GIT มุ่งส่งเสริมและพัฒนาการค้าอัญมณีและเครื่องรปะดับในประเทศ กระจายความมั่งคั่งสู่ท้องถิ่น

อังคาร ๑๒ มิถุนายน ๒๐๑๘ ๑๒:๒๒
GIT ส่งผู้เชี่ยวชาญไปทุกภูมิภาคทั่วประเทศ มุ่งพัฒนาบุคลากรท้องถิ่น นำจุดแข็งของท้องถิ่นและศิลปะวัฒนธรรมมาใช้ในงานเครื่องประดับกระจายความมั่งคั่งสู่ท้องถิ่นไทย โดยผลักดันให้เกิดพัฒนารูปแบบเครื่องประดับ ปลุกปั้นอัตลักษณ์ท้องถิ่นให้กลายเป็นเทรนด์สินค้า พร้อมขยายช่องทางการตลาดสู่สากล

นายราเชนทร์ พจนสุนทร ประธานบริหารสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ กล่าวว่า อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับมีความสำคัญกับประเทศไทยเป็นอย่างยิ่ง ปัจจุบันมีมูลค่าการค้าที่นับรวมทั้งภาคการส่งออกและการค้าภายในประเทศรวมกันราวล้านล้านบาท หรือมีสัดส่วนประมาณร้อยละ 6.3 ของ GDP อีกทั้งยังมีการจ้างแรงงานอีกกว่าล้านคน โดยเฉพาะในแง่ของการเป็นสินค้าส่งออกนั้น ติดอันดับ 1 ใน 5 มานานนับทศวรรษ ซึ่งมูลค่าการส่งออกของอุตสาหกรรมนี้เติบโตมาอย่างต่อเนื่อง และผลผลิตจากอุตสาหกรรมนี้เกิดจากภูมิ-ปัญญาและฝีมือของแรงงานชาวไทยอย่างแท้จริง

และเพื่อพัฒนาให้เติบโตไปพร้อมกันในทุกภาคส่วน เพื่อให้อุตสาหกรรมนี้มีคุณค่าและมูลค่ามากยิ่งขึ้นอีก ภาครัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์ ได้มอบหมายให้ GIT ดำเนิน "โครงการพัฒนาศักยภาพธุรกิจอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับในส่วนภูมิภาค" เพื่อสร้างให้มีความเข้มแข็งในการประกอบกิจการและสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจังหวัดที่มีสินค้าเครื่องประดับอัตลักษณ์ ที่มีความโดดเด่น เฉพาะตัว อย่างเช่น เครื่องทองสุโขทัย เครื่องเงินล้านนาเชียงใหม่ เครื่องเงินชนเผ่าเมืองน่าน มุกอันดามันจากภูเก็ต รวมถึงพลอยสีจันทบุรี และ ตาก เป็นต้น พร้อมลงพื้นที่เพื่อหาความเป็นไปได้ในการพัฒนาอัตลักษณ์เครื่องประดับท้องถิ่นในจังหวัดต่างๆ ที่น่าสนใจ อาทิ แพร่ ตราด สุรินทร์ สตูล และ เพชรบุรี อีกด้วย

ทั้งนี้ GIT ได้ส่งผู้เชี่ยวชาญไปทุกภูมิภาคทั่วประเทศ เพื่อช่วยพัฒนาคน ฝึกให้รู้จักการประยุกต์นำจุดแข็งของท้องถิ่นและศิลปะวัฒนธรรมมาใช้ในงานเครื่องประดับ พัฒนารูปแบบเครื่องประดับ ปลุกปั้นอัตลักษณ์ท้องถิ่นให้กลายเป็นเทรนด์สินค้า ให้ได้รับความนิยมจากผู้ซื้อในวงกว้างขึ้น ช่วยขยายช่องทางการตลาด และหากผู้ประกอบการรายใดมีศักยภาพมากเพียงพอ ก็จะสนับสนุนให้ได้เข้าร่วมงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติ เพื่อขยับขยายไปเป็นผู้ส่งออกได้ในอนาคต

นายราเชนทร์ กล่าวเสริมว่า ปัจจุบัน GIT มุ่งเน้นส่งเสริมและพัฒนาการค้าอัญมณีและเครื่องประดับในตลาดในประเทศมากยิ่งขึ้นเพื่อกระจายความมั่งคั่งสู่ท้องถิ่น นอกเหนือจากตลาดส่งออกที่เติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากตัวเลขมูลค่าการซื้อขายในประเทศอยู่ที่ประมาณ 5 แสนล้านบาท ดังนั้นเราจำเป็นต้องดูแลและสร้างความเชื่อมั่นในการซื้อขายให้แก่ผู้บริโภคทั้งที่เป็นคนไทย 70 ล้านคน และนักท่องเที่ยวต่างชาติอีกกว่า 35 ล้านคน และทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกว่า เมื่อมาถึงเมืองไทยแล้ว ต้องซื้ออัญมณีและเครื่องประดับจากประเทศไทยเป็นของขวัญของฝากคนที่บ้านให้ได้ ในทำนองเดียวกับที่ไปฝรั่งเศสต้องซื้อน้ำหอม ไปอิตาลีต้องซื้อเครื่องหนัง เป็นต้น รวมถึงคิดว่าจะเชื่อมโยงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับเข้ากับเส้นทางการท่องเที่ยว ก่อเกิดเป็นเส้นทางสายอัญมณีและเครื่องประดับ อันทรงคุณค่าของประเทศไทย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version