ครั้งแรก!! ที่คุณจะเห็นพินโบว์ลิ่งเฉิดฉาย ภายใต้เทรนด์แฟชั่นฮิตปี 2007

พุธ ๐๖ ธันวาคม ๒๐๐๖ ๑๑:๒๖
กรุงเทพฯ--6 ธ.ค.--แม็กซิม่า คอลซัลแตนท์
คุณเคยเห็นพินโบว์ลิ่งแต่งตัวไหม? เปิดประสบการณ์ใหม่ที่สะกดทุกสายตา ด้วยการนำ “พิน” อุปกรณ์สำคัญของกีฬาโบว์ลิ่งมาแปลงโฉมสวยพริ้งที่คุณหรือใครก็ไม่เคยเห็นมาก่อน ด้วยฝีมือจากเหล่าดีไซเนอร์ชั้นนำรุ่นใหม่ของไทย ได้แก่ แก้ม - มลลิกา เรืองกฤตยา เจ้าของแบรนด์ คลอเส็ท (Kloset) และ ต่าย - ธีระ ฉันทสวัสดิ์ เจ้าของแบรนด์ แรบบิท ฮาบิท (Rabbit Habit) และแบรนด์ธีระ (T-ra) ร่วมด้วยทัพนักศึกษาจากสถาบันต่างๆ อาทิ จุฬาลงกรณ์, ธรรมศาสตร์, ศิลปากร, เพาะช่าง ซึ่งต่างสนใจงานด้านออกแบบแฟชั่น ครั้งแรกที่พวกเขาพร้อมใจมาเนรมิตเทรนด์แฟชั่นฮิตปี 2007 ครั้งแรกที่พินโบว์ลิ่งในวันนี้จะรับหน้าที่เทียบชั้นระดับนางแบบ ทั้งหมดนี้คุณสามารถหาชมได้ใน “พิน แกลเลอรี่” (Pin Gallery) แกลเลอรี่ดีๆ ภายใต้คอนเซปต์วันเดอร์แลนด์ (Wonder Land) ที่จัดทำขึ้นเพื่อต้อนรับเทศกาลปีใหม่ ช่วงเวลาแห่งรอยยิ้มและการมอบความสุขให้กัน ณ เมเจอร์ โบว์ล ฮิต สาขารัชโยธิน, เมเจอร์ โบว์ล ฮิต สาขาเซ็นทรัลเวิลด์, เมเจอร์ โบว์ล ฮิต สาขาเจอเวนิว ทองหล่อ และบลูโอ ริทั่มแอนด์โบว์ล สยามพารากอน ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 มกราคม 2550
แก้ม - มลลิกา เรืองกฤตยา ที่แม้ไม่ได้เรียนจบการออกแบบมาโดยตรง แต่ด้วยความชอบในงานฝีมือตั้งแต่เด็กๆ ทำให้ปัจจุบันเธอเป็นเจ้าของแบรนด์ คลอเส็ท (Kloset) ที่แจ้งเกิดในธุรกิจแฟชั่นทั้งในไทยและต่างประเทศอย่างเต็มตัว กล่าวถึงผลงาน “บีฮายด์ เดอะ กลาส บ๊อกซ์ (Behind the Glass Box) ว่า “ตอนที่ทาง เมเจอร์ โบว์ล ฮิต ติดต่อให้ทำ พิน แกลเลอรี่ ช่วงนั้นประจวบเหมาะกับเพิ่งจบงานแอลแฟชั่นวีค 2006 ก็เลยนำชุดที่ทำแฟชั่นโชว์มาย่อส่วนให้เข้ากับพินทั้ง 4 พิน ทั้งหมด 4 ชุดด้วยกัน ชุดที่เห็นในวันนี้ ชื่อว่าชุด บีฮายด์ เดอะ กลาส บ๊อกซ์ โดยมีแรงบันดาลใจหรือคอนเซ็ปต์มาจากแบรนด์ของตน ซึ่งจะเน้นเสื้อผ้าหรือแฟชั่นที่มีกลิ่นของแนวคันทรี ชิก (Country Chic) ซึ่งมีที่มาจากการมองสิ่งต่างๆ ผ่านกระจก ซึ่งจะทำให้เห็นว่ามันมีความบิดเบือน แต่เรานำมาทำให้บิดเบือน แต่ดูทันสมัยขึ้น เทคนิคจะเน้นการเอาเศษผ้ามาพับ โดยเห็นได้จากชายกระโปรงหรือเปียที่นำมาตกแต่ง สังเกตว่าลายพิมพ์ผ้า จะเป็นลายสก๊อตซึ่งสื่อถึง บ๊อกซ์ หรือ กล่องสี่เหลี่ยม ตามคอนเซ็ปต์ที่กล่าวข้างต้น โดยอิงเทรนด์แฟชั่นปี 2007 บ้างแต่ไม่มาก เพราะปีหน้าเสื้อผ้าต่างๆ น่าจะดีไซน์ให้มีรูปแบบที่ดูเด็กลง ไม่หรูหรา เซ็กซี่อย่างแต่ก่อน เน้นสีพาสเทล อ่อนๆ แต่โดยรวมแล้วแฟชั่นเป็นเรื่องที่ไม่มีถูกมีผิด และไม่ใช่สิ่งที่ถูกกำหนดตายตัว” จากนั้น เธอกล่าวต่อว่า “แก้มรู้สึกแปลกดี ที่วันนี้เราได้ดีไซน์เสื้อผ้าและนำมาแต่งตัวให้พินจากที่ปกติเราจะดีไซน์เสื้อผ้าให้คน เราไม่คิดว่าจะทำได้ แต่พอทำออกมาเสร็จแล้ว พินก็คล้ายกับตุ๊กตาตัวหนึ่ง มีความน่ารัก มีสีสันขึ้น ทำให้ผู้พบเห็นมีความสุข”
