วิทูร ศิลาอ่อน กรรมการผู้จัดการใหญ่สายปฎิบัติการและบุคคล บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) เผยว่า "จากแนวโน้มธุรกิจร้านอาหารที่เติบโตอย่างต่อเนื่องตลอดช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา ด้วยพฤติกรรมการรับประทานอาหารนอกบ้านของกลุ่มคนเมืองที่มีมากขึ้น รวมทั้งธุรกิจท่องเที่ยวที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง "ฟู้ดเซอร์วิส" จึงกลายเป็นตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะช่องทางกลุ่มธุรกิจร้านอาหารต่างๆ ที่มีเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ความต้องการด้านอาหาร วัตถุดิบปรุงอาหาร และอาหารพร้อมรับประทานเพิ่มขึ้นเช่นกัน ทั้งนี้ เพื่อลดขั้นตอนการประกอบอาหารให้น้อยลง และสามารถให้บริการลูกค้าจำนวนมากได้ในเวลาอันรวดเร็ว เอส แอนด์ พี ในฐานะผู้นำธุรกิจอาหารด้านอาหารไทยและเบเกอรี่ จึงได้ปรับกลยุทธ์ใหม่ภายใต้แนวคิด "S&P Food Service Provider and Solution" ที่มุ่งเน้นการพัฒนาสินค้าและจัดจำหน่ายให้กับธุรกิจช่องทางฟู้ดเซอร์วิสเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการให้พร้อมรับการเติบโตของธุรกิจในช่องทางฟู้ดเซอร์วิสมากขึ้น
สำหรับ Food Service Provider and Solution เป็นการจัดหาวัตถุดิบเพื่อใช้เป็นส่วนประกอบในการปรุงอาหารที่มีความหลากหลาย สะดวก รวมทั้งยังมีบรรจุภัณฑ์ทั้งขนาดใหญ่และเล็กเพื่อให้เหมาะกับความต้องการของผู้ประกอบการ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริการให้รวดเร็ว เช่น ไส้กรอก แฮม เบคอน นอกจากนี้เอส แอนด์ พี ยังร่วมพัฒนาสินค้าเสมือนเป็นเพื่อนคู่คิดด้านอาหารและเบเกอรี่ให้กับผู้ประกอบการด้วย นอกจากนี้ ยังมีอาหารพร้อมรับประทาน (Ready meal) ทั้งรูปแบบอาหารคาวหวาน และเบเกอรี่ โดยได้พัฒนาหลากหลายเมนูอาหารสำหรับผู้ประกอบการ ในกลุ่มอาหารคาว เช่น น้ำแกงส้ม น้ำแกงเขียวหวาน สปาเกตตี้คาโบนาร่า ข้าวต้ม เป็นต้น กลุ่ม ขนมหวานไทย เช่น บัวลอยเผือกมะพร้าว ทับทิมกรอบ ข้าวเหนียวมูน และกลุ่มเบเกอรี่สำหรับอบสด เป็นต้น
นอกจากนี้ อีกหนึ่งวัตถุดิบของเอส แอนด์ พี ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก และมียอดขายเป็นอันดับหนึ่งในช่องทางฟู้ดเซอร์วิส คือ ข้าวเหนียวมูน ด้วยรสชาติอร่อย หอม นุ่ม เม็ดเรียวโต อันเป็นสูตรเฉพาะของเอส แอนด์ พี ซึ่งได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ารายใหญ่จำนวนมาก ในการนำไปเป็นส่วนประกอบของทั้งเมนูของหวานและเครื่องดื่มในช่วงหน้าร้อนนี้
สำหรับภาพรวมของกลุ่มธุรกิจเอส แอนด์ พี ยังได้มีการจัดจำหน่ายสินค้าครอบคลุมทุกช่องทาง ในประเทศ เช่น ซุปเปอร์มาร์เก็ต โมเดิร์นเทรด และร้านสะดวกซื้อ โดยในปี 2018 มุ่งยอดขายกว่า 950 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 15% ซึ่งในแต่ละปียังได้มีการพัฒนาสินค้าใหม่ๆ รวมทั้งพัฒนาบรรจุภัณฑ์รูปแบบใหม่ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลายทั้งกลุ่มวัยรุ่น วัยทำงาน และกลุ่มครอบครัวระดับกลางขึ้นไป อีกทั้งยังสอดรับกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป อาทิ ความใส่ใจในเรื่องสุขภาพ การให้ความสำคัญกับแหล่งวัตถุดิบคุณภาพที่มีของผลิตภัณฑ์รสชาติอร่อย ในปีนี้เอส แอนด์ พี ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปแช่แข็ง ดังนี้
