ด้วยตระหนักดีว่าการศึกษาเป็นรากฐานที่สำคัญของเยาวชนซึ่งถือเป็นพลังการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศในอนาคต แกร็บ ประเทศไทย จึงได้จัดงานมอบทุนสนับสนุนการศึกษาแก่บุตรพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่จำนวน 100 ทุน ทุนละ 10,000 บาท รวมมูลค่า 1 ล้านบาท ในโครงการ "Grab the Future" นอกจากนี้ โครงการดังกล่าวยังเป็นการสานต่อความมุ่งมั่นของแกร็บในการยกระดับคุณภาพชีวิตรวมถึงแสดงความขอบคุณพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ที่ถือเป็นหัวใจหลักของการดำเนินธุรกิจและการให้บริการผ่านการสนับสนุนครอบครัวของพวกเขา ซึ่งถือเป็นกำลังใจที่สำคัญของพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ที่ล้วนทำงานอย่างทุ่มเทเพื่อสร้างอนาคตที่มั่นคง
ในการคัดเลือกและมอบทุนสนับสนุนการศึกษาแก่บุตรของพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่นั้น แกร็บ ได้รับสมัครและคัดเลือกพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่จากทุกการบริการของแกร็บซึ่งได้แก่ แกร็บแท็กซี่ แกร็บคาร์ และแกร็บไบค์ (วิน) และแกร็บไบค์ (เดลิเวอรี่) โดยผู้ขับขี่ที่ได้รับการคัดเลือกล้วนมีประวัติการให้บริการแกร็บมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 2 ปีขึ้นไป หรือเป็นพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ที่สร้างรายได้ดีเด่นภายในระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมาและมีมาตรฐานการให้บริการเฉลี่ย 4.8 ดาวขึ้นไป อีกทั้งมีบุตรที่ศึกษาอยู่ในระดับชั้นประถมศึกษา มัธยมศึกษา ในปีการศึกษา 2561 หรือ ปริญญาตรี ในปีการศึกษา 2562
บุตรของพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ที่ถือเป็นอนาคตของชาติที่ได้รับทุนในโครงการ "Grab The Future''
ภายในงาน มีพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่แกร็บ 3 ครอบครัวที่มาร่วมเปิดใจถึงความรู้สึกในการได้รับทุนสนับสนุนการศึกษาในครั้งนี้ ครอบครัวแรกคือ "ครอบครัวเพชรภูผา" ครอบครัวเล็กๆ ประกอบด้วยคุณพ่อ คุณแม่และ ลูกชายวัยน่ารัก 2 คน ที่ทั้งคุณพ่อและคุณแม่เป็นพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่แกร็บไบค์ โดยคุณแม่กนกวรรณ เพชรภูผา ซึ่งเป็นตัวแทน ได้กล่าวถึงความรู้สึกที่ได้รับทุนสนับสนุนการศึกษาว่า "รู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่ได้รับทุนสนับสนุนการศึกษาในวันนี้ค่ะ ในฐานะแม่ ดิฉันก็อยากให้ลูกๆ ได้รับสิ่งที่ดีที่สุด ที่ผ่านมาเลยพยายามทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างอนาคตที่ดีให้กับลูก ค่าใช้จ่ายทางการศึกษาถือเป็นค่าใช้จ่ายหลักของครอบครัว เพราะเรามีลูก 2 คนที่อยู่ในวัยกำลังโตทั้งคู่ ทุนสนับสนุนการศึกษาที่ได้รับจะมาช่วยผ่อนภาระของเราไปได้มากค่ะ ซึ่งเราเองก็ต้องขอบคุณแกร็บ เพราะจากการที่ดิฉันและสามีเป็นผู้ขับขี่แกร็บไบค์มา 2 ปีกว่า ทำให้เรามีรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง นอกจากที่เราจะได้รับ-ส่ง ผู้โดยสารในช่วงเช้าและเย็นแล้ว ในระหว่างวันที่ผู้โดยสารน้อย เรายังสามารถส่งเอกสารและอาหารของแกร็บฟู้ดได้ด้วยค่ะ"
