ปลัดพงษ์ภาณุ กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของกองทุนช่วยเหลือเยียวยานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติว่าได้จัดตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือเยียวยานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยที่เกิดความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ทั้งในภาวะปกติหรือภาวะวิกฤต โดยมิได้เกิดจากความประมาท เจตนา หรือการกระทำที่ผิดกฎหมายของนักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย ส่งผลต่อการสร้างรายได้ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศ โดยคณะกรรมการกองทุนฯ จะมีหน้าที่พิจารณาจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาตาม "ระเบียบคณะกรรมการบริหารกองทุนช่วยเหลือเยียวยานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการจ่ายเงินกองทุนช่วยเหลือเยียวยานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ พ.ศ. 2558"
จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2561 เกิดฝนตกหนักและคลื่นลมแรงที่จังหวัดภูเก็ต เป็นเหตุให้เรือนักท่องเที่ยวล่มจำนวน 3 ลำ บริเวณเกาะเฮ เกาะราชา และเกาะไม้ท่อน ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ได้แก่ เรือฟีนิกซ์ เรือเซเรนาต้า และเรือเจทสกี แม้จะมีประกาศจากศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันตกฉบับที่ 3 (17/2561) เรื่องฝนตกหนักและคลื่นลมแรงแจ้งให้ประชาชนทราบว่ามีมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามันภาคใต้ฝั่งตะวันตก แต่เรือที่เกิดเหตุนั้นได้ออกมาจากเกาะเฮและเกาะราชาแล้ว และมาประสบเหตุภัยพิบัติในขณะเดินทางกลับมาที่ท่าเรือฉลอง ซึ่งคณะกรรมการกองทุนฯ ได้พิจารณาจากข้อเท็จจริงประกอบกับประกาศดังกล่าว พิจารณาได้ว่าความสูญเสียหรือความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นภัยธรรมชาติ มิได้เกิดจากความประมาท เจตนา หรือการกระทำที่ผิดกฎหมายของนักท่องเที่ยว ตามข้อ 8 (2) แห่งระเบียบฯ ว่าด้วยหลักเกณฑ์ฯ
จึงสามารถพิจารณาจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ตามข้อ 8 (2) แห่งระเบียบฯ ว่าด้วยหลักเกณฑ์ฯ ดังนี้
- กรณีนักท่องเที่ยวเสียชีวิต จะได้รับการช่วยเหลือเยียวยารายละ 1,000,000 บาท ตามข้อ 9 (1) แห่งระเบียบฯ ว่าด้วยหลักเกณฑ์ฯ
- กรณีนักท่องเที่ยวเข้ารับการรักษาพยาบาลจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จะได้รับการช่วยเหลือเยียวยาไม่เกิน รายละ 500,000 บาท ตามที่จ่ายจริง ตามข้อ 9 (2) แห่งระเบียบฯ ว่าด้วยหลักเกณฑ์ฯ
- กรณีฟื้นฟูสภาพจิตใจ จะได้รับการช่วยเหลือเยียวยารายละ 20,000 บาท ตามข้อ 9 (4) แห่งระเบียบฯ ว่าด้วยหลักเกณฑ์ฯ ข้อ 8 (1), (2) และ (4)
- กรณีหยุดชะงักของการเดินทาง รายละไม่เกิน 20,000 บาท
ปลัดฯท่องเที่ยวกล่าวเพิ่มเติมว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ถือเป็นอุบัติเหตุและเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น จึงอยากขอย้ำให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมีการระวังป้องกันและปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด ประการสำคัญต้องไม่ตั้งอยู่บนความประมาท สำหรับครั้งนี้เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นแล้ว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาก็มีหน้าที่ต้องดูแลช่วยเหลือเยียวยา แก่ผู้ที่สูญเสียอย่างเต็มที่เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย ด้วยมาตรฐานกฎเกณฑ์ของคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ
"อาจจะมีคนส่วนหนึ่งที่ไม่เห็นด้วยแต่เราก็ต้องให้การช่วยเหลือเยียวยาเขา เพราะถือว่าเค้าคือนักท่องเที่ยวและไม่ได้ทำผิดอะไร เค้าเป็นเพียง "เหยื่อ" ของความมักง่ายจากผู้ประกอบการที่มีความเห็นแก่ได้เพียงไม่กี่ราย ดังนั้น เพื่อมนุษยธรรมเราต้องช่วยเหลือดูแลเขาให้ดีที่สุดในนามของคนไทยและประเทศไทย" ปลัดฯพงษ์ภาณุ กล่าว