ล่าสุดเมื่อเดือนกันยายน 2560 ที่ผ่านมาสถาบันวัคซีนแห่งชาติ (องค์การมหาชน)ได้จัดทำบันทึกข้อตกลงเรื่อง "วัคซีนป้องกันไข้สมองอักเสบเจอี" ร่วมกับมหาวิทยาลัยมหิดลและองค์การเภสัชกรรม เพื่อร่วมวิจัยพัฒนาวัคซีนป้องกันไข้สมองอักเสบเจอีชนิดเชื้อเป็นอ่อนฤทธิ์จากเซลล์เพาะเลี้ยง ให้เป็นวัคซีนในแผนการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคแห่งชาติ โดยในระยะแรกเน้นเป้าหมายตั้งแต่การพัฒนาวัคซีนต้นแบบในห้องปฏิบัติการจนถึงขั้นตอนการทดสอบวัคซีนในสัตว์ทดลอง และการทดสอบความปลอดภัยที่ไม่ได้ทำในมนุษย์ (Non-clinical safety test) โดยผ่านการทดสอบวัคซีนในเบื้องต้นก่อนนำไปผลิตจากสายพันธุ์เชื้อตั้งต้น การพัฒนากระบวนการที่ใช้ในการเตรียมวัคซีนต้นแบบโดยใช้เชื้อต้นแบบที่ได้มาตรฐาน GMP
โดยสถาบันวัคซีนแห่งชาติฯจะสนับสนุนด้านนโยบายและงบประมาณในการวิจัยพัฒนาวัคซีน รวมถึงประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานทั้งในและต่างประเทศ ตลอดจนบริหารโครงการโดยแต่งตั้งผู้จัดการโครงการ ทำหน้าที่ประสานผู้เชี่ยวชาญ และหน่วยงานพันธมิตรและเครือข่ายต่างๆ เพื่อผลักดันให้สามารถผลิตวัคซีนไข้สมองอักเสบเจอี จนได้ผลการตรวจสอบประสิทธิภาพและความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการ รวมทั้งการติดตามและประเมินโครงการอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง เพื่อให้โครงการสำเร็จตามเป้าหมาย และนำไปสู่การพัฒนาในระดับอุตสาหกรรม สนับสนุนการพัฒนาบุคลากรผู้รับผิดชอบโครงการวิจัยพัฒนาและในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่นำไปสู่การผลิตวัคซีนไข้สมองอักเสบเจอี
ในขณะที่มหาวิทยาลัยมหิดลโดยศูนย์วิจัยและพัฒนาวัคซีน สถาบันชีววิทยาศาสตร์โมเลกุล จะทำการวิจัยพัฒนาวัคซีนต้นแบบในห้องปฏิบัติการตั้งแต่การเตรียมสายพันธุ์เชื้อและการทดสอบวัคซีนในสัตว์ทดลอง การทดสอบกรอบความเป็นไปได้ของแนวคิด(Proof of concept)และร่วมดำเนินการเพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพและความปลอดภัยที่ไม่ได้ทำในมนุษย์ โดยการสนับสนุนบุคลากรและทรัพยากรที่มีความจำเป็นต่อการวิจัยพัฒนาสู่การผลิตวัคซีน
ส่วนองค์การเภสัชกรรมโดยฝ่ายชีววัตถุจะทำการวิจัยพัฒนาสู่การผลิตวัคซีนต้นแบบ ทำหน้าที่ในการพัฒนากระบวนการเลี้ยงเชื้อและแยกตัวเชื้อให้มีความบริสุทธิ์เพียงพอเพื่อทดสอบวัคซีนในสัตว์ทดลอง ร่วมการทดสอบกรอบความเป็นไปได้ของแนวคิด (Proof of concept) เพื่อเตรียมการในระยะถัดไป ได้แก่ การผลิตหัวเชื้อที่ได้มาตรฐาน GMP และการพัฒนากระบวนการ (GMP seed &process development) รวมทั้งการตรวจสอบประสิทธิภาพและความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการโดยการสนับสนุนบุคลากรและทรัพยากรที่มีความจำเป็นต่อการวิจัยพัฒนาสู่การผลิตวัคซีน
ดร.นพ.จรุงยังกล่าวด้วยว่าข้อดีของความร่วมมือในการวิจัยพัฒนา "วัคซีนป้องกันไข้สมองอักเสบเจอี"ในครั้งนี้ จะช่วยให้ได้วัคซีนที่ผลิตตั้งแต่ต้นน้ำ ที่ผลิตในเซลล์เพาะเลี้ยงลดการใช้สัตว์ทดลอง เป็นวัคซีนที่ผลิตจากหัวเชื้อวัคซีนต้นแบบที่เกิดจากการวิจัยในประเทศและตรงกับสายพันธุ์ที่ทำให้เกิดโรค ผลิตโดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ มีความปลอดภัย มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งผลการวิจัยสามารถนำไปต่อยอดในการผลิตวัคซีนตัวอื่นที่ใช้แบบเพาะเลี้ยงเซลล์ได้ เช่น วัคซีนไข้เลือดออก วัคซีนไข้หวัดใหญ่ วัคซีนไข้ซิกา วัคซีนโรคพิษสุนัขบ้า เป็นต้น เพื่อให้ได้วัคซีนที่มีมาตรฐานสากลระดับนานาชาติ และพัฒนาต่อยอดในระดับอุตสาหกรรมต่อไปได้ เป็นการเพิ่มทางเลือก ด้วยการมีวัคซีนทดแทนที่ช่วยแก้ปัญหาขาดแคลนวัคซีนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต และนอกจากนี้วัคซีนไข้สมองอักเสบเจอียังนับเป็นหนึ่งในวัคซีนพื้นฐานที่สามารถผลิตขึ้นได้เอง ตามเป้าหมายระยะ 20 ปี เพื่อสร้างความมั่นคงและการพึ่งพาตนเองด้านวัคซีนประเทศไทยด้วย ดร.นพ.จรุงกล่าวปิดท้าย