ทั้งนี้ โรงเรียนดังกล่าว ถือว่าเป็นโรงเรียนที่มีความยากลำบากมากที่สุด ในพื้นที่ตำบลปิล็อก มีนักเรียนระดับชั้นป.1 - 6 ประมาณ 70 คน มีนักเรียนจำนวนหนึ่งต้องอาศัยพักค้างอยู่ในโรงเรียน เนื่องจากบ้านพักอยู่ห่างจากโรงเรียน 15 กิโลเมตร ต้องเดินด้วยเท้าเปล่ามาเรียน ปัจจุบัน ห้องเรียนไม่เพียงพอ ต้องแก้ปัญหาโดยซ่อมบำรุงเรือนเกษตรเป็นห้องเรียน ชั้น ป.5 และใช้ห้องสมุด เป็นห้องเรียน ชั้น ป.6 ซึ่งมีขนาดคับแคบ และร้อนอบอ้าว โรงเรียนไม่มีไฟฟ้า ต้องใช้พลังงานแสงอาทิตย์ และใช้การปั่นไฟ ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ การติดต่อสื่อสารเป็นไปด้วยความยากลำบาก ด้วยเหตุนี้ ทางกลุ่มค่ายอาสาฯ จึงได้จัดโครงการค่ายอาสาฯ ระดมทุนจากผู้มีจิตศรัทธา ไปสร้างศาลาเรียนรู้เพื่อเป็นห้องเรียนชั่วคราวให้เด็ก ๆ ซึ่งการทำงานค่ายปีนี้ เป็นไปด้วยความยากลำบาก มีอุปสรรคมากมาย โดยเฉพาะการนำวัสดุก่อสร้างไปยังโรงเรียนแต่ก็ได้รับความช่วยเหลือและความร่วมมือจากชุมชนมาช่วยอย่างขยันขันแข็ง จนสามารถทำให้การสร้างศาลาเรียนรู้ ประสบความสำเร็จ ขณะที่ชาวค่ายอาสาฯ ก็ใช้ชีวิตกิน นอนบนแพ และเดินไปทำงานที่โรงเรียนในทุกๆวัน ตลอดการทำค่ายอาสาฯ
อย่างไรก็ตาม บรรยากาศในวัยส่งมอบศาลาเรียนรู้ เต็มไปด้วยความอบอุ่น และความสุข เด็ก ๆ ร้องเพลง"เพียงหลวง"ที่ทีความหมายที่ดี สร้างความประทับใจให้กับชาวค่ายอาสาฯ พี่ๆชาวค่าย ได้ถ่ายรูปร่วมกับเด็ก ๆ และมอบเสื้อใส่ทำงานให้กับเด็ก ๆ เป็นที่ระลึก ทางด้านครูโรงเรียนเพียงหลวง 3 กล่าวว่า การสร้างศาลาเรียนรู้ของชาวค่ายอาสาฯ เป็นประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ ช่วยบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนให้กับทางโรงเรียนเป็นอย่างมาก และถือเป็นกิจกรรมที่เป็นแบบอย่างให้กับเด็ก ๆ ได้เรียนรู้ถึงการเป็นผู้ให้อีกด้วย
สำหรับค่ายอาสาพัฒนาชนบท "ทานตะวัน" เป็นกิจกรรมเสริมหลักสูตรของสาขาวิชาการพัฒนาชุมชนเพื่อฝึกการทำงานเป็นทีมและเสริมสร้างคุณธรรมจิตอาสาให้กับนักศึกษาที่สมัครใจเข้าร่วมเป็นสมาชิกค่ายอาสาโดยมี อาจารย์ชัชวาลย์ มากสินธ์ เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาค่ายฯ มาตลอดระยะเวลา 8 ปี