ดีไซเนอร์ดาวรุ่งที่จบด้านนี้มาโดยตรงจากเซนต์ มาร์ติน ประเทศอังกฤษ ต่าย - ธีระ ฉันทสวัสดิ์ ผู้คร่ำหวอดในวงการแฟชั่นมากว่า 10 ปี มีผลงานโดดเด่นภายใต้แบรนด์ แรบบิท ฮาบิท (Rabbit Habit) และล่าสุดแบรนด์ ธีระ (T-ra) ซึ่งจะทำเสื้อผ้าในแบบ Ready to Wear ส่งออกตลาดอินเตอร์อย่างจริงจัง กล่าวถึงผลงาน “เซ็นต์ ออฟ ฮิวเมอร์” (Sense of Humor) ว่า “ตอนแรกที่รู้ว่าต้องดีไซน์ชุดให้พิน ผมว่ามันยากมาก เพราะไม่เคยทำอะไรอย่างนี้” ธีระ กล่าว ก่อนจะเล่าต่อว่า “จริงๆ ผมเห็นแต่พินที่เขานำมาเพ้นต์กัน ซึ่งมันเป็นการใช้ศิลปะ แต่พอเป็นชุดที่ต้องตัดเย็บจริงและต้องย่อส่วนให้พอดีกับพิน ผมเลยใช้เวลาคิดอยู่นาน จนในที่สุดด้วยมุมมองที่ว่ารูปร่างของพินมันดูตลก ไม่ได้สัดส่วน ผมว่าคนคิดคนแรกต้องเป็นคนมีอารมณ์ขันสูง เลยล้อตรงนั้นพร้อมทั้งถ่ายทอดความเป็นคนตลกและอารมณ์ดีตัวตนของตนเองออกมาผ่านการออกแบบชุดให้ดูสนุก ใครเห็นเป็นต้องอมยิ้ม วิธีการก็คือนำเศษผ้ามาตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมผืนผ้าเล็กๆ กว้างครึ่งเซนติเมตร ยาว 3 เซนติเมตร นำมาปะติดเหมือนเรียงจิกซอว์จนเต็มชุด ถือว่าเป็นขั้นตอนที่ใช้เวลามากต้องอดทน โดยมีการเดรฟซึ่งหมายถึงใช้ผ้าจับรูปทรงเลยแทนการทำแพทเทิร์นโดยไม่ใช้กระดาษสร้างแบบ ซึ่งต้องใช้จินตนาการและความละเอียดลออมากเพื่อให้ได้รูปทรงที่น่าสนใจ สุดท้ายก็เพิ่มความน่ารักด้วยการใส่หน้าตาพิน พินก็จะคล้ายตุ๊กตาตัวหนึ่งที่เราสามารถจับแต่งตัวอย่างไรก็ได้ ทั้ง 4 พินที่ทำ จะไม่เหมือนกันเลย เพราะอยากสื่อให้เห็นถึงความแตกต่างบนความหลากหลาย สีที่ใช้ก็จะเป็นสี ขาว ดำ เทา น้ำเงิน น้ำตาล ที่น่าจะมาแรงในแฟชั่นสปริงซัมเมอร์ปีหน้า ส่วนตัวคาดว่าปีหน้าการออกแบบเสื้อผ้าน่าจะมีรูปแบบทันสมัยมากขึ้นกว่าปีนี้”
น้องแอล — อรรคพล ฤทัยยานนท์ หนุ่มน้อยจากคณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาออกแบบพัสตราภรณ์ ชั้นปีที่ 3 มหาวิทยาลัยธรรมศาตร์ กล่าวถึงผลงาน “โบว์ลิ่ง แอดดิก” (Bowling Addict) ว่า “ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเพื่อนๆ ผู้หญิงที่ส่วนมากชื่นชอบการเล่นโบว์ลิ่ง ผมจึงอยากสื่อให้เห็นว่าโบว์ลิ่งเป็นสิ่งหนึ่งในชีวิตของเรา เหมือนกับที่ผู้หญิงติดการแต่งหน้า