นางวาสนา รุ่งแสนทอง ลาทูรัส ประธานกรรมการบริหาร บริษัท นารายณ์ อินเตอร์เทรด จำกัด (นารายา) เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัททำตลาดผลิตภัณฑ์ ภายใต้แบรนด์ "นารายา" มากว่า 29 ปี ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เพราะถูกจัดให้เป็นสินค้าแบรนด์อันดับต้นๆ ที่ผู้บริโภค ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ มักจะนึกถึง หากนึกถึงสินค้าไทยที่เป็นที่รู้จัก แต่ทั้งนี้บริษัทยังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์ และพัฒนาสินค้างานฝีมือที่ทำจากฝีมือของคนไทย ให้ไปอวดโฉมสู่สายตาผู้บริโภค ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
ดังนั้น นอกจากการฉลองเปิดตัวร้าน "นารายา" ซึ่งอยู่ภายใต้คอนเซ็ปท์ใหม่อย่างยิ่งใหญ่แล้ว ยังได้เปิดตัว 4 แบรนด์ใหม่ไปพร้อมๆ กัน โดยแต่ละแบรนด์จะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแตกต่างกันออกไป ได้แก่
1.NARA เป็นแบรนด์กระเป๋าและเครื่องประดับตกแต่งสำหรับผู้ชายโดยเฉพาะ โดยมีเอกลักษณ์ของแบรนด์ นั่นคือ ความมีเสน่ห์ ลงตัว คล่องแคล่ว เรียบง่าย แต่มีรายละเอียด
2.Aphrodite เป็นแบรนด์กระเป๋าและเครื่องประดับตกแต่งสำหรับผู้หญิง ซึ่งเป็นการยกระดับขึ้นมาจากแบรนด์นารายา โดยเอกลักษณ์ของแบรนด์ นั่นคือ ความสง่างามจากผู้สร้าง ต่อยอดจากกระเป๋าที่ทุกคนเป็นเจ้าของได้ สู่ความพรีเมียม ที่ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจ และความงามให้ผู้หญิงทุกคน มีความเรียบง่าย สง่างาม จากการออกแบบที่ช่วยสะท้อนประกายความเป็นตัวคุณ
3.LaLaMa เป็นแบรนด์เสื้อผ้าและเครื่องประดับตกแต่งสไตล์โบฮีเมียน ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ปัจจุบัน (ที่ร้านสาขาเซ็นทรัลเวิลด์ มีจำหน่ายแค่กระเป๋า ไม่มีเสื้อผ้า)
4.Evangelisa เป็นแบรนด์เสื้อผ้าและเครื่องประดับตกแต่งจากผ้าไหม ผ้าไหมไทยร่วมสมัย สามารถใช้ได้ทุกวัน และยังนำมามิกซ์แอนด์แมทช์ให้เข้ากับคาแรคเตอร์ของผู้ใช้ เป็นแบรนด์ที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ ความเรียบหรู สะท้อนตัวตนที่แตกต่าง มีชีวิตชีวาและหลากหลาย
นอกจากนี้ ยังได้ทุ่มงบประมาณในการสร้าง และตกแต่งร้านใหม่ให้ใหญ่ขึ้น โดยมีเทคโนโลยี Magic Mirror ซึ่งเป็นนวัตกรรมบวกกับความคิดสร้างสรรค์ของนารายา ที่ผสมผสานความเชี่ยวชาญด้านการค้าปลีก และเทคโนโลยีล่าสุด เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถสัมผัสกับแบรนด์ได้อย่างง่ายดาย ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้สัมผัส
สำหรับการเปิดตัว 4 แบรนด์ใหม่ในครั้งนี้ บริษัทได้ทุ่มเท และมุ่งมั่นที่จะพัฒนาสินค้าไทย เพื่อให้ลูกค้าได้มีความสุขกับการเลือกซื้อสินค้าที่หลากหลายขึ้น และเพิ่มความสะดวกสบาย ด้วยการขยายพื้นที่ในการช้อปปิ้งให้ใหญ่ขึ้น เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น
นอกจากการขยายพื้นที่ในร้านแล้ว บริษัทยังมีแผนจะบุกตลาดอี-คอมเมิร์ซ เพื่อขยายช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้า จากเดิมเป็นการจำหน่ายสินค้าผ่านร้านของ "นารายา" เพียงช่องทางเดียว จึงได้เพิ่มการจัดจำหน่ายทาง https://www.lazada.co.th/shop/naraya-official/ อีกหนึ่งช่องทาง เพื่อให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในปัจจุบัน และเป็นการขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้น โดยภายในปี 2018 นารายาได้ขยายสาขาในประเทศทั้งหมด 38 สาขา และในต่างประเทศ 5 ประเทศ รวม 12 สาขา อาทิ ฮ่องกง ใต้หวัน มาเลเซีย เวียดนาม และเมียนมาร์
ทั้งนี้ การเติบโตอย่างต่อเนื่องของ "นารายา" ยังช่วยสร้างงานให้กับกลุ่มชาวบ้านกว่า 6,000 คน ให้มีงานทำ และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นในท้องถิ่นของตนเอง ซึ่งถือเป็นความมุ่งมั่นในการทำงานของคณะผู้บริหาร และคณะทำงานของ "นารายา" ที่มีมาอย่างยาวนานตลอด 29 ปี และจะดำเนินต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง
นารายาได้รับการขนานนามจากเว็บไซต์ branding in asia ว่าเป็นสินค้าหนึ่งเดียวที่เป็น Asia Brand
อย่างไรก็ตาม "นารายา" นับเป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์ไทยที่หลายประเทศต่างหลงรัก กับความตั้งใจที่จะถ่ายทอดความสุนทรีย์จากไทยสู่โลก ด้วยราคาที่จับต้องได้