สำหรับการจัดงาน field day ณ ศพก. อ.ขุนตาล จ.เชียงราย ในครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุนการผลิต และส่งเสริมการผลิตลำไยนอกฤดู เนื่องจากสภาพปัญหาในพื้นที่ อ.ขุนตาล มีพื้นที่ปลูกลำไยมากกว่า 6,000 ไร่ โดย ต.ยางฮอม มีพื้นที่ปลูกมากที่สุด เกษตรกรส่วนใหญ่ปลูกลำไยตามฤดูกาล ซึ่งให้ผลผลิตเพียงปีละ 1 ครั้ง (ช่วงเดือน กรกฎาคม-สิงหาคม) ผลผลิตลำไยออกพร้อมกัน ทำให้ราคาถูก พ่อค้าคนกลางกดราคา ไม่สามารถต่อรองราคากับพ่อค้าได้ ประกอบกับเกษตรกรขาดความรู้เกี่ยวกับการจัดการในสวนลำไย การผลิตลำไยนอกฤดู การแปรรูปผลผลิตลำไย ทำให้ไม่สามารถเพิ่มช่องทางการจำหน่ายได้ อีกทั้งพื้นที่ส่วนใหญ่ปลูกบนภูเขา ไม่มีเอกสารที่ดิน ขาดระบบน้ำในแปลงปลูก ทำให้ได้ผลผลิตค่อนข้างน้อย อย่างไรก็ตามกระทรวงเกษตรฯ ได้เตรียมแนวทางในการปรับเปลี่ยนเพื่อพัฒนาทางการเกษตร อาทิ
1) การลดการใช้สารเคมีโดยใช้ปุ๋ยอินทรีย์ และสารชีวภัณฑ์
2) การขุดเจาะและสร้างระบบน้ำเพื่อใช้ในพื้นที่การเกษตร
3) การส่งเสริมให้เกษตรกรผลิตลำไยนอกฤดู เพื่อสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรเนื่องจากจำหน่ายได้ในราคาที่สูงกว่าลำไยตามฤดูกาล
4) การรวมกลุ่มแปลงใหญ่ลำไยเพื่อให้มีอำนาจต่อรองกับพ่อค้าคนกลาง หรือจำหน่ายให้กับแหล่งรับซื้อโดยตรง
และ5) การพัฒนาให้เกษตรกรผลิตลำไยช่อเพื่อส่งออกไปต่างประเทศ เป็นต้น
"การเตรียมฤดูกาลผลิตใหม่ กระทรวงเกษตรฯ เน้นนโยบายการตลาดนำการผลิต โดยการควบคุมคุณภาพ โดยมี ศพก. และ ระบบส่งเสริมการเกษตรแปลงใหญ่ เป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการ มีเป้าหมายในการยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรให้ดีขึ้น และมีรายได้เพิ่มขึ้น โดยมีการดำเนินงานตามนโยบายกระทรวงฯ เช่น ศพก. แปลงใหญ่ เกษตรทฤษฎีใหม่ Zoning by Agri - MAP เป็นต้น ซึ่งนโยบายเหล่านี้จะใช้ ศพก. เป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อน และ ศพก. จะเป็นสถานที่เรียนรู้ นำไปสู่การผลิตร่วมกันแบบแปลงใหญ่ โดยอาศัยเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาช่วย และในส่วนภูมิภาค กระทรวงเกษตรฯ มีนโยบายให้จังหวัดดำเนินการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ฤดูกาลผลิตใหม่ ปี 60/61 โดยให้หน่วยงานในสังกัด บูรณาการการทำงานร่วมกันในการสนับสนุนเกษตรกรให้มีองค์ความรู้เพื่อวางแผนการผลิต เข้าถึงปัจจัยการผลิต บริหารจัดการความเสี่ยง และสร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกร" นายเลิศวิโรจน์ กล่าว