ในขณะเดียวกันก็เหมือนกับเราปลูกต้นไม้ ซึ่งต้องมีคนเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ เพราะถ้าไม่มีคนเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อก็จะไม่มีต้นไม้นั่นเอง วัสดุที่ใช้จะเป็นอุปกรณ์การแต่งตัวของผู้หญิง เช่น มาสคาร่า ครีม แว่นกันแดด เป็นต้น ส่วนลวดที่นำมาขดนั่นต้องการแทนเนื้อเยื่อต้นไม้ โดยมีกากเพชรตกแต่งแทนดิน มีเสียม มีจอบสื่อถึงเครื่องมือที่คนต้องใช้ดูแลต้นไม้ ทั้งหมดนี้ใช้เวลาในการทำประมาณ 1 วัน” น้องแอล กล่าวต่อว่า “ถึงแม้บางคนจะดูงานของผมแล้วอาจไม่เข้าใจ แต่นั่นไม่สำคัญไปกว่าความคิด ความสร้างสรรค์ที่พวกเราได้ถ่ายทอดออกมา อยากให้คนที่ชื่นชอบงานศิลปะ โดยเฉพาะงานของนักศึกษารุ่นใหม่ๆ ลองมาชมพิน แกลเลอรี่ดู เพื่อที่จะได้รู้ว่าพวกเรามีความคิด และต้องการสื่อสารอะไร”
น้องโบ — พีระพัณณ์ ธนันตเศรษฐ สาวมั่นจากคณะมัณฑนศิลป์ ชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยศิลปากร กล่าวถึงผลงาน “พรหมลิขิต” (Destiny) ว่า “กับการทำพิน แกลเลอรี่ ก็รู้สึกว่าน่าสนใจ และน่าลองทำดู แรงบันดาลใจที่ทำให้เกิดผลงานชิ้นนี้มาจาก ต้องการสื่อว่าอะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้ หรือเรียกง่ายๆ ว่า พรหมลิขิต นั่นเอง หนูมองว่าโบว์ลิ่งเป็นกีฬาที่ทำให้คนหลายๆ แบบมาเจอกัน และอาจจะตกหลุมรักกันได้ โบว์ลิ่งจึงเหมือนกามเทพที่เชื่อมระหว่างความแตกต่างระหว่างผู้หญิงกับผู้ชาย ผู้ชายอาจจะเป็นคนเรียบร้อยดูเชยๆ ในขณะที่ผู้หญิงอาจจะเป็นคนเปรี้ยวชอบแต่งตัวแต่ว่าทั้งคู่ก็สามารถรักกันได้ด้วยกามเทพซึ่งก็คือโบว์ลิ่งนั่นเอง ความยากง่ายอยู่ตรงปีกของกามเทพที่ต้องเอาพลาสติก ตัดเป็นรูปหยดน้ำหลายๆ อัน มาซ้อนกันเป็นขนของปีก ซึ่งใช้เวลาและความละเอียดตลอดจนสมาธิอย่างสูง หนูอยากจะให้งานของหนูออกมาง่ายๆ แต่ดูดี เทรนด์แฟชั่นปีหน้าหนูมองว่าน่าจะเป็นแนวของยุค 60s ทั้งกางเกงและกระโปรงจะเป็นแบบสั้นไม่เข้ารูป จะใช้ผ้าชีฟองเป็นส่วนใหญ่ ในขณะที่ทรงผมผู้หญิงจะเห็นได้ชัดว่าทรงผมบ๊อบมาแรง และต้องเป็นบ๊อบสีทองด้วย” เมื่อถามถึงความรู้สึกที่ได้ทำพิน แกลเลอรี่ครั้งนี้ โบยิ้มและกล่าวว่า “รู้สึกภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้เป็นหนึ่งในผู้ดีไซน์พิน แกลเลอรี่ ประทับใจที่มีผู้ใหญ่ใจดีให้โอกาสได้แสดงออก และได้ใช้ความรู้ที่ได้เรียนมาถ่ายทอดมาเป็นผลงานที่เป็นรูปธรรม”
