มาสด้าตอบรับแนวคิดรัฐบาลศูนย์กลางการค้าการลงทุนในภูมิภาค สร้างมาตรฐานการผลิตที่ทันสมัยแห่งหนึ่งของโลก

จันทร์ ๑๑ มิถุนายน ๒๐๑๘ ๑๔:๒๕
กระแสตอบรับของผู้บริโภคต่อรถยนต์มาสด้ายังคงร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ยอดขายเดือนพฤษภาคมพุ่งสูงสุดถึง 5,881 คัน เติบโต 48% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และยอดขายสะสม 5 เดือน พุ่งทะยานแตะ 26,886 คัน เพิ่มขึ้น 36% สอดรับกับทิศทางเศรษฐกิจและจีดีพีของประเทศที่เติบโตอย่างมีเสถียรภาพ

นายชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในไตรมาสแรกที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยนั้นถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี จีดีพีเพิ่มขึ้นถึง 4.8% สูงเกินกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ซึ่งเกิดจากปัจจัยบวกหลายด้าน ทั้งด้านการลงทุน อุตสาหกรรม กำลังการผลิต การส่งออก รวมถึงด้านการท่องเที่ยว นอกจากนี้ในส่วนของอุตสาหกรรมยานยนต์ นักลงทุนจากทั่วโลกต่างให้ความสนใจในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ตอบรับการยกระดับพื้นที่เป็นเขตเศรษฐกิจชั้นนำของเอเชีย

มาสด้าอยู่ในสมรภูมิวงการรถยนต์มาอย่างยาวนาน เจอความท้าทายและอุปสรรคมากมายในหลากหลายรูปแบบ แต่มาสด้ายังคงยืนหยัดในเรื่องของการสร้างสรรค์รถยนต์ที่มีคุณค่าในการขับขี่ และการเป็นเจ้าของด้วยความภาคภูมิใจ มาสด้าได้คิดออกนอกกรอบจากการผลิตรถยนต์แบบเดิมๆ จนได้มาซึ่งเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย คือเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ ที่ทั้งขับสนุก ประหยัดน้ำมัน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ใช้ทั่วโลก และผู้ใช้ในประเทศไทย ทั้งนี้ทางมาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของตลาดในประเทศไทย จึงได้ลงทุนเพื่อสร้างโรงงานที่มีความทันสมัยในประเทศ ทั้งยังเพิ่มเม็ดเงินลงทุนเพื่อเปิดโรงงานแห่งใหม่เพิ่มขึ้น ทำให้เรามีฐานการผลิตรถยนต์ที่สมบูรณ์แบบและทันสมัยที่สุด ทั้งโรงงานประกอบรถยนต์ (AAT) และโรงงานผลิตเครื่องยนต์สกายแอคทีฟ และเกียร์อัตโนมัติ (MPMT) รวมถึงการถ่ายทอดโนฮาวของการผลิตและการวิจัยและพัฒนา เพื่อพัฒนาบุคลากรและผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศอย่างครบวงจร ถือเป็นการพัฒนาบุคลากรไทย และเป็นการสร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่ประเทศไทยอีกทางหนึ่งด้วย

จากกระแสความนิยมชมชอบรถยนต์มาสด้า ทำให้ยอดขายในเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้นถึง 48% โดยเฉพาะมาสด้า2 ยังคงรั้งเบอร์หนึ่งรถยนต์นั่งขนาดเล็กและเป็นรถที่ขายดีตลอดกาลของมาสด้า กวาดยอดขายไปอย่างท่วมท้น 3,898 คัน โตขึ้น 57% ตามาด้วยรถอเนกประสงค์เอสยูวี CX-5 จำนวน 763 คัน เพิ่มขึ้น 151% รถยนต์นั่งมาสด้า3 จำนวน 433 คัน ลดลงเล็กน้อย 7% รถยนต์ CX-3 จำนวน 206 คันลดลง 41% รถปิกอัพมาสด้า บีที-50 โปร จำนวน 577 คัน เพิ่มขึ้น 65% และมาสด้า MX-5 จำนวน 4 คัน ส่งผลให้ยอดขายรถมาสด้าทั้งหมดในเดือนพฤษภาคมปิดตัวเลขอยู่ที่ 5,881 คัน

ส่งผลให้ยอดขายรวม 5 เดือนแรกของปี 2561 (มกราคม – พฤษภาคม) มียอดขายสะสมสูงถึง 26,886 คัน เติบโตเพิ่มขึ้น 36% (เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560) โดยเฉพาะมาสด้า2 ยังครองแชมป์ยอดขายสูงสุดถึง 16,979 คัน เติบโต 45% ถัดมาเป็นรถอเนกประสงค์เอสยูวีมาสด้า CX-5 จำนวน 3,834 เติบโตสูงสุดถึง 179% ตามมาด้วยรถปิกอัพมาสด้า บีที-50 โปร จำนวน 2,642 เพิ่มขึ้น 2% รถยนต์นั่งมาสด้า3 จำนวน 2,099 คัน ลดลงเล็กน้อย 7% และมาสด้า CX-3 จำนวน 1,321 ลดลง 24% และรถสปอร์ตเปิดประทุนมาสด้า MX-5 จำนวน 11 คัน

