“บิ๊กอู๋” กำชับ ตรวจสอบกรณีสาวไทยหนี ตม.เกาหลี จนแท้งลูก เตือนแรงงานไทยต้องไปทำงานแบบถูกกฎหมายเท่านั้น

นางเพชรรัตน์ สินอวย รองปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะโฆษกกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า จากกรณีที่หนังสือพิมพ์ข่าวสดได้นำเสนอข้อมูลจากผู้ใช้ Facebook เรื่อง หญิงไทยหลบหนี ตม.สาธารณรัฐเกาหลี จนเกิดอาการแท้งบุตร นั้น พล.ต.อ. อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มีความห่วงใยในกรณีดังกล่าว และได้สั่งการให้อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี (สนร.โซล) ตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วน โดยพบว่า ผู้โพสต์ Facebook ชื่อ น.ส.วิกราณ์ดา ศิลานคร เป็นอดีตล่ามของศูนย์ช่วยเหลือแรงงานต่างชาติกวางจู และเคยเป็นอาสาสมัครแรงงาน แต่ขณะนี้หมดอายุการเป็นสมาชิกซึ่งต้องต่ออายุสมาชิกเป็นรายปี สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับหญิงไทยที่หลบหนีด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) สาธารณรัฐเกาหลีรายดังกล่าว จากการตรวจสอบพบว่า ได้เข้ามาทำงานแบบผิดกฎหมายและตั้งครรภ์ราว 6 เดือน โดยเมื่อวันที่ 24 มิ.ย.61 ได้ไปเข้ารับการรักษาพยาบาล ณ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยจอนนัม เป็นเวลา 12 ชั่วโมง เนื่องจากมีอาการเป็นไข้และปวดท้องหลัง เมื่อทานยาแก้ไข้แล้วไม่หาย แต่มีอาการน้ำคร่ำเดิน สามีจึงนำส่งโรงพยาบาล แต่ไม่มีบัตรประจำตัวคนต่างด้าว (กาม่า) เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลจึงประสานแจ้ง ให้ตม.สาธารณรัฐเกาหลีทราบ ซึ่งเจ้าหน้าที่ ตม. ได้ให้หญิงไทยรายดังกล่าวเดินทางกลับประเทศไทยภายใน 8 ก.ค.61 สำหรับค่ารักษาพยาบาล ได้รับส่วนลดจากโรงพยาบาล และไม่มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย โดยหญิงไทยรายนี้ ไม่ขอเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว ขณะนี้พักรักษาตัว ณ ที่พัก รอการเดินทางกลับประเทศไทย

นางเพชรรัตน์ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากกรณีดังกล่าวจะเห็นได้ว่า การหลบหนีไปทำงานต่างประเทศแบบผิดกฎหมายนั้น มีแต่โทษ นอกจากจะต้องอยู่แบบหลบซ่อนแล้ว ยังเสี่ยงต่อการถูกหลอกลวงเกี่ยวกับการค้ามนุษย์และการบังคับใช้แรงงานอย่างผิดกฎหมายอีกด้วย สำหรับแรงงานไทยที่ไปทำงานในต่างประเทศแบบถูกกฎหมาย รัฐบาลและกระทรวงแรงงานพร้อมอำนวยความสะดวก รวมถึงปกป้องและดูแลสิทธิประโยชน์ต่างๆ ของแรงงานไทยอย่างเต็มที่ จึงขอย้ำเตือนให้แรงงานไทยตระหนักถึงการเดินทางไปทำงานต่างประเทศอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เนื่องจากจะได้รับการคุ้มครองดูแลอย่างเต็มกำลังจากทุกภาคส่วน ตั้งแต่ก่อนเดินทาง ระหว่างทำงาน และกลับจากต่างประเทศ เมื่อเดินทางไปทำงานแล้วยังให้ความคุ้มครองดูแลอย่างต่อเนื่อง หากประสบปัญหาในต่างประเทศ สำนักงานแรงงานไทยหรือสถานเอกอัครราชทูตไทยในต่างประเทศ จะเป็นตัวแทนรัฐบาลในการดูแลแรงงานไทยในต่างประเทศเช่นกัน

ทั้งนี้ ผู้ที่มีความประสงค์จะเดินทางไปทำงานในต่างประเทศ สามารถตรวจสอบข้อมูลการรับสมัครงานหรือรายชื่อบริษัทจัดหางานที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงแรงงาน ได้ที่เว็บไซต์กรมการจัดหางาน http://www.doe.go.th หรือโทรสายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน