การ์ทเนอร์จัดอันดับเมจิกควอแดรนท์โครงสร้างพื้นฐานคอนแทคเซ็นเตอร์ทั่วโลกประจำปี 2018 ชี้ชัดอวาย่าครองตำแหน่งอันดับผู้นำโลก

ศุกร์ ๐๘ มิถุนายน ๒๐๑๘ ๑๓:๒๙
อวาย่าโฮลดิ้งส์ คอร์ป (ชื่อย่อในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ค: AVYA) ได้รับเลือกให้อยู่ในตำแหน่งผู้นำโครงสร้างพื้นฐานคอนแทคเซ็นเตอร์ทั่วโลกจากการจัดลำดับเมจิกควอแดรนท์ของการ์ตเนอร์ 2018 และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 17 ที่อวาย่าได้รับตำแหน่งนี้ โดยองค์กรที่จัดอยู่ในประเภทลีดเดอร์ในเมจิกควอแดรนท์ของการ์ทเนอร์หมายถึงจะต้องมีคุณสมบัติดังนี้ "บริษัทที่มีผลการทำงานดีตามกระแสทัศนวิสัยขององค์กร รวมถึงได้วางตำแหน่งของบริษัทอย่างเหมาะสมสอดคล้องกับอนาคต"

มร. จิม ชิริโค ประธานบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อวาย่า กล่าวว่า "โดยทั่วไปแล้วบริษัทที่ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของลูกค้ามีแนวโน้มที่รายได้จะเติบโตสูงขึ้น" "หัวใจสำคัญของประสบการณ์ลูกค้าระดับคุณภาพในยุคดิจิทัลต้องเริ่มต้นด้วยโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งและมีความยืดหยุ่น ช่วยให้องค์กรสามารถบริหารจัดการประสบการณ์ของลูกค้าได้รอบด้าน และให้บริการลูกค้าได้เป็นอย่างดีในอนาคต "องค์กรหลายแห่งต่างก็พึ่งพาอวาย่าในการปฏิรูปธุรกิจด้วยดิจิทัล นี่คือสาเหตุที่เรามั่นใจว่าไม่มีใครในแวดวงอุตสาหกรรมนี้ที่มีประวัติศาสตร์ในฐานะผู้นำอันยาวนาน รวมถึงมีวิสัยทัศน์ และการดำเนินงานแบบเดียวกับอวาย่า การจัดอันดับให้อวาย่าเป็นผู้นำในเมจิกควอแดรนท์ของการ์ทเนอร์นับเป็นการตอกย้ำข้อเท็จจริงนี้"

องค์กรในกว่า 150 ประเทศทั่วโลก เช่น Alorica, Eletropaulo, Exelon, Florius, Liberty Mutual, Yanfeng Automotive Interior Systems ต่างเลือกใช้โซลูชั่นคอนแทคเซ็นเตอร์ของอวาย่าเพื่อปฏิรูประบบบริการลูกค้าและสนับสนุนการทำงานขององค์กร ด้วยพอร์ตโฟลิโอที่ครบครัน สามารถตอบโจทย์ได้ตั้งแต่ต้นจนจบของอวาย่าช่วยผลักดันการปฏิรูปธุรกิจด้านดิจิทัล โดยให้บริการโครงสร้างพื้นฐานที่ปลอดภัย และมีความยืดหยุ่น เพื่อสนับสนุนการบริการด้วยตัวเองหรือการให้ความช่วยเหลือลูกค้าได้อย่างไร้รอยต่อผ่านทุกๆ ช่องทาง รวมถึงความสามารถในการสร้างและผสานแอพพลิเคชั่นแบบ in house ไม่ว่าจะเป็นแอพพลิเคชั่นจากอวาย่าหรือจากผู้ให้บริการรายอื่น รวมถึงเครื่องมือบริหารจัดการ workforce ที่ช่วยให้การปรับปรุงงานเป็นไปอย่างต่อเนื่อง อวาย่าเชื่อว่าพอร์ตโฟลิโอที่ครบถ้วนนี้เองที่แสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญของประสบการณ์ลูกค้าเป็นอันดับต้น โดยอ้างอิงจากรายงานของการ์ตเนอร์:

"ท่ามกลางโครงการมากมายเพื่อปรับปรุงคุณภาพประสบการณ์ของลูกค้า การสร้างความเป็นบุคคล เสียงของลูกค้า เมทริกส์ และโครงการที่เกี่ยวข้องกับมัลติแชนเนล ทั้งหมดนี้จะเป็นกิจกรรมที่ถูกให้ความสำคัญมากที่สุดในปี 2018"

