นายอภิชัย เรามานะชัย รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ แอพเพิล เวลธ์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าการที่ดัชนีฯ ถูกแรงขายจากนักลงทุนต่างประเทศ เนื่องจากมีปัจจัยความเสี่ยงค่าเงิน , อัตราดอกเบี้ยสหรัฐ รวมถึง MSCI ที่เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นจีน ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยช่วงก่อนหน้านี้ปรับฐานลงเทรดที่ระดับ Forward P/E 15.8 เท่าซึ่งเป็นระดับใกล้เคียงค่าเฉลี่ย 3 ปีย้อนหลังที่ 15.5 เท่า
อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยง Downside ของดัชนี SET น่าจะเริ่มลดลง เนื่องจาก ได้ปัจจัยหนุนจากแนวโน้มกำไร บจ. ในปีนี้ที่คาดว่าจะขยายตัวได้ดีราว 9 –10 % จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยจะได้รับอานิสงส์แนวโน้มเศรษฐกิจใประเทศที่คาดจะขยายตัวที่ระดับ 4.5 % จากภาคส่งออก , การลงทุนภาครัฐและเอกชน รวมถึงภาคการท่องเที่ยว ที่มีแนวโน้มเติบโตดี
ขณะที่โรดแมปการเลือกตั้งใหม่น่าจะเกิดขึ้นในช่วง เม.ย. – พ.ค.62 จะช่วยหนุนให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังกลับมาขยายตัวดี และนักลงทุนต่างชาติมีโอกาสที่จะให้น้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไทยเพิ่มมากขึ้น ทำให้ฝ่ายวิเคราะห์ประเมินภาวะตลาดหุ้นไทยในเดือน มิ.ย. 2561 มีโอกาสเคลื่อนไหวในกรอบแนวรับ 1,700 จุด แนวต้าน 1,750 – 1,770 จุด
" จากการประเมินสัญญาณทางเทคนิคตลาดหุ้นไทยในเดือน ที่ผ่านมา ดัชนีฯลงไปทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,712.02 จุดซึ่งเป็นการทำจุดต่ำสุดใหม่ของรอบการปรับฐาน ประกอบกับดัชนีฯ เริ่มหลุดแนวรับ Uptrend Line ใหญ่และต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย SMA. 200 วัน บริเวณ 1,730 จุด ซึ่งถือว่าเป็นสัญญาณลบสะท้อนแนวโน้มของดัชนีที่มีโอกาสปรับฐานลงต่อสู่บริเวณแนวรับ 1,680 – 1,700 จุด ขณะที่ RSI เริ่มปรับตัวลดลงใกล้ระดับ Oversold"
กลยุทธ์ ในเดือน มิ.ย. หากดัชนี ฯ ยังไม่สามารถยืนเหนือระดับ 1,730 จุด ให้ระวังแรงขาย และรอซื้อที่ระดับ 1,680 –1,700 จุด แต่หากดัชนีฯสามารถยืนบริเวณ 1,730 จุดได้ ประเมินดัชนีจะ Sideway Up ไปทดสอบแนว ต้านบริเวณ 1,750 –1,770 จุด แนะนำซื้อเก็งกำไรหุ้นที่มีสัญญาณบวกทางโมเมนตัม เช่น CK , UNIQ , AMATA ,BLAND , GOLD , SAT , TKN , WHAUP