นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของเกษตรแปลงใหญ่ในช่วงที่ผ่านมา โดยระบุว่า ตลอดการดำเนินนโยบายในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา (ปี 2559 - ปัจจุบัน) ถือว่าได้ผลตอบรับจากเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง จากตัวเลขในปี 2559 มีจำนวนแปลงใหญ่เข้าร่วมโครงการ 597 แปลง ในพื้นที่ 1,403,438.41 ไร่ รวมเกษตรกรจำนวน 95,169 ราย เพิ่มขึ้นในปี 2560 มีจำนวนแปลงใหญ่ใหม่อีก 1,934 แปลง พื้นที่ 1,965,875 ไร่ เกษตรกรรายใหม่ 153,789 ราย
ขณะเดียวกันในปี 2561 กรมฯ มีเป้าหมายดำเนินงานเพิ่มจำนวนแปลงใหญ่อีก 1,838 แปลง ซึ่งข้อมูลล่าสุดในเดือนเมษายนที่ผ่านมา พบว่ามีจำนวนแปลงใหญ่เพิ่มขึ้นแล้ว 1,636 แปลง พื้นที่รวมกว่า 1.85 ล้านไร่ รวมจำนวนเกษตรกรรายใหม่ 74,483 ราย กรมฯ จึงมั่นใจว่าการดำเนินงานในปีนี้ จะมีแปลงใหญ่เพิ่มขึ้นเกินกว่าเป้าหมายที่วางไว้ จึงนับเป็นความสำเร็จของนโยบายเกษตรแปลงใหญ่ที่รัฐบาลผลักดัน เพราะนอกจากจำนวนเกษตรกรรายใหม่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีผลการดำเนินงานในด้านการลดต้นทุน และการเพิ่มผลผลิต ส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน
"วัตถุประสงค์หลักของเกษตรแปลงใหญ่ ต้องการสนับสนุนให้เกษตรกรมีการบริหารจัดการร่วมกัน นำไปสู่การลดต้นทุน และเพิ่มผลผลิต ซึ่งก็พบว่าที่ผ่านมาทำได้ดีเยี่ยม อาทิ เกษตรแปลงใหญ่ข้าว ที่มีจำนวน 1,685 แปลง ข้อมูลการเข้าร่วมแปลงใหญ่ระหว่างปี 2559 – 2560 พบว่าสามารถลดต้นทุนสะสมไปได้ถึง 449.51 ล้านบาท ผลผลิตเพิ่มขึ้น 1,579.10 ล้านบาท เช่นเดียวกับแปลงใหญ่พืชไร่ ประเภทมันสำปะหลัง ลดต้นทุนสะสม 121.57 ล้านบาท ผลผลิตเพิ่ม 302.29 ล้านบาท เป็นต้น" นายสมชาย กล่าว