นายอำพา ยงพิศาลภพ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง จำกัด บริษัทในกลุ่มซีพี ออลล์ กล่าวว่า บริษัทมีนโยบายส่งเสริมและสนับสนุนสินค้าทั่วไปและสินค้านวัตกรรม จากผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็กหรือเอสเอ็มอีที่ผลิตสินค้าคุณภาพได้มาตรฐานและเป็นที่นิยมจากประชาชน โดยบริษัททำหน้าที่เป็นช่องทางการจำหน่ายสินค้าให้กับผู้ประกอบการเหล่านี้ เพื่อส่งตรงถึงมือผู้บริโภคทั่วประเทศผ่านช่องทางที่หลากหลายของทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง อาทิ นิตยสารทเวนตี้โฟร์แคตตาล็อก, เว็บไซต์ www.24catalog.com, www.shopat24.com, www.amulet24.com, แอปพลิเคชัน, ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น และศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ ซึ่งสามารถรองรับความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ ช้อปปิ้งสะดวกตลอด 24 ชั่วโมง
"ปัจจุบันมีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีนำสินค้าเข้ามาจำหน่ายผ่านทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง กว่า 9,000 รายการ โดยบริษัทได้ช่วยสนับสนุนด้วยการเข้าไปร่วมพัฒนาสินค้าและบริการร่วมกับผู้ประกอบการรายย่อย ตลอดจนเป็นช่องทางการขายตั้งต้นให้ผู้ประกอบการได้เรียนรู้ตลาดและการจัดการด้านค้าปลีกทันสมัย เพื่อต่อยอดในการขยายตัวไปยังช่องทางอื่นๆ อีกทั้งจัดให้มี Store Hub เพื่อให้ฝากส่งสินค้าที่ร้านเซเว่น อีเลฟเว่นสาขาต่างๆ เป็นการช่วยลดค่าใช้จ่ายในการขนส่งสินค้า รวมถึงผลักดันเอสเอ็มอีไปสู่ตลาดเอเชีย ขายสินค้าให้ลูกค้าชาวจีนและลาว ทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อให้เอสเอ็มอีตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและแข่งขันได้อย่างยั่งยืน" นายอำพา กล่าว
ด้านนางแย้ม จันใด เจ้าของผลิตภัณฑ์ "แม่แย้มหมอนขิด" เล่าให้ฟังว่า เดิมทีเป็นคนบ้านศรีฐาน อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร ซึ่งเป็นแหล่งผลิตหมอนขิดที่สำคัญของประเทศ และเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่น ชีวิตมีความผูกพันธ์กับหมอนขิดมาตั้งแต่วัยเด็ก เมื่อมีความรู้และฝีมือในการทำหมอนขิดอยู่แล้ว พอว่างจากการทำไร่ทำนา ตนและสามีก็จะรับจ้างผลิตหมอนขิด โดยทำตั้งแต่การเย็บ การสอย ขึ้นรูปตามแบบที่เตรียมไว้ ไปจนถึงการบรรจุนุ่นให้เป็นรูปทรงสวยงาม และเงินที่ได้มานอกจากจะเพื่อการยังชีพแล้วยังเก็บไว้เป็นทุนการศึกษาของลูก 2 คนให้มีโอกาสทางการศึกษาสูงๆ ต่อไป
"กระทั่งปี 2542 เห็นโอกาสในการสร้างรายได้ให้ครอบครัว จึงหันมาผลิตหมอนขิดขายเอง และจ้างแรงงานในท้องถิ่นมาช่วยกันทำ ใครมีความถนัดด้านเย็บ สอย หรือบรรจุนุ่น ก็รับวัสดุอุปกรณ์กลับไปทำที่บ้าน ในแต่ละขั้นตอนจะมุ่งเน้นผลิตสินค้าให้ได้มาตรฐาน มีหลากหลายรูปแบบ ประณีตสวยงาม สินค้าจึงได้รับเลือกให้เป็นโอทอป 4 ดาว ทำให้ได้รับความนิยมจากลูกค้าซื้อไปใช้สอยในครัวเรือน ใช้ในงานบุญ งานบวช และเป็นของฝาก ส่งผลให้มีรายได้เพิ่มขึ้น สามารถลืมตาอ้าปากได้ นอกจากนี้ยังสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้คนร่วมหมู่บ้าน โดยไม่ต้องออกไปหางานทำที่อื่น เป็นการสนับสนุนเกษตรกรผู้ปลูกนุ่นทั่วประเทศ รวมถึงเป็นการส่งเสริมแหล่งผลิต สืบสานวัฒนธรรม และภูมิปัญญาพื้นบ้านในการทำหมอนขิดของชุมชนให้คงอยู่ต่อไปด้วย" นางแย้ม กล่าว
เมื่อความต้องการของผู้บริโภคเพิ่มมากขึ้น แม่แย้มจึงเริ่มมองหาช่องทางใหม่ๆ ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ทั่วถึง ประกอบกับบุตรชายคนโตสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีตามที่ตนตั้งใจไว้ ได้เข้ามาช่วยทำธุรกิจของครอบครัว ในปี 2559 จึงเริ่มนำผลิตภัณฑ์หมอนขิด เข้ามาจำหน่ายผ่านช่องที่หลากหลายของทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง
"ลูกชายเข้ามาช่วยสานต่อธุรกิจ ดูแลเรื่องการขายการตลาด ตระเวนออกบูธขายสินค้าตามงานโอทอป และมีโอกาสได้เจอทีมงานของภาครัฐและทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้งแนะนำให้มาขายผ่านนิตยสารทเวนตี้โฟร์ แคตตาล็อก จึงนำหมอนสามเหลี่ยมขิด หมอนสามเหลี่ยมขิดช่องเดียว เบาะรองนั่ง เข้ามาจำหน่าย และได้รับผลตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี จากนั้นจึงนำหมอนหนุนเพื่อสุขภาพ หมอนรองคอ ที่นอนพับ และที่นอนระนาด เข้ามาขายเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังส่งออกผลิตภัณฑ์หมอนขิดไปยังต่างประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา กัมพูชา และลาว เป็นต้น " นางแย้มเล่าด้วยรอยยิ้ม
ผู้ประกอบการ SME ชุมชน กล่าวทิ้งท้ายว่า การได้ร่วมงานกับทางทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง ทำให้ผลิตภัณฑ์หมอนขิดเป็นที่รู้จักในวงกว้าง มีอัตราการเติบโตสูงขึ้น เพราะทางบริษัทจะมีทีมงานคอยให้คำแนะนำในเรื่องต่างๆ ได้เรียนรู้ถึงระบบการบริหารจัดการ การศึกษากลุ่มผู้บริโภค การประเมินความต้องการของผู้บริโภค การบริหารสต๊อกสินค้า รวมไปถึงงานเอกสารต่างๆ และเมื่อต้นปีที่ผ่านมาได้รับรางวัลเซเว่น อีเลฟเว่นเอสเอ็มอีไทยยั่งยืน 2560 ประเภทผลิตภัณฑ์ชุมชน ซึ่งรู้สึกภูมิใจกับรางวัลนี้และยังเป็นกำลังใจให้ตนตั้งใจผลิตสินค้าดีมีคุณภาพต่อไป
"สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอีท่านใดที่สนใจนำสินค้าเข้ามาจำหน่ายผ่านทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง สามารถติดต่อได้หลายช่องทาง ผ่านเว็บไซต์ www.24catalog.com, www.Shopat24.com และ Call Center 02-780-7666 ตลอด 24 ชั่วโมง" นายอำพา กล่าว