นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตลาดกลางสินค้าเกษตรและตลาดสดภายใต้การส่งเสริมของกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ นับว่ามีบทบาทต่อการสร้างระบบการซื้อขายที่รักษาสิทธิผู้ซื้อและผู้ขายได้อย่างเป็นรูปธรรม เนื่องจากข้อกำหนดของการเข้าร่วมกับกรมการค้าภายในตลาดเหล่านี้ จึงต้องมีการตรวจสอบความปลอดภัยเรื่องของสินค้าในตลาดรวมถึงมีระบบการซื้อขายที่เป็นธรรม ชัดเจน ตรวจสอบได้ อาทิ การตรวจสอบเครื่องชั่ง การแสดงป้ายราคาสินค้า การตรวจสอบสารพิษ การต่อรองราคาสินค้าได้อย่างเสรี เพื่อเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนเกษตรกรและวิสาหกิจชุมชนหรือผู้ประกอบการในพื้นที่ผ่านระบบตลาด จึงถือได้ว่าตลาดกลางสินค้าเกษตรและตลาดสดในการส่งเสริมของกรมการค้าภายใน เป็นการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากอย่างแท้จริง ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ต้องการส่งเสริมให้เกษตรกรหรือผู้ประกอบการระดับฐานรากมีความเข้มแข็ง เสริมสร้างเสถียรภาพทางการเงินที่มั่นคง พร้อมยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน
โดยตลาดกลางในการดูแลของกรมการค้าภายในมีอยู่ 4 ประเภท คือ 1.ตลาดกลางข้าวและพืชไร่ 2.ตลาดปลาสวยงานและสัตว์เลี้ยง 3.ตลาดกลางผักและผลไม้ 4.ตลาดกลางสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์ที่แปรสภาพมาจากสัตว์น้ำ ซึ่งปัจจุบันมี 54 แห่งทั่วประเทศ ส่วนตลาดสดในความส่งเสริมของกรมการค้าภายใน ปัจจุบันมีจำนวนรวม 359 แห่ง ประกอบด้วย ภาคเหนือ 97 แห่ง ภาคกลางและตะวันออก 106 แห่ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 127 แห่ง ภาคใต้ 29 แห่ง ตลาดสดถือเป็นศูนย์กลางของชุมชนในการซื้อขายสินค้าอาหารสดและอาหารพร้อมบริโภค เน้นการสร้างความตระหนักรู้ถึงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมการซื้อขายแบบดั้งเดิม โดยต้องมีคุณภาพ มาตรฐาน และราคาที่เป็นธรรม และเพื่อการสร้างภาพลักษณ์ให้เป็นที่จดจำแก่ประชาชน กรมการค้าภายในจึงได้จัดทำโครงการสร้างภาพลักษณ์ เพื่อส่งเสริมและพัฒนาตลาดในความส่งเสริมของกรมการค้าภายใน โดยมีการจัดประกวดออกแบบตราสัญลักษณ์ตลาดกลางสินค้าเกษตรและตลาดสด เพื่อสร้างแรงจูงใจให้กับประชาชนให้มาใช้บริการเพิ่มมากขึ้น นายบุณยฤทธิ์ กล่าว
สำหรับโครงการนี้มีผู้สนใจร่วมส่งผลงานเข้าประกวดจำนวนทั้งสิ้น 232 ผลงาน โดยแบ่งเป็นตราสัญลักษณ์ตลาดกลางสินค้าเกษตรจำนวน 123 ผลงาน และตราสัญลักษณ์ตลาดสดจำนวน 109 ผลงาน และได้มีการคัดเลือกผลงานที่ชนะเลิศเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2561 ที่ผ่านมา ซึ่งมีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากหลายหน่วยงานเข้าร่วมตัดสิน โดยได้พิจารณาตัดสินให้เหลือเพียงประเภทละ 4 ผลงาน โดยแบ่งเป็นรางวัลชนะเลิศอันดับ1 จำนวน 1 ผลงาน รางวัลรองชนะเลิศจำนวน 1 ผลงาน และรางวัลชมเชยจำนวน 2 ผลงาน ใน 2 ประเภทตลาด รวมทั้งสิ้น 8 รางวัล มูลค่าเงินรางวัลรวมกว่า 200,000 บาท
โดยผู้ที่ได้รับรางวัลการประกวดออกแบบตราสัญลักษณ์ตลาดกลางสินค้าเกษตรในความส่งเสริมของกรมการค้าภายใน รางวัลชนะเลิศได้แก่นายวีระพงษ์ อมรสิน รับเงินรางวัล 50,000 บาทพร้อมโล่และเกียรติบัตร รางวัลรองชนะเลิศได้แก่นายศุภชัย วงษ์บุตร รับเงินรางวัล 30,000 บาทพร้อมโล่และเกียรติบัตร และรางวัลชมเชยได้แก่นายบำรุง อิศรกุลและนายถวัลย์ ดิษฐสุธรรม รับเงินรางวัลท่านละ 10,000 บาทพร้อมโล่และเกียรติบัตรจากกรมการค้าภายใน
ส่วนผู้ชนะประกวดตราสัญลักษณ์ตลาดสดในความส่งเสริมของกรมการค้าภายใน ผู้ชนะเลิศได้แก่นายศุภชัย วงษ์บุตร รับเงินรางวัล 50,000 บาทพร้อมโล่และเกียรติบัตร รางวัลรองชนะเลิศได้แก่ นายบำรุง อิศรกุล รับเงินรางวัล 30,000 บาทพร้อมโล่และเกียรติบัตร และรางวัลชมเชยได้แก่ นายกมล บุญญารัชต์ และนายเกียรติศักดิ์ ช่วยสกุล รับเงินรางวัลท่านละ 10,000 บาทพร้อมโล่และเกียรติบัตรจากกรมการค้าภายใน
นายบุณยฤทธิ์ กล่าวต่อว่า กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของระบบตลาดในระดับฐานราก ที่เป็นมนต์เสน่ห์และวิถีชีวิตที่สะท้อนความเป็นไทยมาอย่างยาวนาน จึงได้ให้การสนับสนุนส่งเสริมมาโดยตลอด และการจัดประกวดออกแบบตราสัญลักษณ์ในครั้งนี้ ถือเป็นการการันตีคุณภาพและมาตรฐานของตลาดที่เป็นสากล เพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับระบบตลาดฐานราก ให้ความเชื่อมั่นกับผู้บริโภคและยังเป็นการเชิญชวนประชาชนให้มาใช้บริการตลาดกลางสินค้าเกษตรและตลาดสดในความส่งเสริมของกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ที่มีมาตรฐานมากขึ้น