สถาบันวัคซีนแห่งชาติฯ หนุน ม.มหิดล และ อภ. พัฒนา “วัคซีนไข้สมองอักเสบเจอี”

ศุกร์ ๒๙ มิถุนายน ๒๐๑๘ ๑๐:๓๘
ดร.นพ.จรุง เมืองชนะ ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ(สวช.)กล่าวว่า "โรคไข้สมองอักเสบเจอี"เป็นโรคไข้สมองอักเสบที่พบมากที่สุดในภูมิภาคเอเชีย โรคนี้เกิดจากการติดเชื้อไวรัส เจอี(Japanese encephalitis: JEV)โดยมียุงรำคาญเป็นพาหะ ผู้ติดเชื้อไวรัสเจอีส่วนใหญ่จะไม่แสดงอาการแต่ถ้ามีอาการมักรุนแรงอาจถึงขั้นเสียชีวิตหรือพิการ สำหรับในประเทศไทยกระทรวงสาธารณสุขได้บรรจุวัคซีนป้องกันโรคไข้สมองอักเสบเจอีอยู่ในแผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค โดยกำหนดให้เป็นวัคซีนขั้นพื้นฐานที่ต้องให้บริการแก่เด็กไทยทุกคน จำนวน 3 ครั้ง ครั้งที่ 1และ 2 ให้เมื่ออายุ 1 ปี และครั้งที่ 3 เป็นการกระตุ้น ให้เมื่ออายุ 2 ปีครึ่ง ส่งผลให้ช่วงหลายปีที่ผ่านมา ผู้ป่วยโรคไข้สมองอักเสบเจอีในประเทศไทยมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหลายชนิดเป็นแหล่งรังโรค เช่น สุกร สุนัข วัว ควาย เป็นต้น ทำให้การกำจัดโรคให้หมดไปทำได้ยาก หากหยุดการให้วัคซีนเชื่อว่าโรคจะกลับมาระบาดอีก จึงจำเป็นต้องให้วัคซีนชนิดนี้ต่อไปอีกนานในอนาคต จึงควรที่จะพัฒนาศักยภาพการผลิตวัคซีนให้ได้เองตั้งแต่ต้นน้ำ นอกจากเป็นการสร้างความมั่นคงด้านวัคซีน ลดการนำเข้า สร้างศักยภาพการแข่งขันด้านวิทยาศาสตร์ชีวภาพแล้ว ยังสามารถส่งออกได้ในอนาคต

ล่าสุดเมื่อเดือนกันยายน 2560 ที่ผ่านมาสถาบันวัคซีนแห่งชาติ (องค์การมหาชน)ได้จัดทำบันทึกข้อตกลงเรื่อง "วัคซีนป้องกันไข้สมองอักเสบเจอี" ร่วมกับมหาวิทยาลัยมหิดลและองค์การเภสัชกรรม เพื่อร่วมวิจัยพัฒนาวัคซีนป้องกันไข้สมองอักเสบเจอีชนิดเชื้อเป็นอ่อนฤทธิ์จากเซลล์เพาะเลี้ยง ให้เป็นวัคซีนในแผนการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคแห่งชาติ โดยในระยะแรกเน้นเป้าหมายตั้งแต่การพัฒนาวัคซีนต้นแบบในห้องปฏิบัติการจนถึงขั้นตอนการทดสอบวัคซีนในสัตว์ทดลอง และการทดสอบความปลอดภัยที่ไม่ได้ทำในมนุษย์ (Non-clinical safety test) โดยผ่านการทดสอบวัคซีนในเบื้องต้นก่อนนำไปผลิตจากสายพันธุ์เชื้อตั้งต้น การพัฒนากระบวนการที่ใช้ในการเตรียมวัคซีนต้นแบบโดยใช้เชื้อต้นแบบที่ได้มาตรฐาน GMP

โดยสถาบันวัคซีนแห่งชาติฯจะสนับสนุนด้านนโยบายและงบประมาณในการวิจัยพัฒนาวัคซีน รวมถึงประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานทั้งในและต่างประเทศ ตลอดจนบริหารโครงการโดยแต่งตั้งผู้จัดการโครงการ ทำหน้าที่ประสานผู้เชี่ยวชาญ และหน่วยงานพันธมิตรและเครือข่ายต่างๆ เพื่อผลักดันให้สามารถผลิตวัคซีนไข้สมองอักเสบเจอี จนได้ผลการตรวจสอบประสิทธิภาพและความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการ รวมทั้งการติดตามและประเมินโครงการอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง เพื่อให้โครงการสำเร็จตามเป้าหมาย และนำไปสู่การพัฒนาในระดับอุตสาหกรรม สนับสนุนการพัฒนาบุคลากรผู้รับผิดชอบโครงการวิจัยพัฒนาและในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่นำไปสู่การผลิตวัคซีนไข้สมองอักเสบเจอี

ในขณะที่มหาวิทยาลัยมหิดลโดยศูนย์วิจัยและพัฒนาวัคซีน สถาบันชีววิทยาศาสตร์โมเลกุล จะทำการวิจัยพัฒนาวัคซีนต้นแบบในห้องปฏิบัติการตั้งแต่การเตรียมสายพันธุ์เชื้อและการทดสอบวัคซีนในสัตว์ทดลอง การทดสอบกรอบความเป็นไปได้ของแนวคิด(Proof of concept)และร่วมดำเนินการเพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพและความปลอดภัยที่ไม่ได้ทำในมนุษย์ โดยการสนับสนุนบุคลากรและทรัพยากรที่มีความจำเป็นต่อการวิจัยพัฒนาสู่การผลิตวัคซีน

ส่วนองค์การเภสัชกรรมโดยฝ่ายชีววัตถุจะทำการวิจัยพัฒนาสู่การผลิตวัคซีนต้นแบบ ทำหน้าที่ในการพัฒนากระบวนการเลี้ยงเชื้อและแยกตัวเชื้อให้มีความบริสุทธิ์เพียงพอเพื่อทดสอบวัคซีนในสัตว์ทดลอง ร่วมการทดสอบกรอบความเป็นไปได้ของแนวคิด (Proof of concept) เพื่อเตรียมการในระยะถัดไป ได้แก่ การผลิตหัวเชื้อที่ได้มาตรฐาน GMP และการพัฒนากระบวนการ (GMP seed &process development) รวมทั้งการตรวจสอบประสิทธิภาพและความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการโดยการสนับสนุนบุคลากรและทรัพยากรที่มีความจำเป็นต่อการวิจัยพัฒนาสู่การผลิตวัคซีน

ดร.นพ.จรุงยังกล่าวด้วยว่าข้อดีของความร่วมมือในการวิจัยพัฒนา "วัคซีนป้องกันไข้สมองอักเสบเจอี"ในครั้งนี้ จะช่วยให้ได้วัคซีนที่ผลิตตั้งแต่ต้นน้ำ ที่ผลิตในเซลล์เพาะเลี้ยงลดการใช้สัตว์ทดลอง เป็นวัคซีนที่ผลิตจากหัวเชื้อวัคซีนต้นแบบที่เกิดจากการวิจัยในประเทศและตรงกับสายพันธุ์ที่ทำให้เกิดโรค ผลิตโดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ มีความปลอดภัย มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งผลการวิจัยสามารถนำไปต่อยอดในการผลิตวัคซีนตัวอื่นที่ใช้แบบเพาะเลี้ยงเซลล์ได้ เช่น วัคซีนไข้เลือดออก วัคซีนไข้หวัดใหญ่ วัคซีนไข้ซิกา วัคซีนโรคพิษสุนัขบ้า เป็นต้น เพื่อให้ได้วัคซีนที่มีมาตรฐานสากลระดับนานาชาติ และพัฒนาต่อยอดในระดับอุตสาหกรรมต่อไปได้ เป็นการเพิ่มทางเลือก ด้วยการมีวัคซีนทดแทนที่ช่วยแก้ปัญหาขาดแคลนวัคซีนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต และนอกจากนี้วัคซีนไข้สมองอักเสบเจอียังนับเป็นหนึ่งในวัคซีนพื้นฐานที่สามารถผลิตขึ้นได้เอง ตามเป้าหมายระยะ 20 ปี เพื่อสร้างความมั่นคงและการพึ่งพาตนเองด้านวัคซีนประเทศไทยด้วย ดร.นพ.จรุงกล่าวปิดท้าย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