กลุ่มฯยานยนต์ ส.อ.ท. ไม่เห็นด้วยกับการนำเข้ารถยนต์ที่เลี่ยงภาษี เผยส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค ภาครัฐ และอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย

จันทร์ ๒๕ มิถุนายน ๒๐๑๘ ๑๖:๒๘
นายครรชิต ไชยสุโพธิ์ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การนำเข้ารถยนต์ที่เลี่ยงภาษีเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมานานหลายปี แม้ว่าภาครัฐมีความพยายามที่จะแก้ปัญหา แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ไขให้หมดไปได้ ทำให้รัฐต้องสูญเสียรายได้ด้านภาษีเป็นจำนวนมาก ผู้บริโภคได้รับผลกระทบด้านคุณภาพ และมาตรฐานความปลอดภัย อีกทั้งเป็นเหตุให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นในนโยบายการส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยของภาครัฐ

จากปัญหาการนำเข้ารถยนต์เลี่ยงภาษีที่ยังคงมีอยู่ ประกอบกับปัจจุบันมีแรงกดดันจากผู้นำเข้ารถยนต์อิสระ ที่ขอให้หน่วยงานภาครัฐดำเนินการปรับลดภาษีนำเข้ารถยนต์สำเร็จรูป ตลอดจนขอยกเว้นกฎระเบียบต่างๆ เพื่อทำให้กลุ่มผู้นำเข้าอิสระสามารถประกอบธุรกิจได้นั้น กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภา-อุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ในฐานะที่เป็นผู้ได้รับผลกระทบที่สำคัญกลุ่มหนึ่ง จึงขอนำเสนอมุมมองอีกด้านให้สังคมได้รับทราบ

เมื่อปี พ.ศ. 2555 บริษัท ไบรอัน เคฟ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับคณะผู้วิจัยจากมหาวิทยาลัย- ธรรมศาสตร์ และกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ได้ทำการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการนำเข้า และจำหน่ายรถยนต์นำเข้าโดยผู้นำเข้าอิสระ (Grey Market) ในประเทศไทย โดยได้ศึกษาถึงกระบวนการและผลกระทบ สามารถสรุปได้ดังนี้

กระบวนการนำเข้ารถยนต์ของผู้นำเข้าอิสระมี 3 รูปแบบหลัก ได้แก่

1. การนำเข้ารถใหม่ (CBU)

2. การนำเข้าโดยการสำแดงเป็นรถยนต์ใช้แล้ว ผ่านการขอใบอนุญาตจากกรมการค้าต่างประเทศ

3. รถจดประกอบหรือการแยกชิ้นส่วน เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษีนำเข้าในอัตรารถยนต์สำเร็จรูป

อย่างไรก็ตาม จากการที่ภาครัฐได้เพิ่มความเข้มงวดในการนำเข้ารถยนต์จดประกอบ ทำให้ปัญหาจากการนำเข้ารถยนต์ผ่านช่องทางนี้ลดลงอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ปัญหาจากการนำเข้ารถยนต์ของผู้นำเข้าอิสระ โดยทั่วไปพบว่ามีการสำแดงราคาของรถยนต์ต่ำกว่าความเป็นจริง มีการหลีกเลี่ยงขั้นตอนทางศุลกากร รวมถึงกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับมาตรฐาน และความ-ปลอดภัย เช่น การทดสอบมาตรฐานมลพิษ และการติด ECO Sticker เป็นต้น

กระบวนการนำเข้าของผู้นำเข้าอิสระในรูปแบบต่างๆ ดังกล่าวข้างต้น นอกจากจะทำให้รัฐบาลต้องสูญเสียรายได้จากภาษีอากร ซึ่งได้แก่ ภาษีศุลกากร ภาษีสรรพสามิต และภาษีมูลค่าเพิ่ม ฯลฯ เป็นจำนวนมากแล้ว ยังก่อให้เกิดความสูญเสียและส่งผลกระทบในด้านต่างๆ ดังนี้

1. การสูญเสียต่อผู้บริโภค ผู้นำเข้าและจำหน่ายอย่างเป็นทางการ (Authorized Dealer) มีการลงทุนสร้างและปรับปรุงเครือข่ายการซ่อมบำรุงรถยนต์อย่างต่อเนื่อง เพื่อรับรองคุณภาพและรักษามาตรฐานความปลอดภัยของสินค้าให้อยู่ในระดับสากล แต่รถที่นำเข้าโดยผู้นำเข้าอิสระ มีความไม่แน่นอนด้านคุณภาพสินค้าและมาตรฐานความปลอดภัย นอกจากนี้ ผู้บริโภคยังมีความเสี่ยงในการถูกยึดรถดำเนินคดี รวมถึงการลงโทษทางภาษีที่ต้องชำระภาษีย้อนหลังและค่าปรับ

2. การสูญเสียโอกาสการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนของไทย หากปริมาณการผลิตรถยนต์และการใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศลดลง หรือไม่มากพอ เนื่องมาจากการแทรกแซงตลาดโดยผู้นำเข้าอิสระที่อาศัยช่องทางการปฏิบัติที่ก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมในการแข่งขัน ส่งผลให้ Economy of Scale ลดลง บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ภายในประเทศไม่ขยายการลงทุนเพิ่ม ประเทศไทยจะสูญเสียโอกาสในหลายๆ ด้าน ได้แก่การพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน การจ้างงานและการพัฒนาฝีมือแรงงานของผู้ผลิตชิ้นส่วนไทยส่งผลต่อห่วงโซ่อุปทานต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่อง

3. การสูญเสียรายได้ของรัฐ และผลกระทบของเศรษฐกิจที่ถูกบิดเบือน ความเสียหายต่อการประเมินศักยภาพในการจัดเก็บภาษีของรัฐบาลไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง เนื่องจากมีการสำแดงโครงสร้างราคาของรถเพื่อการชำระภาษีที่เกี่ยวข้องต่ำกว่าความเป็นจริง รวมถึงการเลี่ยงภาษีของผู้นำเข้าอิสระ

4. ผลกระทบต่อ Authorized Dealer ก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรม เนื่องจาก Authorized Dealer มีการลงทุนสูงมาก โดยเฉพาะศูนย์บริการแบบครบวงจรและได้ตามมาตรฐานสูงสุด การลงทุนอุปกรณ์เครื่องมือพิเศษตรวจเช็กที่ครบครันและทันสมัย การจ้างทีมงานช่างผู้ชำนาญการ การลงทุนด้านการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ ตลอดจนการรับผิดชอบต่อคุณภาพและผลิตภัณฑ์ อาทิ การรับประกันอะไหล่ระยะ-ยาว, การ Recall รถที่จำหน่ายไปแล้ว ฯลฯ

กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ จึงขอเสนอแนะมาตรการที่จำเป็นสำหรับปัญหาผู้นำเข้าอิสระ (Grey Market) ดังนี้

1. ขอให้ภาครัฐพิจารณาคงอัตราภาษีศุลกากรนำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศที่ 80% เนื่องจากการลดภาษีจะทำให้มีการนำเข้ารถยนต์มากขึ้น จนกระทบต่อยอดรถที่ผลิตภายในประเทศ ไม่ก่อให้เกิด Economy of Scale ไม่มีการลงทุนเพื่อผลิตรถยนต์รุ่นใหม่ ส่งผลกระทบกับอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์และอุตสาหกรรมต่อเนื่อง นอกจากนี้การลดอัตราภาษีศุลกากรนำเข้ารถยนต์จะส่งผลต่อการเจรจาเขตการค้าเสรีในอนาคต

2. ขอให้กรมศุลกากรเร่งรัดการพิจารณาปรับปรุงหลักเกณฑ์การประเมินราคารถยนต์นำเข้าฉบับใหม่ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม และให้ผู้ประกอบการทุกรายสามารถแข่งขันได้บนพื้นฐานเดียวกัน

3.ขอให้กรมศุลกากรเข้มงวดด้านการตรวจสอบการสำแดงราคานำเข้าเพื่อป้องกันการสำแดงราคารถยนต์นำเข้าที่ต่ำกว่าความเป็นจริง

4.ขอให้กรมสรรพสามิตเข้มงวดด้านการตรวจสอบการสำแดงราคาขายปลีกแนะนำ รวมถึงการดูแลจัดเก็บภาษีให้ถูกต้องตามประเภทรถยนต์

5. ขอให้กรมการขนส่งทางบกเข้มงวดด้านการจดทะเบียนรถยนต์จากผู้นำเข้าอิสระ ภายใต้ตราผลิตภัณฑ์เดียวกันกับเจ้าของแบรนด์ฯ

6. ขอให้สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเข้มงวดด้านการตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐานความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์เป็นสำคัญ

7. ภาครัฐไม่ควรนำหลักการของภาษีศุลกากรนำเข้าระหว่างประเทศสมาชิก ASEAN ภายใต้เขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) ที่เป็นศูนย์ มาเป็นเหตุผลในการลดอัตราภาษีศุลกากรนำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศ เนื่องจากการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ AFTA ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การส่งเสริมการใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศจึงจะได้รับสิทธิทางภาษี

8. ขอให้ภาครัฐออกนโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน และพิจารณาความเหมาะสมอย่างรอบด้าน

มาตรการที่กล่าวมานั้น เป็นปัจจัยสำคัญในการแก้ปัญหาในระยะยาว หากรถที่นำเข้าจากผู้นำเข้าอิสระ (Grey Market) สามารถนำเข้าอย่างถูกกฎหมายโดยผู้นำเข้าและจำหน่ายอย่างเป็นทางการได้ จะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับหลายภาคส่วนของประเทศ ทั้งภาครัฐ ในด้านการจัดเก็บภาษีอากร ภาคเอกชนด้านการส่งเสริมการแข่งขันในตลาดให้มีความเท่าเทียมและเป็นธรรม และภาคประชาชนด้านคุณภาพ มาตรฐาน และความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ ฯลฯ

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO