วันจันทร์ที่ 11 มิถุนายน 2561 พลเอก ธีรชัย นาควานิช องคมนตรี ในฐานะประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริพื้นที่ภาคใต้ พร้อมคณะอนุกรรมการฯ เดินทางไปติดตามผลการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส พร้อมกับมอบพันธุ์พืชให้กับราษฎร ประกอบด้วย โครงการก่อสร้างอาคารบังคับน้ำบ้านเจ๊ะเกพร้อมระบบส่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลบาโงสะโต อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส โครงการจัดหาน้ำให้ราษฎร หมู่ที่ 8 (บ้านธนูศิลป์) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ และโครงการจัดหาน้ำให้ราษฎร หมู่ที่ 8 (บ้านอัยจาดา) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลโคกสะตอ อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส เพื่อสนองพระราชปณิธานของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงสืบสาน รักษา ต่อยอดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ให้เกิดประโยชน์สุขกับราษฎรและประเทศชาติ
จากนั้นองคมนตรีฯ และคณะได้เดินทางไปยังพื้นที่ที่จะก่อสร้างโครงการก่อสร้างอาคารบังคับน้ำบ้านเจ๊ะเกพร้อมระบบส่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ บ้านเจ๊ะเก หมู่ที่ 2 ตำบลบาโงสะโต อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส เพื่อติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการฯ ตามที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2561 เพื่อช่วยเหลือราษฎรหมู่ที่ 1, 2, 3, 7 และหมู่ที่ 8 ตำบลบาโงสะโต ซึ่งขาดแคลนน้ำในการทำการเกษตร ตามที่ราษฎรบ้านเจ๊ะเก หมู่ที่ 2 ตำบลบาโงสะโต อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส ขอพระราชทานโครงการฯ ซึ่งปัจจุบันโครงการฯ อยู่ระหว่างการออกแบบและประมาณการค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณประจำปี 2562 จากคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ หรือ กปร. โดยโครงการก่อสร้างอาคารบังคับน้ำบ้านเจ๊ะเกพร้อมระบบส่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จะมีลักษณะเป็นอาคารบังคับน้ำพร้อมทั้งคันกั้นน้ำด้านเหนือน้ำ 2 ฝั่งของลำน้ำ ความยาวประมาณ 3,000 เมตร เมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จจะสามารถส่งน้ำเข้าช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรของราษฎรรวมประมาณ 1,000 ไร่ ประกอบด้วย บ้านบาโงตา จำนวน 500 ไร่ บ้านเจ๊ะเก จำนวน 400 ไร่ และบ้านลูโบ๊ะบาตู จำนวน 100 ไร่ ทำให้ราษฎรมีน้ำใช้เพื่อการเกษตรได้อย่างเพียงพอตลอดปี พร้อมกันนี้องคมนตรีได้เยี่ยมราษฎรและมอบเมล็ดพันธุ์พืช อาทิ กระเจี๊ยบเขียว ถั่วฝักยาว พริกยวก มะเขือเปราะ โอกาสนี้ได้ร่วมปล่อยพันธุ์ปลาบ้า และปลาตะเพียนขาว จำนวน 50,000 ตัว เพื่อขยายพันธุ์ต่อไป
จากนั้นในช่วงบ่าย องคมนตรี พร้อมคณะได้เดินทางไปยังโครงการจัดหาน้ำให้ราษฎร หมู่ที่ 8 (บ้านธนูศิลป์) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ และโครงการจัดหาน้ำให้ราษฎร หมู่ที่ 8 (บ้านอัยจาดา) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลโคกสะตอ อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส เพื่อรับฟังการบรรยายสรุปผลการดำเนินงาน พร้อมกับติดตามผลการดำเนินโครงการฯ โดยโครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานพระราชดำริไว้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2545 เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 เพื่อทรงเยี่ยมราษฎรและทอดพระเนตรความเป็นอยู่ของราษฎรบ้านธนูศิลป์ ในการนี้ได้พระราชทานพระราชดำริให้ช่วยจัดหาน้ำอุปโภค บริโภคให้กับราษฎรหมู่ที่ 8 ทั้งหมู่บ้านและปรับปรุงถนนให้สามารถใช้สัญจรไปมาได้สะดวก จากนั้นในปี 2546 กรมชลประทานได้รับการสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินงานจาก กปร. ทั้งสองโครงการ จึงได้ดำเนินการสนองพระราชดำริโดยบูรณะเส้นทางสัญจรรวมทั้งตัดถนนใหม่เพื่อให้การเดินทางสะดวกขึ้น พร้อมกับจัดหาน้ำให้กับราษฎรดังนี้ บ้านธนูศิลป์ดำเนินการตัดทางลำเลียงใหม่ 800 เมตร พร้อมกับบูรณะเส้นทางเดิม 1,650 เมตร และจัดทำฝายทดน้ำคอนกรีตเสริมเหล็ก ขนาดสันฝายสูง 2 เมตร ยาว 10 เมตร พร้อมท่อส่งน้ำและอาคารประกอบ รวมถึงจัดหาถังเก็บน้ำสำรอง ขนาดความจุ 500,000 ลิตร จำนวน 1 ถัง ปัจจุบันสามารถส่งน้ำช่วยเหลือราษฎรบ้านธนูศิลป์เพื่อการอุปโภค บริโภค จำนวน 41 ครัวเรือน 158 คน และพื้นที่การเกษตร จำนวน 820 ไร่ มีน้ำใช้เพียงพอตลอดปี
และโครงการจัดหาน้ำให้ราษฎร หมู่ที่ 8 (บ้านอัยจาดา) ได้ดำเนินการในลักษณะเดียวกันโดยตัดทางลำเลียงใหม่ 300 เมตร บูรณะเส้นทางเดิม 2,000 เมตร และจัดทำฝายทดน้ำคอนกรีตเสริมเหล็ก ขนาดสันฝายสูง 2 เมตร ยาว 12 เมตร พร้อมท่อส่งน้ำและอาคารประกอบ รวมทั้งจัดหาถังเก็บน้ำสำรองพร้อมทั้งกรอง จำนวน 4 ถัง ทำให้สามารถส่งน้ำช่วยเหลือราษฎรบ้านอัยจาดา หมู่ที่ 8 จำนวน 63 ครัวเรือน ราษฎร 259 คน สุเหร่าบ้าน อัยจาดา 1 แห่ง และโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนท่าอากาศยานแห่งประเทศไทยเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี มีน้ำใช้ในการอุปโภคบริโภค อีกทั้งสามารถส่งน้ำให้แก่พื้นที่การเกษตรของราษฎรได้ จำนวน 490 ไร่ ได้อย่างเพียงพอตลอดปี โอกาสนี้ องคมนตรี ได้ปลูกต้นตะเคียนทองเพื่อเป็นการอนุรักษ์อีกด้วย