Avaya Oceana โซลูชั่นคอนแทคเซ็นเตอร์ที่เป็นสัญลักษณ์ของอวาย่า ช่วยในการทำงานแบบ Omnichannel เพื่อประสบการณ์การติดต่อสื่อสารกับลูกค้าที่สร้างความเป็นส่วนตัวผ่านหลากหลายช่องทาง ทั้งในสถานการณ์ที่เจ้าหน้าที่คอลล์เซ็นเตอร์ต้องมีความสามารถยอดเยี่ยมในการตอบสนองลูกค้า หรือปรับเปลี่ยนตัวเองให้เข้ากับบริบทที่แตกต่าง รวมถึงผสมผสานช่องทางการสื่อสารอย่างชาญฉลาดและไร้รอยต่อ สามารถส่งต่อข้อมูลได้โดยปราศจากการส่งต่อด้วยมือ ทั้งการเชื่อมต่อด้วยการให้บริการผ่านทางมือถือ การบริการโดยที่ลูกค้าบริการตนเอง หรือการให้บริการแบบ LIVE

Avaya Analytics ส่งมอบผลการวิเคราะห์จากประวัติลูกค้าและการสร้างภาพของประสบการณ์ของลูกค้าแบบเรียลไทม์และทรงพลัง นอกจากนี้ Avaya Breeze ยังช่วยให้การพัฒนาซอฟท์แวร์เป็นไปอย่างรวดเร็วและอินทิเกรตแอพพลิเคชั่นที่ปรับปรุงและพัฒนาเอาไว้ก่อน ที่เรียกกันว่า Avaya Snap-Ins (รวมถึงแอพของอวาย่าและของผู้พัฒนา third party รายอื่น) ส่วนโซลูชั่น Avaya Workforce Optimization ช่วยให้องค์กรสามารถอัดเสียงของลูกค้า วิเคราะห์และประเมินผลงานของพนักงาน รวมถึงสามารถสอนพนักงานเพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าได้

ช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา อวาย่ายังคงเดินหน้าพัฒนาพอร์ตโฟลิโอผลิตภัณฑ์คอนแทคเซ็นเตอร์ ผ่านความร่วมมือที่สำคัญและโซลูชั่นที่เป็นนวัตกรรมใหม่ เช่น มีการให้บริการโซลูชั่นคอนแทคเซ็นเตอร์แบบคลาวด์ ไฮบริด หรือแบบออนพรีมิส ซึ่งรวมถึงAvaya Oceana; การเข้าควบรวมกิจการ Spoken Communications เพื่อจะเปิดให้บริการ CCaaS สำหรับลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่; การประกาศเปิดตัว Avaya Mobile Experience ซึ่งเป็นบริการที่มีเอกลักษณ์และช่วยให้คอนแทคเซ็นเตอร์สามารถทราบได้ว่า เบอร์มือถือที่โทรเข้ามาเป็นใคร อีกทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพประสบการณ์ของลูกค้าให้กับอุปกรณ์ รวมถึงความร่วมมือกับ Afiniti เพื่อรวม behavioral pairing กับการวางแผนเส้นทางสำหรับการโทรออกของ Avaya Contact Center นอกจากนี้แล้ว Avaya Ava ผู้ช่วยลูกค้าเสมือนจริง เพิ่งได้เปิดตัวครั้งแรกและมีความสามารถในการประมวลภาษาได้อย่างเป็นธรรมชาติ การเรียนรู้แบบแมชชีน และนวัตกรรมการวิเคราะห์ที่ช่วยให้การบริการลูกค้าผ่านสื่อสังคมหรือแพลตฟอร์มส่งข้อความต่าง ๆ เป็นไปอย่างราบรื่น

รายงานเมจิกควอแดรนท์โครงสร้างพื้นฐานคอนแทคเซ็นเตอร์ปี 2018 ได้ทำการประเมินทั้งหมด 11 บริษัท ทางด้านวิสัยทัศน์ และความสามารถในการดำเนินงาน และการ์ทเนอร์ก็จะแบ่งบริษัททั้งหมดนี้แยกตามตารางสี่ช่อง ได้แก ผู้นำด้านวิสัยทัศน์ ผู้ให้บริการตลาดเฉพาะทาง ผู้ท้าชิง และผู้นำ การ์ทเนอร์นิยามโครงสร้างพื้นฐานคอนแทคเซ็นเตอร์ ("CCI") เป็นผลิตภัณฑ์ (อุปกรณ์ ซอฟท์แวร์ และบริการ) ที่จำเป็นในการบริหารงานคอนแทกเซ็นผ่านโทรศัพท์ และการบริหารคอนแทคเซ็นเตอร์ผ่านหลากหลายช่องทาง ทางเลือกที่สามในการนำ CCI มาใช้คือ การเป็นองค์ประกอบที่สำคัญสำหรับ customer engagement center ซึ่งฟังค์ชั่นการใช้งานถูกผสานเข้ากับระบบ CRM และช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เพื่อให้สามารถมองเห็นรายละเอียดต่าง ๆ ของลูกค้าภายใต้หน้าจอเดียว ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อผ่านช่องทางไหนก็ตาม

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