สถานการณ์และมาตรการการนำเข้า ส่งออก เศษอิเล็กทรอนิกส์และเศษพลาสติก และสถิติการจับกุมกระเทียม พร้อมเตือนประชาชน กรณีมิจฉาชีพแอบอ้างชื่อกรมศุลกากรขายสินค้า

พุธ ๑๓ มิถุนายน ๒๐๑๘ ๑๖:๓๕
วันนี้ (วันพุธที่ 13 มิถุนายน 2561) เวลา 10.30 น. ณ ศูนย์แถลงข่าวกรมศุลกากร ชั้น 2 อาคาร 1 กรมศุลกากร นายชัยยุทธ คำคุณ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร กล่าวว่า อธิบดีกรมศุลกากร มีนโยบายดำเนินการงานด้านประชาสัมพันธ์เชิงรุก เพื่อสร้างความรับรู้ความเข้าใจแก่ประชาชนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในประเด็นต่างๆ ตลอดจนนโยบายและโครงการต่างๆ โดยมอบหมายให้คณะโฆษกกรมศุลกากรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมดำเนินการ และได้กำหนดให้มีการแถลงข่าวประจำทุกสัปดาห์ที่สามของเดือน สำหรับประเด็นที่ประชาชนสนใจในขณะนี้ ได้แก่ สถานการณ์และมาตรการการนำเข้า ส่งออก เศษอิเล็กทรอนิกส์และเศษพลาสติก สถิติการจับกุมกระเทียม และแจ้งเตือนประชาชน กรณีมิจฉาชีพแอบอ้างชื่อกรมศุลกากรในขายสินค้า ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้

กรณีสถานการณ์และมาตรการการนำเข้า ส่งออก ขยะอิเล็กทรอนิกส์และขยะพลาสติก

นายชัยยุทธ กล่าวว่า จากข้อมูลสถิติตามใบขนที่มีการขออนุญาตจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม พบว่าสถิติการนำเข้าเศษพลาสติก พิกัด 3915 ในปี 2560 มีปริมาณการนำเข้า จำนวน 145,764.98 ตัน และในปี 2561 ตั้งแต่เดือนมกราคม-เดือนพฤษภาคม พบว่า มีปริมาณการนำเข้า จำนวน 212,051.72 ตัน ในส่วนของสถิติการนำเข้าเศษอิเล็กทรอนิกส์ พิกัด 84 และ 85 พบว่า ในปี 2560 มีปริมาณการนำเข้า จำนวน 64,436.71 ตัน และในปี 2561 ตั้งแต่เดือนมกราคม-เดือนพฤษภาคม พบว่า มีปริมาณการนำเข้า จำนวน 52,221.46 ตัน

ทั้งนี้ จากสถิติการนำเข้าตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 -2560 พบว่าเริ่มมีการนำเข้าของเสียอิเล็กทรอนิกส์ภายใต้อนุสัญญาบาเซลเพิ่มปริมาณมากขึ้น อันเป็นผลสืบเนื่องจากในปี พ.ศ. 2560 ประเทศจีนประกาศห้ามนำเข้าขยะซึ่งมีผลบังคับใช้ในปี พ.ศ.2561 โดยมีสัดส่วนการนำเข้าและมีการจับกุมการกระทำความผิดปริมาณมากที่สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง (สทบ.) สำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ (สทก.) สำนักงานศุลกากรกรุงเทพ (สกท.) และสำนักงานตรวจสินค้าลาดกระบัง (สสล.) ตามลำดับ ซึ่งสินค้าดังกล่าวเป็นสินค้าที่ต้องปฏิบัติตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมกรรม ต้องมีใบอนุญาตนำเข้าจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม

ด้านนายกรีชา เกิดศรีพันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารกลาง ในฐานะรองโฆษกกรมศุลกากร กล่าวเพิ่มเติมในประเด็นดังกล่าวว่า เมื่อวันจันทร์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2561 ที่ผ่านมา กรมศุลกากร กระทรวงการคลัง และกรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม นำโดยนายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร และนายมงคล พฤกษ์วัฒนา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม พร้อมคณะได้ประชุมหารือการทำงานร่วมกันเกี่ยวกับประเด็นปัญหาการนำเข้า-ส่งออก เศษอิเล็กทรอนิกส์และเศษพลาสติก สรุปสาระสำคัญ ดังนี้

จัดทำฐานข้อมูลร่วมกันระหว่างกรมศุลกากรและกรมโรงงานอุตสาหกรรม (Big Data)

เพื่อทำการแลกเปลี่ยนข้อมูล และนำมาวิเคราะห์บริหารความเสี่ยง (Risk Management)

(2) กรมศุลกากรจะนำระบบควบคุมทางศุลกากร โดยใช้ระบบเอกซ์เรย์ เข้ามาตรวจสอบตู้สินค้าทุกตู้ ซึ่งเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรและเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม จะทำงานร่วมกันโดยจะทำการเปิดตรวจตู้สินค้าดังกล่าว ซึ่งหากท่าหรือที่ที่มีการนำเข้าหรือส่งออกสินค้าเศษอิเล็กทรอนิกส์และเศษพลาสติก ในปริมาณมาก กรมโรงงานอุตสาหกรรมจะจัดส่งเจ้าหน้าที่ไปประจำ ณ ท่าหรือที่ดังกล่าว (Contact Person/Contact Point) อาทิ สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง สำนักงานศุลกากรกรุงเทพ สำนักงานศุลกากรตรวจสินค้าลาดกระบัง เป็นต้น

(3) เมื่อพบการกระทำความผิดจะทำการผลักดันสินค้าเศษอิเล็กทรอนิกส์และเศษพลาสติก ออกไปและให้ผู้นำเข้ารับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด

(4) ทำการตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability) สำหรับบริษัทที่ได้รับใบอนุญาตในการนำเข้า เมื่อผ่านพิธีการศุลกากรตรวจปล่อยของออกจากอารักขาของศุลกากรแล้ว กรมศุลกากรจะทำการแจ้งไปยังกรมโรงงานอุตสาหกรรมให้ไปทำการตรวจสอบ ณ โรงงานต่อไป

(5) ตั้งคณะทำงานร่วมกันระหว่างกรมศุลกากรและกรมโรงงานอุตสาหกรรม ในประเด็นข้อกฎหมาย เพื่อกำหนดมาตรการอุดช่องโหว่ ในการนำเข้า นำส่ง นำผ่านไปยังปลายทาง และกำหนดมาตรการเพิ่มโทษในกรณีที่มีการกระทำความผิด

(6) กรณีบริษัททำกระทำความผิด ทางกรมศุลกากรจะส่งข้อมูลให้กรมโรงงานอุตสาหกรรมเพื่อยกเลิกใบอนุญาตต่อไป

2. สถานการณ์และมาตรการการดำเนินการปราบปรามสินค้าเกษตรประเภทกระเทียม ตามที่ได้มีการกำหนดสินค้ากระเทียมเป็นสินค้าควบคุมในปี 2561 โดยคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ได้ออกประกาศควบคุมการขนย้ายกระเทียมที่นำเข้าจากต่างประเทศ

ปี 2561 ตั้งแต่ 400 กก. ขึ้นไปโดยทางบกหรือทางทะเลเข้าหรืออกจากจังหวัดที่กำหนด 52 จังหวัดต้องขออนุญาตขนย้าย และให้มีการแจ้งปริมาณ สถานที่เก็บและจัดทำบัญชีคุมสินค้ากระเทียมที่นำเข้าจากต่างประเทศในปี 2561 โดยคณะอนุกรรมการจัดการการผลิตและการตลาด กระเทียม หอมแดงหอมหัวใหญ่ และมันฝรั่ง มอบหมายให้กรมศุลกากรร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้มงวดกวดขันและให้ดำเนินการติดตาม ตรวจสอบ และปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้ากระเทียม หอมแดง หอมหัวใหญ่ และมันฝรั่ง ซึ่งกรมศุลกากรได้ดำเนินการปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้ากระเทียมอย่างต่อเนื่อง โดยมีผลการจับกุมในปี 2561 (ถึงเดือนพฤษภาคม 2561) จำนวน 56 ราย น้ำหนัก 118,315 กิโลกรัม มูลค่า 4,151,218 บาท

