“ดับบลิวซีจีไดมอนด์” เผยตลาดเพชรลาวโอกาสเติบโตสูง

ดับบลิวซีจี ไดมอนด์ ร่วมกับพันธมิตรท้องถิ่นใน สปป.ลาว เตรียมแผนจัดกิจกรรมขอบคุณลูกค้าปลายปีนี้ที่เวียงจันทน์ ในธีม Paris ภายใต้แนวคิด ทองลาวก้าวสู่ตลาดโลก ระบุตลาดเครื่องประดับและอัญมณีลาวยังมีศักยภาพและมีโอกาสเติบโตสูง จากปัจจัยด้านกำลังซื้อโดยรวมดีเพราะเศรษฐกิจลาวมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็น 7%

นางศุภากรณ์ ปรีชา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ดับบลิว ซี จี ไดมอนด์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายจิวเวลรี่ แบรนด์ WCG DIAMOND กล่าวว่า จากประสบการณ์ที่บริษัทได้คลุกคลีอยู่ในวงการตลาดเพชรมานานกว่า 10 ปี จึงเห็นว่าภาพรวมตลาดเพชรยังคงมีแนวโน้มเติบโตได้ดี โดยเฉพาะตลาดใน สปป.ลาวที่สินค้าประเภทเครื่องประดับเพชรยังมีแนวโน้มดีไม่แพ้ประเทศอื่นๆ ในแถบอาเซียน เนื่องจากอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจมีการขยายตัวดี โดยในปี 2560 ภาพรวมเศรษฐกิจมีอัตราเติบโตกว่า 6% และในปีนี้คาดว่าจะเติบโตอยู่ที่ 7% ซึ่งเป็นอัตราเติบโตที่สูงกว่าประเทศไทย นอกจากนี้ สปป. ลาว ยังเป็นประเทศที่มีพรมแดนติดกับไทย และมีการค้าขายสินค้ามาอย่างยาวนาน อีกทั้งสินค้าของไทยยังเป็นที่ยอมรับของคนลาว โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มอัญมณีและเครื่องประดับนั้นยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง

จากข้อมูลของศูนย์ข้อมูลอัญมณีและเครื่องประดับ สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)ที่ระบุว่าชาวลาวมีกำลังซื้อสูงและนิยมซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย นับตั้งแต่ลาวเปิดรับการลงทุนตั้งแต่ปี 2529 ประกอบกับรัฐบาลได้เร่งเดินหน้าแผนพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ทำให้เศรษฐกิจมีการขยายตัวสูง ส่งผลให้ประชากรมีกำลังซื้อมากขึ้น ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้ โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในนครหลวงเวียงจันทน์ ติดชายแดนไทยที่จังหวัดหนองคาย รวมถึงชาวลาวในเมืองปากเซและเมืองใกล้เคียงที่ติดชายแดนไทยที่จังหวัดอุบลราชธานี นิยมขับรถเดินทางข้ามมาฝั่งไทยในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์เพื่อมาท่องเที่ยว และจับจ่ายซื้อสินค้าในจังหวัดเมืองหน้าด่านของไทย

นอกจากนี้ข้อมูลยังระบุอีกว่าการซื้อสินค้านั้น ชาวลาวมมีฐานะดีพร้อมที่จะจ่ายและซื้อสินค้าคุณภาพดี สินค้าที่ทันสมัย นิยมซื้อสินค้าที่แสดงถึงสถานะทางสังคม ได้แก่ โทรศัพท์มือถือ เสื้อผ้า เครื่องสำอาง และเครื่องประดับ เป็นต้น และอีกหนึ่งตัวอย่างที่แสดงว่าชาวลาวมีกำลังซื้อสูง และนิยมสินค้าหรูอย่างเครื่องประดับของบริษัท ดับบลิว ซี จี ไดมอนด์ จำกัด ซึ่งเป็นแบรนด์เครื่องประดับของไทยที่ได้ขยายตลาดไปยังสปป.ลาวในรูปแบบความร่วมมือกับพันธมิตรท้องถิ่น (ร้านคำสีหอม มีสุก) ที่จำหน่ายเครื่องประดับเพชรใน สปป.ลาว และมีอัตราการเติบโตถึง 10% (ข้อมูล ม.ค.-ต.ค.2559) เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

ทั้งนี้ จากข้อมูลด้านเศรษฐกิจที่เป็นดัชนีชี้วัดว่าเศรษฐกิจใน สปป.ลาวยังคงเติบโตในปีนี้ บริษัทจึงได้ร่วมมือกับพันธมิตรในลาว เตรียมแผนจัดกิจกรรมขอบคุณลูกค้าที่ลาวเป็นประจำต่อเนื่องทุกปี โดยในปีนี้จะมีการจัดงานในช่วงปลายปี 2561 ภายใต้แนวคิด "ทองลาวก้าวสู่ตลาดโลก" ซึ่งภายในงานจะถูกจัดขึ้นในธีม Paris ที่ภายในงานจะมีการจัดกิจกรรม จับแจกรางวัลต่างๆมากมาย รวมถึงการเชิญศิลปินคนดังจากไทยที่เป็นที่นิยมของคนลาวร่วมกิจกรรมดังกล่าว อย่างไรก็ตาม การจัดงานร่วมกับพันธมิตรในลาวนอกจากจะเป็นการขอบคุณลูกค้าแล้ว ประเด็นสำคัญคือการมองถึงโอกาสและการเติบโตที่ดีในลาว เพราะจะเห็นได้ว่าตลาดลาวยังมีศักยภาพที่จะเติบโตอีกสูง โดยเฉพาะกำลังซื้อของผู้บริโภคที่มีความต้องการซื้อสูงเช่นเดียวกัน