นายชาญชัย ตระการอุดมสุข กล่าวเพิ่มเติมว่า มาสด้ามุ่งมั่นและใส่ใจในเรื่องของการผลิตเพื่อให้ได้รถยนต์ที่มีคุณภาพสูง อันเกิดมาจากการค้นคว้าและวิจัยทำให้เกิดเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ขึ้นตามลำดับ มาสด้าเริ่มต้นจากสิ่งที่เราคิดไม่เหมือนคนอื่น เรากล้าที่จะแตกต่าง (Defy Convention) เปลี่ยนความท้าทายให้เป็นแรงบันดาลใจ เพื่อเป้าหมายที่ดีขั้น ใส่ใจในทุกรายละเอียด นอกจากนี้รถต้องสวย ดึงดูดทุกสายตาเนื่องจากรถมาสด้าที่ขายจริงในตลาด มีดีไซน์ที่ใกล้เคียงรถต้นแบบมากที่สุด ทำให้รถมาสด้าได้รับการยอมรับว่าเป็นแบรนด์ที่โดดเด่นเรื่องของดีไซน์ มาสด้าคิดต่างด้วยแนวคิด Customer Centric ทำความเข้าใจความต้องการและพฤติกรรมของผู้บริโภคอย่างละเอียด การผลิตที่ปรับจากการผลิตเพื่อเน้นในเรื่องปริมาณและการบริหารต้นทุนสู่การผลิตเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง การพัฒนาการทำงานที่เชื่อมโยงทั้งระบบ ทั้งการผลิต การจัดส่ง การจัดสรร การสั่งซื้อ การบริหารสต๊อคที่รวดเร็ว รวมถึงเครือข่ายผู้จำหน่ายเพื่อให้ถึงมือลูกค้าอย่างสมบูรณ์แบบทั้งเรื่องของเวลาและคุณภาพ

ทางด้าน นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหาร ฝ่ายการตลาดและรัฐกิจสัมพันธ์ กล่าวเสริมว่า ปัจจุบันเรื่องของดิจิตอลนั้นมีความสำคัญในชีวิตประจำวันของมนุษย์ เนื่องจากสามารถเข้าได้ถึงทุกความต้องการ ซึ่งดิจิตอลจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้กลยุทธ์ทางด้านการตลาด และการสื่อสารนั้นแพร่ขยายไปได้ไกลและเชื่อมโยงคนทั่วโลกเข้าไว้ด้วยกัน รวมถึงเรื่องของผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบเพื่อให้มีความสอดคล้องในการใช้งานในแต่ละประเทศ ดังนั้นเราจึงวางกลยุทธ์ Mazda Building Block Strategy โดยเน้นการวางทิศทางการพัฒนาเทคโนโลยีในอนาคตแบบเป็นขั้นตอน มี 3 องค์ประกอบที่สำคัญ คือ เรื่องกรอบเวลาของการนำเทคโนโลยีมาใช้ได้อย่างเหมาะสม, การพัฒนาโมเดลทางธุรกิจของผู้ผลิตและผู้บริโภค รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับและสอดคล้องกัน เพื่อความพร้อมกับการนำเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามา และการเปลี่ยนถ่ายจากเทคโนโลยีปัจจุบันสู่เทคโนโลยีอนาคตที่เหมาะสม เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับสิ่งที่ดีที่สุด

โปรดติดตามความเคลื่อนไหวและกิจกรรมของมาสด้าผ่านทางทางโซเชียลมีเดีย

เว็บไซต์ www.mazda.co.th และ MazdaThailandOfficial Facebook/YouTube/Instagram/LINE

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๕ เม.ย. Electronic Nose นวัตกรรมตรวจวัดกลิ่น! เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดี กรมอนามัย ร่วม MOU กรมควบคุมมลพิษ และ 4 หน่วยงานรัฐ - เอกชน
๒๕ เม.ย. ITEL ประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 68 ไฟเขียวอนุมัติแจกวอร์แรนต์ฟรี ลุยขยายธุรกิจ
๒๕ เม.ย. สวทช. โดย นาโนเทค เฟ้นหา 8 ผู้ประกอบการ ต่อยอดนวัตกรรมสมุนไพรสู่ผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง
๒๕ เม.ย. คาเฟ่ แคนทารี ชวนมาลิ้มลองเมนูพิเศษประจำเดือนพฤษภาคม - มิถุนายน 2568 อร่อยครบเครื่องทั้งรีซอตโตต้มยำ เครป
๒๕ เม.ย. ซีพี ออลล์ x มูลนิธิชาวปักษ์ใต้ ร่วมสนับสนุนทุนการศึกษาเพื่ออาชีพแก่เยาวชนในจังหวัดภาคใต้
๒๕ เม.ย. ซีพีแรม ดีเดย์ เปิดเวที FINNOVA 2025 : ยกระดับความรู้สู่นวัตกรรมอาหาร ปักหมุดไทยศูนย์กลางนวัตกรรมอาหารโลก
๒๕ เม.ย. ดีไซน์เพื่อชีวิตที่ไม่หยุดนิ่ง: อาดิดาส ออริจินอลส์ เผยโฉม ADIZERO ARUKU พร้อมพื้นรองเท้าแบบโปรเกรสซีฟ
๒๕ เม.ย. พรีโม จับมือ Q-CHANG จัดทัพทีมช่างกว่า 2,000 ทีม! ยกระดับบริการซ่อมห้องชุด ตอกย้ำแนวคิด Primo Happy Maker
๒๕ เม.ย. ครั้งแรก กับ Dance (แดนซ์) Glossy Body Hair Perfume Mist น้ำหอม 2-in-1 พร้อมเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ เก๋ไก๋ บุกใจกลางกรุง ชวนสาวๆ
๒๕ เม.ย. SCB CIO ชี้ 3 ปัจจัยกระทบตลาดการเงินฉุดสินทรัพย์ทั่วโลกผันผวน แนะระวังการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง เพิ่มน้ำหนักหุ้นกู้ระยะสั้นคุณภาพดี และ