- กลุ่มอาหารมังสวิรัติ (Veggie) มี 4 เมนู ได้แก่ ข้าวผัดคีนัวสมุนไพรมังสวิรัติ วุ้นเส้นอบเต้าหู้เนื้อนิ่มเห็ดรวมมังสวิรัติ มักโรนีผักโขมอบชีสเห็ดออรินจิและเห็ดฟางมังสวิรัติ และข้าวพะแนงเต้าหู้มังสวิรัติ
- กลุ่มข้าวไรซ์เบอร์รี่ออแกนิค ซึ่งในปีนี้ได้ปรับบรรจุภัณฑ์ใหม่ และปรับน้ำหนักและราคาลดลงจากเดิม เพื่อให้ผู้บริโภคได้เลือกรับประทานเมนูข้าวไรซ์เบอร์รี่ออแกนิคที่หลากหลายและราคาย่อมเยาขึ้น มี 3 เมนู ได้แก่ ข้าวไรซ์เบอร์รี่แกงเขียวหวานหมูและมะเขือม่วง ข้าวผัดไรซ์เบอร์รี่ไก่และธัญพืช และข้าวไรซ์เบอร์รี่แกงเผ็ดไก่และยอดมะพร้าวอ่อน
- กลุ่มเยลลี่สูตรน้ำตาลน้อย (สูตรหญ้าหวาน Stevia) มี 4 รสชาติ ทั้งรสสละ ส้ม ลิ้นจี่ และสตอร์เบอร์รี่
- กลุ่มขนมหวาน สินค้าใหม่ ในปี 2018 ได้แก่ บัวลอยมันม่วงมะพร้าวอ่อน (สูตรน้ำตาลน้อย)
- กลุ่มเค้กแช่แข็ง สินค้าใหม่ ได้แก่ เค้กทุเรียน เค้กกล้วยหอม เค้กกล้วยหอมมะพร้าวอ่อน
ในส่วนของการส่งออก เอส แอนด์ พี ยังคงขยายผลิตภัณฑ์ไปตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง และครอบคลุมภูมิภาคต่างๆ มากขึ้น ทั้งอเมริกา ยุโรป และเอเชีย โดยมีผลิตภัณฑ์ส่งออก เช่น อาหารสำเร็จรูปแช่แข็ง และกลุ่มเครื่องแกงไทยที่สามารถหาซื้อได้ง่าย มีความสะดวกในการนำมาประกอบอาหาร เก็บไว้ได้นาน และที่สำคัญคือ ไม่ใส่ผงชูรส ไม่เจือสีและสารสังเคราะห์ ซึ่งดีต่อสุขภาพ อาทิ ชุดอาหารไทยน้ำแกงเขียวหวาน ชุดอาหารไทยน้ำปรุงผัดไทย ชุดอาหารไทยน้ำแกงมัสมั่น ชุดอาหารไทยน้ำแกงแดง และชุดอาหารไทยน้ำแกงพะแนง ในปีนี้มีสินค้าใหม่อีก 2 รายการ คือ น้ำส้มตำ และน้ำยำ เพื่อเอาใจผู้บริโภคที่ชื่นชอบรสชาติจัดจ้านแบบไทยๆ"
นอกจากนี้ ภายในงานยังมีอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญที่เป็นความภาคภูมิใจของ เอส แอนด์ พี โดยได้รับตรา "Thai SELECT" ในกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารไทยสำเร็จรูปที่มีรสชาติความเป็นไทยแท้และยังถือเป็นการการันตีมาตรฐานส่งออกในระดับสากล จากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ รวม 15 รายการ ได้แก่ 1.ต้มยำกุ้ง 2.ผัดไทยกุ้ง 3.มัสมั่นกุ้ง 4.แกงเขียวหวานกุ้ง 5.ข้าวผัดกระเพรากุ้ง 6.กุ้งอบวุ้นเส้น 7.ข้าวผัดธัญพืช 8.ข้าวเหนียวมะม่วง 9.ข้าวเหนียวดำน้ำกะทิมะพร้าวอ่อน 10.บัวลอยเผือก 11.สาคูถั่วดำมะพร้าวอ่อน 12.กล้วยบวดชี 13.ข้าวเหนียวทุเรียน 14.ข้าวเหนียวสังขยา และ 15.ขนมหม้อแกง
เอส แอนด์ พี ยังคงมุ่งมั่น พัฒนาศักยภาพการผลิตและคุณภาพของผลิตภัณฑ์อาหารไทยแท้ให้หลากหลายและรักษาคุณภาพมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมสนับสนุนอาหารไทยและผลิตภัณฑ์จากเกษตรกรไทยให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน