีการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาช่วยแก้ปัญหาให้กับกลุ่ม Industrial, B2B และ Enterprise โดย AddVentures จะช่วยเพิ่มโอกาสเติบโตให้แก่สตาร์ทอัพเหล่านั้น ด้วยองค์ความรู้ เงินทุน ผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ ตลอดจนเครือข่ายคู่ค้าและพันธมิตรของเอสซีจีที่มีอยู่ทั่วอาเซียน
ขณะเดียวกัน AddVentures ได้เดินหน้าความร่วมมือกับ Plug and Play ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพ แอคเซอเลอเรเตอร์และ Corporate Innovation Platform ระดับโลกที่มีสำนักงานตั้งอยู่ในซิลิคอนวัลเลย์ สหรัฐอเมริกา และเป็นผู้ลงทุนรายแรกๆ ของ Google PayPal และ Dropbox โดยความร่วมมือระหว่างกันนี้จะช่วยเชื่อมโยงให้ AddVentures ได้ใกล้ชิดกับสตาร์ทอัพศักยภาพระดับโลกหลายราย เป็นการสร้างโอกาสระยะยาวเพื่อนำไปสู่การพิจารณาลงทุนหรือสร้างความร่วมมือลักษณะอื่นๆ กับสตาร์ทอัพเหล่านั้นต่อไป
ด้านนายดุสิต ชัยรัตน์ Corporate Venture Capital Fund Manager of AddVentures โดยเอสซีจี กล่าวว่า สตาร์ทอัพแต่ละรายที่ลงทุนในครั้งนี้ ต่างมีจุดเด่นที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งภาคธุรกิจและผู้บริโภค ตลอดจนสามารถต่อยอดกับธุรกิจในเครือของเอสซีจี สำหรับ Baania นั้น มีจุดเด่นที่เรื่อง Data & Analytics และ Big Data สามารถต่อยอดกับธุรกิจของเอสซีจี โดยเฉพาะธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง ด้วยการใช้ข้อมูลที่ Baania รวบรวมและจัดเก็บไว้ มาทำให้เอสซีจีเข้าใจผู้บริโภคมากขึ้นและนำไปสู่การตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างดียิ่งขึ้น
"ขณะที่การเข้าลงทุนใน GetLinks จะช่วยแก้ปัญหาใหญ่ให้แก่ทุกองค์กรที่กำลังเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่านในยุค Global Disruptive Technology รวมถึงเป็นส่วนสำคัญในการช่วยยกระดับสตาร์ทอัพอีโคซิสเท็มในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ช่วยให้คู่ค้าของเอสซีจีมีบุคลากรด้านเทคโนโลยี และต่อยอดธุรกิจด้านดิจิทัลได้ง่ายขึ้น" นายดุสิต กล่าว
สำหรับความร่วมมือเป็นพันธมิตรทางกลยุทธ์ (Strategic Partnership) กับ Builk แพลทฟอร์มการบริหารธุรกิจรับเหมาก่อสร้างนั้น AddVentures จะช่วยสนับสนุนเครือข่ายผู้ผลิตวัสดุก่อสร้างและเครือข่ายลูกค้าของเอสซีจีในอาเซียนให้มาเป็นผู้แทนจำหน่ายและลูกค้าบนแพลทฟอร์มของ Builk พร้อมทั้งร่วมกับ Builk ในการให้ความรู้ด้านการใช้แพลทฟอร์มออนไลน์กับตลาดต่างๆ เพื่อสร้างการเติบโตและโอกาสในตลาดใหม่ๆ ในอนาคต
ส่วนการทำงานร่วมกับ HG Robotics นั้น จะช่วยสนับสนุนให้เกิดการสร้าง Open Innovation ช่วยให้ทั้งเอสซีจีและภาคอุตสาหกรรมมีบริษัทพัฒนาหุ่นยนต์ที่มีเทคโนโลยีใหม่ๆ มาเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและความปลอดภัยของพนักงาน ขณะที่การทำงานร่วมกับ Ralali นั้น นอกจากจะเป็นการสนับสนุนการเติบโตของอีคอมเมิร์ซในอินโดนีเซียแล้ว ยังช่วยเพิ่มช่องทางการขายสินค้าและการทำตลาดออนไลน์ให้กับเอสซีจีในอินโดนีเซียอีกด้วย
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา AddVentures ได้มีการลงทุนโดยตรง (Direct Investment) ในสตาร์ทอัพมาแล้ว 1 ราย ได้แก่ GIZTIX และลงทุนแบบผ่านกองทุน (Fund of Fund) ใน Venture Capital มาแล้ว 2 ราย ได้แก่ Wavemaker และ Vertex Ventures
สำหรับ AddVentures โดยเอสซีจี เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อกลางปี 2560 ภายใต้วัตถุประสงค์หลักคือ ส่งเสริมศักยภาพและลงทุนในสตาร์ทอัพทั้งไทยและทั่วโลก เพื่อให้เอสซีจีสามารถเชื่อมโยงนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน รวมทั้งยังทำให้ผู้บริโภคได้ใช้สินค้าและบริการที่ดีขึ้น รวดเร็วขึ้น ตอบโจทย์การยกระดับคุณภาพชีวิตให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น โดยมีแผนในการลงทุนทั้งการลงทุนผ่านกองทุน (Fund of Fund) และการลงทุนโดยตรง (Direct Investment) ในสตาร์ทอัพทั้งในไทย อาเซียน และศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีของโลก เช่น ซิลิคอนวัลเลย์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล และเสิ่นเจิ้น ประเทศจีน ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ Industrial B2B และ Enterprise ซึ่งสอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจหลัก 3 กลุ่มของเอสซีจี ได้แก่ ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง ธุรกิจเคมิคอลส์ และธุรกิจแพคเกจจิ้ง
สตาร์ทอัพทั่วโลกที่สนใจร่วมงานกับ AddVentures สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง www.addventures.co.th และ facebook.com/AddVenturesbySCG หรือ LinkedIn: AddVentures by SCG