นายพจน์ หะริณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วรรณ จำกัด เปิดเผยว่า การลงทุนในตลาดต่างประเทศช่วงที่ผ่านมาปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุนหลักๆ เป็นปัจจัยเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจและการต่างประเทศของประเทศสหรัฐฯ รวมถึงทิศทางการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯอายุ 10 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะที่ระดับประมาณ 3%
"กรณีความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ผมมองว่าเรื่องดังกล่าวจะจบลงด้วยการเจรจา ในส่วนของปัจจัยความขัดแย้งในแถบตะวันออกกลางยังคงเป็นความเสี่ยงทางภูมิศาสตร์(Geopolitics) โดยประเด็นดังกล่าวยังไม่ใช่ประเด็นใหม่เพียงแต่ยังคงเป็นประเด็นที่ต้องติดตามแต่มองว่าไม่น่าขยายวงกว้างมากนัก แต่ปัจจัยต่างประเทศที่บริษัทให้น้ำหนักถึงผลกระทบต่อการลงทุนหลัก คือ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลังจากสหรัฐฯรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งออกมาทำให้ตลาดเริ่มคาดการณ์ว่าเฟดมีแนวโน้มจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยปีนี้เป็นจำนวนถึง 4 ครั้ง ซึ่งเฟดจะมีการประชุมในเดือนมิ.ยนี้" นายพจน์กล่าว
นายพจน์กล่าวเพิ่มเติมว่า ในแง่ของการลงทุนในสถานการณ์ปัจจุบันบริษัทประเมินว่า หุ้นยังคงเป็นโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีและควรเลือกลงทุนในหุ้นที่มีลักษณะการเติบโตที่สูงที่จะได้ประโยชน์จากภาวะอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นและลดผลกระทบเชิงลบจากความผันผวนของตลาด ขณะที่ควรหลีกเลี่ยงสินทรัพย์ตราสารหนี้ที่มีอายุคงเหลือมากกว่า 2 ปีขึ้นไปซึ่งจะได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทน
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นทั่วโลกยังคงได้รับแรงสนับสนุนจากการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินของธนาคารกลางยุโรป(ECB) และธนาคารกลางญี่ปุ่น(BOJ) ประกอบกับค่าเงินเยนและค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงต่อเนื่อง ทั้งนี้ สำหรับตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวสูงขึ้นอย่างมากหลัง ECB ไม่ได้ส่งสัญญาณยุติQE ก่อนกำหนดและผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในยุโรปออกมาดี รวมทั้งสถานการณ์ผ่อนคลายทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนได้คลี่คลายลง ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนการลงทุนในตลาดต่างประเทศในช่วงนี้
สำหรับผลการดำเนินงานกองทุนต่างประเทศ คณะกรรมการลงทุนบลจ.วรรณ มีมติประกาศจ่ายปันผลกองทุนหุ้นต่างประเทศ ได้แก่ กองทุนเปิด วรรณ โกลบอล อิวิตี้ ฟันด์ (ONE-GLOBALEQ) ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว โดยมีกองทุนหลักคือ กองทุน Templeton Global Fund ซึ่งจะเน้นลงทุนในหลักทรัพย์ประเภทตราสารทุนของบริษัททั่วโลก ซึ่งเป็นการจ่ายปันผลจากกำไรสุทธิที่ปรับปรุงแล้วของผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 ถึงวันที่ 30 เมษายน 2561 ในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.20 บาท ซึ่งกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุน เพื่อรับสิทธิการรับเงินปันผล ในวันที่ 23 พฤษภาคม และมีกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 4 มิถุนายนนี้ ปัจจุบันพอร์ตการลงทุนของกองทุน ONE-GLOBALEQ มีสัดส่วนลงทุนหุ้นกลุ่มการเงินประมาณ 21% Health Care 17% IT 14% และพลังงาน 11%