ซีพีเอฟ ได้รับการรับรองระบบการจัดการคุณภาพและความปลอดภัยส่วนผสมอาหารสัตว์ มาตรฐาน FAMI-QS

จันทร์ ๒๑ พฤษภาคม ๒๐๑๘ ๑๔:๔๐
บริษัท บูโร เวอริทัส เซอทิฟิเคชั่น (ประเทศไทย) จำกัด มอบใบรับรองระบบการจัดการคุณภาพและความปลอดภัยส่วนผสมอาหารสัตว์ ตามมาตรฐาน FAMI-QS (Feed Additives and PreMixtures Quality System) แก่บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการผลิตอาหารปลอดภัยตลอดห่วงโซ่

นายสุเมธ หุตินทรวงศ์ ผู้จัดการฝ่ายการพาณิชย์ บริษัท บูโร เวอริทัส เซอทิฟิเคชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผู้รับรองมาตรฐานในระดับโลก เปิดเผยว่า FAMI-QS เป็นมาตรฐานในกลุ่มประเทศยุโรป การที่ซีพีเอฟนำมาตรฐานดังกล่าวมาใช้พัฒนากระบวนการได้มาซึ่งส่วนผสมอาหารสัตว์ ที่ถือเป็นต้นทางของห่วงโซ่การผลิตอาหารปลอดภัย แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของผู้บริหารของซีพีเอฟ และสะท้อนความเป็นผู้นำด้านคุณภาพและความปลอดภัยอาหาร (Food Safety) สอดคล้องตามกฎหมายและกฎระเบียบของกลุ่มประเทศยุโรป ที่กำหนดให้มีการตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งที่มาของส่วนผสมอาหารสัตว์ (Feed Additive) ที่ผู้ผลิต/ขายต้องได้รับมาตรฐาน FAMI-QS นี้เช่นเดียวกัน จึงจะได้รับการยอมรับว่าผลิตภัณฑ์อาหารสำหรับผู้บริโภคนั้นมีความปลอดภัยอย่างแท้จริง

"ขอแสดงความยินดีกับซีพีเอฟที่ได้รับการรับรองมาตรฐานนี้ ซึ่งช่วยตอกย้ำความเชื่อมั่นให้กับซีพีเอฟและผู้รับมอบสินค้า ทั้งยังแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบต่อสังคม ในด้านการประกันคุณภาพสินค้าตลอดห่วงโซ่การผลิต ที่จะส่งผลดีต่อสุขภาพของผู้บริโภค และคาดว่าเร็วๆนี้ โรงงานผลิตพรีมิกซ์อาหารสัตว์บกบางนาก็จะได้รับรองมาตรฐานนี้เช่นเดียวกัน ความสำเร็จในครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาไปสู่การดำเนินการผลิตอย่างยั่งยืน" นายสุเมธ กล่าว

ด้าน นายเอมมานูเอล เกนยาตากิส (Mr.Emmanuel Geneiatakis) เลขาธิการ FAMI-QS ที่เป็นวิทยากรในการอบรมมาตรฐาน FAMI-QS : Version 6 ที่มาตรฐานฉบับปรับปรุงใหม่ล่าสุด ให้กับผู้บริหารและบุคลากรของซีพีเอฟ กล่าวว่า มาตรฐานนี้ครอบคลุมระบบการ จัดการด้าน GMP (Good Manufacturing Practice) ระบบ HACCP ตามมาตรฐานอาหารระหว่างประเทศ (Codex Alimentarius) และมีการบูรณาการเข้ากับระบบบริหารมาตรฐานสากลอื่นๆ เพื่อส่งเสริมให้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยต้องมีการควบคุมการใช้วัตถุดิบอาหารสัตว์และส่วนผสมอาหารสัตว์ (Feed Additive) ให้ถูกต้องตามกฎระเบียบของสหภาพยุโรป การที่ซีพีเอฟมีการผลิตที่ได้มาตรฐานนี้เป็นการยืนยันว่าองค์กรมีการผลิตที่ปลอดภัยถูกสุขอนามัยตามมาตรฐานสากล ซึ่งจะช่วยสร้างโอกาสในการส่งออกสินค้าสู่ตลาดต่างประเทศ

ส่วน นายบุญทอง อังควานิช รองกรรมการผู้จัดการด้านพรีมิกซ์ ธุรกิจวิชาการอาหารสัตว์น้ำ ซีพีเอฟ กล่าวว่า ซีพีเอฟนำมาตรฐานดังกล่าวมาใช้ในกระบวนการผลิตพรีมิกซ์อาหารสัตว์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในระบบบริหารคุณภาพและความปลอดภัยของส่วนผสมอาหารสัตว์ ทั้งยังสร้างประโยชน์ทางธุรกิจจากความสามารถในการขายพรีมิกซ์และส่วนผสมอาหารสัตว์ไปยังผู้ผลิตอาหารสัตว์ (Feed) ที่ใช้เลี้ยงสัตว์ สำหรับผลิตเป็นอาหาร (Food) และส่งออกไปในกลุ่มประเทศยุโรปช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า และซีพีเอฟจะยังคงพัฒนากระบวนการผลิตอย่างยั่งยืนเช่นนี้ต่อไป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