น้องลูกปัด - ธนาภิรัตน์ ขยันการ สาวน้อยจากคณะศิลปกรรมศาสตร์ ชั้นปีที่ 3 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล รัตนโกสินทร์ วิทยาเขตเพาะช่าง กล่าวถึงผลงาน “สาวน้อย” ของตัวเองว่า “พิน สาวน้อย ได้แรงบันดาลใจมาจากการวิชาหัตกรรมซึ่งเป็นสาขาวิชาเอก ซึ่งจะเกี่ยวกับการออกแบบหัตถกรรมที่มีเครื่องหนังเป็นหนึ่งในนั้น โดยส่วนตัวมีความสนใจในเรื่องของเครื่องหนังเป็นพิเศษอยู่แล้ว จึงอยากจะสื่อออกมาให้คนทั่วไปหันมาสนใจหัตถกรรมด้านเครื่องหนัง เพราะปัจจุบันคนให้ความสนใจเครื่องหนังน้อยลง เครื่องหนังที่นำมาใช้ตกแต่งพินนี้ก็มีราคาไม่แพงมาก เพื่อจะได้ตอบรับกับเศรษฐกิจพอเพียงที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในขณะนี้ พินตัวนี้ได้รับการตกแต่งจากหนังที่นำมาตัดเย็บเป็นเสื้อผ้าให้เข้ากับยุคสมัย โดยจะมีโลหะตกแต่งเป็นลูกเล่นนิดหน่อย โดยการออกแบบจะเน้นให้เครื่องหนังไม่ดูแก่หรือเชยจนเกินไปนัก” ลูกปัดยังกล่าวต่อว่า “รู้สึกภูมิใจกับผลงานชิ้นนี้มากค่ะ เพราะเราได้แสดงออกถึงความคิด ความสามารถในทางที่ถูกต้องของเรา”
น้องมด - ดวงกมล สู่ธรรมโชติ สาวสวยจากคณะศิลปกรรมศาสตร์ ชั้นปีที่ 2 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงผลงาน “อะเวย์ ฟอร์ม กราวิตี้!” (Away from Gravity!) ว่า “หนูใช้เวลาในการออกแบบ และลงมือทำประมาณ 1 อาทิตย์ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากแฟชั่นการแต่งตัวของวัยรุ่นในปัจจุบัน ที่มีความคิดในการแต่งตัวที่แตกออกไปเรื่อยๆ สอดคล้องกับเทรนด์แฟชั่นสปริงซัมเมอร์ปีหน้า ที่คงจะมีอะไรแปลกๆ ใหม่ๆ มีสีสันสดใสขึ้น ให้คนได้สนุกกับการแต่งตัว มากกว่าที่ผ่านๆ มา คล้ายเป็นการหลุดพ้นจากความคิดเดิมๆ จะเห็นว่ารูปทรงพินของหนูจะมีความแปลกแตกต่างจากพินทั่วไป วัสดุที่ใช้ในการตกแต่งพินนี้ จะเป็นพวกวัสดุที่เกี่ยวกับแฟชั่นการแต่งตัว มีลูกปัด และเลื่อมสีต่างๆ รวมทั้งมีหลอดไฟที่ใช้ประดับในงานปาร์ตี้มาประกอบด้วย” มดยังกล่าวอีกว่า “หลังจากที่ทำเสร็จแล้ว หนูรู้สึกพอใจ และภูมิใจค่ะ มันเป็นไปตามแบบที่คิดไว้ และเราก็ได้ทำมันอย่างเต็มที่ด้วย การที่ได้มาเป็นหนึ่งในผู้ออกแบบพินครั้งนี้นับเป็นโอกาสที่ดีและน่าจดจำ หวังว่าคนที่มาดูพิน แกลเลอรี่คงจะชื่นชอบผลงานของหนูนะคะ”
นี่ละ...ฝีมือของคนพันธุ์ใหม่ หัวใจสร้างสรรค์ ใครที่ชื่นชอบศิลปะ อย่าลืมไปให้กำลังใจกันได้ กับ “พิน แกลเลอรี่” ณ เมเจอร์ โบว์ล ฮิต สาขารัชโยธิน, เมเจอร์ โบว์ล ฮิต สาขาเซ็นทรัลเวิลด์, เมเจอร์ โบว์ล ฮิต สาขาเจอเวนิว ทองหล่อ และบลูโอ ริทั่มแอนด์โบว์ล สยามพารากอน ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 มกราคม 2550
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
บริษัทแม็กซิม่า คอลซัลแตนท์ จำกัด โทร 0-2434-8300
คุณสุจินดา, คุณแสงนภา, คุณปิติยา
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