เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท สยาม เอาท์เลต จำกัด ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับองค์การคลังสินค้า กระทรวงพาณิชย์ เพื่อพัฒนาพื้นที่คลังสินค้าดังกล่าว เป็นศูนย์กระจายสินค้าสำหรับธุรกิจค้าปลีกออนไลน์แห่งแรกของประเทศไทย หรือ "ไทยแลนด์ อี-ฟูลฟิลเมนท์ ฮับ" เพื่อรองรับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 รวมทั้งเป็นศูนย์กลางเพื่อให้บริการด้านอีคอมเมิร์ซและโลจิสติกส์ในภูมิภาคอย่างครบวงจร
นางสาวพิมพ์ฐดา สหัชอติเรกลาภ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยาม เอาท์เลต จำกัด กล่าวว่า "ภายใต้ความร่วมมือระหว่าง สยาม เอาท์เลต และองค์การคลังสินค้า ในครั้งนี้ เรามีความยินดีเป็นอย่างมากที่จะนำองค์ความรู้และนวัตกรรมซึ่งสยาม เอาท์เลตได้พัฒนาขึ้นเองโดยเฉพาะ รวมถึงเทคโนโลยีระบบซอฟท์แวร์ด้านการบริหารจัดการคลังสินค้า โลจิสติกส์ และอี-ฟูลฟิลเมนท์ มาแลกเปลี่ยนและถ่ายทอดกับองค์การคลังสินค้า ด้วยประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ และทีมงานบุคลากรมืออาชีพ เรามีศักยภาพและความพร้อมในการรองรับเทรนด์การเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยและภูมิภาค พร้อมตอบโจทย์การให้บริการผู้ค้าและผู้ประกอบการต่างๆ ทั้งไทยและต่างชาติอย่างไร้รอยต่อ"
ทั้งนี้ บริษัท สยาม เอาท์เลต จำกัด และ องค์การคลังสินค้า จะร่วมมือในการกำหนดรูปแบบและแผนระยะ 10 ปี (พ.ศ. 2561 - 2570) สำหรับพัฒนาพื้นที่คลังสินค้าขององค์การคลังสินค้า เพื่อให้บริการคลังสินค้าในลักษณะ ศูนย์กระจายสินค้าสำหรับธุรกิจค้าปลีกออนไลน์ระดับภูมิภาค (Regional e-Fulfillment Hub) เพื่อตอบสนองนโยบายส่งเสริมการตลาดพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Commerce) ซึ่งเป็นบริการด้านคลังสินค้าและโลจิสติกส์ที่อำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อย รวมถึงผู้ประกอบการจากต่างประเทศที่ใช้ประเทศไทยเป็นศูนย์กระจายสินค้าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างครบวงจร
บริการของศูนย์กระจายสินค้าสำหรับธุรกิจค้าปลีกออนไลน์ระดับภูมิภาค หรือ "อี-ฟูลฟิลเมนท์ ฮับ" ครอบคลุมถึงการให้บริการพื้นที่เก็บสินค้า (Warehousing / Storage Service) การจัดการสั่งซื้อ การหยิบและบรรจุหีบห่อ (Pick & Pack) รวมถึงการจัดส่งจนถึงมือลูกค้าปลายทาง (Shipping / Delivery Service) ซึ่งทุกกระบวนการจะควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์และเชื่อมโยงกับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอื่นๆ เพื่อช่วยให้ธุรกิจอีคอมเมิร์ซมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งในด้านการบริการและการลดต้นทุนของธุรกิจ
ภายใต้บันทึกความเข้าใจ (MOU) ดังกล่าว บริษัท สยาม เอาท์เลต จำกัด จะช่วยถ่ายทอดองค์ความรู้ ด้านการบริหารจัดการด้านโลจิสติกส์ให้กับเจ้าหน้าที่องค์การคลังสินค้า เพื่อให้มีความรู้กระบวนการบริหารจัดการ ตลอดจนการลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ทั้งระบบ ส่วนองค์การคลังสินค้า จะดำเนินนโยบายและประสานงานกับหน่วยงานราชการอื่นที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินนโยบายส่งเสริมการตลาดพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Commerce) ของภาครัฐ เพื่อเป็นศูนย์กลางการสนับสนุนผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ให้ได้มีโอกาสขยายสู่ตลาดโลกได้ง่ายในลักษณะศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ (One Stop Service)
"นอกจากนี้ เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ผู้ประกอบการต่างชาติมาลงทุนและใช้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในการกระจายสินค้า ซึ่งจะนำไปสู่การยกระดับประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางกระจายสินค้าของภูมิภาคในอนาคต สยามเอาท์เลตได้เตรียมพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อใช้บูรณาการกระบวนการทำงานร่วมกับหน่วยงานราชการภาครัฐต่างๆ ด้วย" นางสาวพิมพ์ฐดา กล่าวทิ้งท้าย