ครอบครัวที่ 2 คือ "ครอบครัวจีวนารังสรรค์" ซึ่งมีคุณพ่อชัยวิทย์ พาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่แกร็บไบค์เป็นหัวหน้าครอบครัวและลูกสาว น้องณัฐวรา ซึ่งเพิ่งได้รับข่าวดีว่าเพิ่งสอบติดคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มาเป็นตัวแทนโดยคุณพ่อกล่าวว่า "การที่ผมทำงานทุกวันนี้ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่ทำเพื่อความสุขของครอบครัวซึ่งเป็นคนที่เรารัก การได้รับทุนสนับสนุนการศึกษาจากแกร็บเป็นเสมือนรางวัลที่แกร็บมอบให้จากการที่เราให้บริการผู้โดยสารอย่างตั้งใจตลอดระยะเวลา 1 ปีกว่าที่ผ่านมา สำหรับค่าใช้จ่ายในการศึกษาของลูก 2 คน ปกติตกเดือนละประมาณหมื่นกว่าบาท ดังนั้นทุนสนับสนุนการศึกษาในวันนี้รวมกับรายได้ที่เราขับแกร็บประมาณวันละ 1,000 บาทเป็นอย่างน้อย ก็จะช่วยให้ชีวิตครอบครัวของเราสบายขึ้นครับ" ส่วนน้องณัฐวราเองก็เสริมว่าตนเองรู้สึกภูมิใจที่พ่อเป็นพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่แกร็บ เพราะเป็นอาชีพที่สุจริต และทำให้ครอบครัวมีรายได้ที่เพียงพอและช่วยให้ตนสามารถเรียนระดับมหาวิทยาลัยได้
ครอบครัวสุดท้ายคือครอบครัวคุณ ศรัณย์รัชต์ สุนทรเบญญากุล ผู้ขับขี่แกร็บคาร์ โดยคุณศรัณย์รัชต์ ได้กล่าวขอบคุณแกร็บที่มอบทุนสนับสนุนการศึกษาพร้อมกล่าวเพิ่มเติมว่า "ดิฉันขับแกร็บคาร์เต็มเวลามาเป็นระยะเวลา 10 เดือน ก่อนหน้านี้ ดิฉันต้องกลายมาเป็นหัวหน้าครอบครัวซึ่งถือว่าเป็นภาระที่ค่อนข้างหนัก เลยต้องหารายได้เพิ่มจากอาชีพอิสระที่สามารถจัดการเวลาตัวเองได้ ส่วนตัวดิฉันเองชอบงานบริการอยู่แล้วจึงเลือกขับแกร็บ ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมารายได้ที่จากการขับแกร็บช่วยให้สามารถหาเลี้ยงครอบครัวซึ่งรวมถึงคุณแม่และลูกสาว 2 คน ได้ ดิฉันรู้สึกภูมิใจมากค่ะที่เป็นหนึ่งในครอบครัวที่แกร็บคัดเลือกให้ได้รับทุนสนับสนุนการศึกษา หลังจากนี้ก็จะนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์กับลูกมากที่สุด ดิฉันตั้งใจแค่ว่าเราสอนให้ลูกเป็นคนดี ช่วยเหลือสังคมได้ เราก็พอใจแล้วค่ะ"
"ในฐานะตัวแทนของแกร็บ ประเทศไทย ผมขอแสดงความยินดีกับพี่ๆ พาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่และน้องๆ ทุกท่านที่ได้รับทุนสนับสนุนการศึกษาจากโครงการ Grab the Future ผมรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งที่โครงการของเรา สามารถช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ รวมถึงสนับสนุนการศึกษาให้แก่เยาวชนซึ่งถือเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศในอนาคต ทั้งนี้ผมขอยืนยันว่าเราจะเดินหน้าจัดโครงการและกิจกรรมดีๆ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตรวมถึงสนับสนุนการทำงานของพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ของเราในทุกๆ ด้าน" นายธรินทร์ ธนียวัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แกร็บแท็กซี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวสรุป
เกี่ยวกับ แกร็บ
แกร็บ (Grab) คือแพลตฟอร์ม O2O (Online to Offline) ที่ให้บริการอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันของลูกค้าในการเดินทาง รับประทานอาหาร ส่งของ รวมไปถึงชำระเงินผ่านมือถือและโมบายวอลเล็ต ซึ่งได้รับการเรียกใช้งานมากที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แกร็บ เชื่อว่าชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทุกคนควรได้รับประโยชน์จากการเข้าสู่เศรษฐกิจแบบดิจิทัล จึงได้ให้บริการที่หลากหลาย ซึ่งครอบคลุมการเดินทาง การรับส่งอาหาร การจัดส่งพัสดุสินค้า รวมไปถึงการชำระเงินผ่านมือถือและบริการทางการเงินต่างๆ ในปัจจุบัน แกร็บให้บริการใน 8 ประเทศได้แก่ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย ไทย เวียดนาม พม่าและกัมพูชา สามารถอ่านและติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.grab.com