นายนริศ เชยกลิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "ปรัชญาการพัฒนาอย่างยั่งยืนของ สิงห์ เอสเตท คือ การรักษาความสมดุลและสร้างความยั่งยืนให้กับทุกชุมชนที่เราได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่ง ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้จัดทำโครงการต่างๆ ที่เน้นการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล เนื่องจากบริษัทฯ ตระหนักถึงคุณค่าของทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลที่มีต่อชุมชนและประเทศไทยของเรา ซึ่งที่ผ่านมาการฟื้นฟูนั้นถือว่าเป็นเรื่องการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ โดยเราพบว่าหัวใจของการอนุรักษ์คือการป้องกัน การจะรักษาทรัพยากรธรรมชาติให้ได้อย่างมีประสิทธิผล เราต้องร่วมกันป้องกันตั้งแต่ต้นเหตุ ซึ่งเมื่อเราป้องกันตั้งแต่เริ่มต้นแล้วการฟื้นฟูก็จะเป็นไปได้ง่ายขึ้น โดยปัจจุบันปัญหาสำคัญสำหรับท้องทะเล คือ ขยะพลาสติก ซึ่งกว่า 80% มาจากชุมชนเมือง และประเทศไทยเป็นประเทศที่สร้างขยะทะเลเป็นอันดับ 6 ของโลก ซึ่งเรื่องขยะทะเลกำลังเป็นวาระเร่งด่วนของทั้งทะเลไทยและทะเลโลก"
ในโอกาสวันทะเลโลกปีนี้ สิงห์ เอสเตท ได้มุ่งสร้างการตระหนักรู้เกี่ยวกับสาเหตุและผลกระทบของขยะทะเล และร่วมกับพันธมิตรบริษัทฯ ในอาคารซันทาวเวอร์ส เปิดแคมเปญ Sea You Tomorrow เพื่อรณรงค์คนเมืองลดใช้ขยะพลาสติก รวมถึงปลุกจิตสำนึกการแยกขยะที่ถูกต้อง โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นพนักงานออฟฟิศในอาคารซันทาวเวอร์ส พ่อค้าแม่ค้า และประชาชนทั่วไป รวมกว่า 10,000 คน โดยแคมเปญจะเน้นสื่อสารให้คนเมืองรับรู้ผลกระทบจากการใช้ถุงพลาสติกที่มีอายุการใช้งานสั้นหรือใช้แล้วทิ้งทันที การเปลี่ยนพฤติกรรมลดการใช้พลาสติกทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย การทิ้งขยะและการคัดแยกขยะที่ถูกวิธี ผ่านกิจกรรมที่เข้าใจง่ายและสามารถเข้าถึงคนทุกเพศทุกวัย อาทิ นิทรรศการ การเสวนา รวมถึงให้ทุกคนได้แสดงพลังร่วมต่อสู้ลดการใช้พลาสติกที่ใช้ครั้งเดียว ผ่าน 21 Days challenge โดยร่วมสะสมคะแนนจากการลดใช้พลาสติกผ่าน Application ตลอด 21 วัน
"สำหรับความคาดหวังของแคมเปญรณรงค์นี้ คือ การสร้างชุมชนออฟฟิศน่าอยู่ให้เกิดขึ้นจริงบริเวณอาคารซันทาวเวอร์สนี้ รวมถึงสนับสนุนให้คนมีจิตสาธารณะ และได้ตระหนักถึงพิษภัยของขยะพลาสติกและผลกระทบของขยะทะเล ตลอดจนการต่อยอดสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอย่างยั่งยืนในการลด ละ เลิกใช้พลาสติกอายุสั้นได้มากที่สุด แล้วหันมาใช้ถุงผ้า ภาชนะที่ใช้ซ้ำได้เวลาเลือกซื้อสิ่งของต่างๆ ในชีวิตประจำวัน พร้อมกับนำความรู้ความเข้าใจเรื่องการใช้และจัดการกับขยะอย่างถูกวิธีไปถ่ายทอดต่อให้กับบุคคลใกล้ชิด ครอบครัว หรือกลุ่มเพื่อน ซึ่งเป็นการขยายชุมชนน่าอยู่ให้กว้างออกไปเรื่อยๆ โดยเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่จะมาจากสิ่งเล็กที่ทุกคนร่วมสร้างในวันนี้" นายนริศกล่าวปิดท้าย