"...ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ความรู้ที่ได้จากเวทีนี้จะนำไปสู่การสร้างวิสัยทัศน์ร่วม หรือกำหนดยุทธศาสตร์ที่เกี่ยวกับ Bio Economy ทางด้านอาหารและการเกษตรแห่งอนาคตร่วมกัน ประสานพลังร่วมกันก้าวเดิน เพื่อสร้างระบบนิเวศหรือ ecosystems ที่สอดคล้องเหมาะสมกับประเทศของเรา มีความมั่นคง ทำให้ SMEs ด้านอาหารและการเกษตรของไทย เกิดการแปลงรูป ก้าวไปสู่การสร้างนวัตกรรม ทำให้ศักยภาพในการวิจัยและการสร้างนวัตกรรมของประเทศมีความเข้มแข็ง อันเนื่องมาจากความร่วมมือในหลายๆ ภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทำให้ SMEs มีพลัง เกิดการลงทุนด้านนวัตกรรมในอนาคตข้างหน้าที่ตอบโจทย์ของประเทศได้ และตอบสนองนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ได้อย่างทรงประสิทธิภาพ..." ดร.สุวิทย์ฯ กล่าวสรุป
นายมนู เลียวไพโรจน์ ประธาน บริษัท ยูบีเอ็ม เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด พันธมิตรที่ร่วมจัดงานฯ กล่าวในฐานะผู้จัดงานแสดงสินค้าและสัมมนาด้านส่วนผสมอาหารว่า การพัฒนาและวิจัยผลิตภัณฑ์นั้นเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะจะช่วยสร้างความแตกต่าง และช่วยให้ผู้ประกอบการได้เรียนรู้วิธีการใช้ทรัพยากร และผลผลิตทางการเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ กระผมขอยกตัวอย่าง ประเทศไทยถือเป็นประเทศที่ผลิตอาหารเพื่อส่งออกในอันดับต้นๆ ของโลก โดยในปี 2560 ประเทศไทยมีแนวโน้มในการส่งออกอาหารขยายตัวเพิ่มขึ้นในมูลค่า 950,000 ล้านบาท โดยเฉพาะการส่งออกไปยังกลุ่มอาเซียน และโดยเฉพาะกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม) จากตัวเลขดังกล่าว หาก SMEs มีโอกาสได้เข้าถึงผลงานวิจัย และพัฒนาที่ทาง วว. ได้พัฒนาขึ้น มีโอกาสนำผลิตภัณฑ์ของตน มาร่วมงานพัฒนาที่ทาง วว. จัดให้บริการนั้น มั่นใจว่า วว. จะเป็นหน่วยงานที่จะช่วยให้ผลิตภัณฑ์สินค้าของ SMEs นั้น ได้มีการรับรองการวิจัยเพื่อทำการค้าในระยะยาว และหน่วยงาน SMEs จะมีโอกาสเป็นผู้ค้าที่สามารถเข้าร่วมในเวทีการส่งออกได้ เพราะตามตัวเลขสถิติแล้ว เชื่อว่าในอีก 5 ปี การส่งออกอาหารแปรรูปจะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นถึง ร้อยละ 50 – 55 ของอาหารที่ผลิตทั้งหมด โดยปัจจุบันอยู่ในระดับร้อยละ 49 เพราะฉะนั้น ผู้ประกอบการไทยจึงมีความจำเป็นต้องพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพและได้รับมาตรฐานสากล การวิจัยและพัฒนา มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาคุณภาพ ที่สร้างความแตกต่างให้กับสินค้าเกษตร อาหาร ให้ตรงกับความต้องการของตลาด
ดร.ลักษมี ปลั่งแสงมาศ ผู้ว่าการ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กล่าวถึงภารกิจขององค์กรว่า วว. ให้การสนับสนุนและสร้างสรรค์สังคมผู้ประกอบการของไทยในระดับ SME และวิสาหกิจชุมชนให้มีการนำ วทน. ไปใช้เพื่อต่อยอดในเชิงพาณิชย์ได้อย่างเติบโตและยั่งยืนมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนการพัฒนาและสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านการเกษตรและอาหารให้แก่ผู้ประกอบการและชุมชนทั่วประเทศ ดังนั้น วว. จึงได้จัดงานสัมมนาและนิทรรศการ "Transforming SMEs through Innovation : From Local to Global Player in Bio Economy" ขึ้น ระหว่างวันที่ 4-5 มิถุนายน 2561 ณ ห้องบอลรูม A ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อนำนโยบายรัฐบาลมาปฏิบัติให้เกิดผลเป็นรูปธรรม โดยเปิดเวทีในการนำงานวิจัยและพัฒนา การถ่ายทอดเทคโนโลยี และการให้บริการอุตสาหกรรม มาเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจชาติด้วยระบบเศรษฐกิจกระแสใหม่