3. กรณีมิจฉาชีพแอบอ้างชื่อกรมศุลกากรขายสินค้า

โฆษกกรมศุลกากร กล่าวว่า ตามที่ในโลกออนไลน์ มีการโฆษณาขายสินค้าแบรนด์เนม และแอบอ้างด้วยการนำภาพของผู้บริหารกรมศุลกากร หรือภาพเหตุการณ์การจับกุม นำมาใช้เพื่อการโฆษณาสินค้าเพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือนั้น กรมศุลกากรขอชี้แจงว่าเรื่องดังกล่าว ไม่เป็นความจริง เป็นการแอบอ้างหลอกลวงโดยมิจฉาชีพทำให้เกิดความเสียต่อประชาชนและกรมศุลกากร ซึ่งกรมศุลกากรจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทำความผิดต่อไป ทั้งนี้กรมศุลกากรขอยืนยันว่าการจำหน่ายสินค้าของกลางกรมศุลกากรโดยวิธีที่ถูกต้องจะเป็นการลงประกาศขายทอดตลาดอย่างเป็นทางการเพียงวิธีเดียวและจะรับชำระเงิน ณ ที่ทำการศุลกากร โดยเจ้าหน้าที่ศุลกากรเท่านั้น หากมีข้อสงสัยหรือไม่แน่ใจเกี่ยวกับการดำเนินการใดๆ ทางกรมศุลกากร สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ Customs Call Center 1164 หรือทาง e-mail : [email protected]

นอกจากนี้ นายกรีชา กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมศุลกากรได้จัดทำโครงการ "พันธมิตรศุลกากร (Customs Alliances)".โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มช่องทางในการสื่อสารระหว่างภาคเอกชนกับกรมศุลกากร ในการให้คำแนะนำติดต่อประสานงาน แก้ไขปัญหาและสร้างความชัดเจน ลดข้อโต้แย้งที่จะเกิดขึ้นในด้านต่างๆทั้งปัญหาเชิงนโยบายและปัญหาหน้างานปกติ อาทิ พิธีการศุลกากร พิกัดอัตราศุลกากร ราคา ถิ่นกำเนิด กฎหมายศุลกากร สิทธิประโยชน์ และปัญหาอื่นๆ โดยมอบหมายเจ้าหน้าที่ศุลกากรจากส่วนกลาง (Account Officer Center : AOC) ทำหน้าที่ติดต่อประสานกับผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้านของแต่ละพื้นที่ (Account Officer Expert) เพื่อแก้ปัญหาและ ให้คำปรึกษาอย่างรวดเร็วทันต่อเหตุการณ์ ซึ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ประหยัดเวลา และลดค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในระหว่างการดำเนินพิธีการทางศุลกากร ซึ่งกรมศุลกากรได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี สำหรับปีงบประมาณ 2561 นี้ กรมศุลกากรจะยังคงดำเนินการโครงการพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง และในวันนี้ได้เปิดรับสมาชิกใหม่ในระยะที่ 2 แล้ว ซึ่งจะปิดรับสมัคร ในวันที่ 15 มิถุนายน 2561 และจะประกาศรายชื่อผู้ประกอบการที่ได้เป็นสมาชิกพันธมิตรศุลกากร ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2561 นี้ สำหรับผู้ที่สนใจสมัครเป็นสมาชิกโครงการพันธมิตรศุลกากร สามารถสมัครด้วยตนเองที่ www.customs.go.th >> โครงการพันธมิตรศุลกากร >>สมัครสมาชิก

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version