"...วว. ได้เลือกด้านเศรษฐกิจฐานชีวภาพ หรือ Bio Economy ซึ่งเป็นสาขาที่ วว. เชี่ยวชาญ มาเป็นพลังแห่งการพัฒนาผู้ประกอบการไทย สร้างเสริมให้เกิดความแข็งแกร่งทั้งเชิงพาณิชย์และเชิงสังคม โดยเฉพาะกลุ่ม SMEs ด้านเกษตรและอาหารของไทย ให้สามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงและเป็นกำลังสำคัญในการส่งเสริมเศรษฐกิจของชาติต่อไป นอกจากนี้ยังถือเป็นจุดเริ่มต้นครั้งสำคัญในการขยายทิศทางการดำเนินงานของ วว. ในปัจจุบันให้สามารถตอบสนองความต้องการของประเทศในการสร้างผู้ประกอบการที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม ที่เรียกว่า Innovation-Driven Enterprise หรือ IDE..."ผู้ว่าการ วว.กล่าว
กิจกรรมและการสัมมนาในงาน "Transforming SMEs through Innovation : From Local to Global Player in Bio Economy" ประกอบด้วย
- การบรรยายของวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ถึงแนวทางการพัฒนาและขับเคลื่อน SMEs ที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมด้านการเกษตรและอาหารของไทยไปสู่ตลาดโลกอย่างยั่งยืนด้วย วทน. ตามนโยบายของรัฐบาล
- งานสัมมนาและกิจกรรม ที่แสดงถึงความเชี่ยวชาญของ วว. และพันธมิตรในด้านนวัตกรรมอาหาร เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนบทบาทของไทยในการเป็นครัวของโลก (Kitchen of the World)
- นิทรรศการผลงานวิจัยพัฒนา ถ่ายทอดเทคโนโลยี บริการอุตสาหกรรม เพื่อแสดงศักยภาพในแต่ละสาขาความเชี่ยวชาญของ วว. และเครือข่ายพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศที่เกี่ยวข้อง เช่น Chinese Academy of Sciences (CAS) และ Japan Packaging Institute (JPI) เป็นต้น
- การให้คำปรึกษาและสนับสนุนด้านเทคโนโลยี ตลอดจนการจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) โดยมีการให้คำปรึกษาเพื่อแนะนำแนวทางและสนับสนุนการดำเนินงานแก่ผู้ประกอบการ
ผลงานเด่นๆ ที่ วว. และพันธมิตรได้จัดแสดงให้ผู้เข้าร่วมงานได้สัมผัสและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ อาทิ ผลิตภัณฑ์นาโนเซรั่มจากสารสกัดใบบัวบก ผลิตภัณฑ์แคปซูลสารสกัดขิงบรรเทาอาการคลื่นไส้อาเจียนสำหรับผู้ป่วยมะเร็งที่รับเคมีบำบัด ดักแด้ไหมอีรี่ เบต้ากลูแคน Functional Ingredients ระบบโครงสร้างพื้นฐานเสริมแกร่ง SMEs ได้แก่ Smart Packaging การบริการทดสอบบรรจุภัณฑ์สินค้าอันตราย NQI for Bio-Industry การทดสอบความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางด้วยผิวหนังจำลอง 3 มิติ การประเมินคุณภาพทางประสาทสัมผัส การทดสอบคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์อาหารและวัสดุสัมผัสอาหาร การผลิตวัสดุอ้างอิงรับรอง Success Case ผู้ประกอบการที่ประสบผลสำเร็จในระดับประเทศและเตรียมก้าวสู่ระดับนานาชาติ และ Food Innopolis