ประเดิมละครเรื่องแรกก็ได้รับบทเด่นเป็น "ผู้กองไชโย" ที่เจ้าตัวบอกว่า บทที่เค้าได้รับนั้นเป็นคนดี เป็นคนที่จริงจังในการทำงานและยึดมั่นในอุดมการณ์ ซื่อสัตย์กับงานที่ทำอยู่ ไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาซื้อเกียรติของตำรวจได้ และมีความซื่อตรงในการทำคดีโดยยืดถือหลักฐานและพยานเป็นหลัก ไม่เพียงแค่นั้น หนุ่มป่านยังเล่าถึงการทำงานในเรื่องนี้เพิ่มเติมอีกว่า
@เล่นเรื่องแรกก็รับบทเป็น "ตำรวจ" เลย
ตอนได้รับบทครั้งแรกก็มีความกังวลอยู่ไม่น้อย แต่พอไปเรียนแอ็คติ้ง ก็คลายกังวลไปได้ครับ จริงๆ คนมันไม่เคยนะ (หัวเราะ) แต่ก็ไม่ได้หนักถึงขนาดนั้นนะครับ เรียกว่าผมต้องการเล่นให้ถึงดีกว่า อยากเข้าถึงอารมณ์ตัวละคร พี่ๆ ทุกคนแนะนำผมดีนะครับ ผมบกพร่องในส่วนไหน ซึ่งบางทีผมมองข้าม เรียกว่ามองไม่ถึงดีกว่า(หัวเราะ) ผมถือว่าเป็นความท้าทายนะครับ
บทส่วนใหญ่ก็เป็นการปะทะคารม ก็ปะทะกับเชิง (ธันน์ ธนากร) เพราะเขาถูกแกล้งให้เป็นผู้ต้องหา เราก็อ้างตามหลักฐานบ่งบอกว่าเชิงเป็นผู้กระทำผิด เราก็จะจับเขา แต่ในความจริงแล้ว เขาเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่เขาถูกกล่าวหาเฉยๆ เราก็พยายามหาหลักฐานมาจับเขาให้ได้ แล้วก็จะมีเรื่องของ ครูมาลัย (ส้ม ธัญสินี) เป็นผู้หญิงที่ผมชอบ ก็มีส่วนที่ทำให้ผมเร่งหาคดี ไชโยเป็นคนที่ปากแข็งนิดหนึ่ง แต่สุดท้ายก็จะบอกรักมาลัย ทำงานกับพี่ส้ม-ธัญสินี ก็เกร็งๆ นิดหนึ่ง เขินนิดหน่อย แต่พี่เขาก็ดีนะครับ คอยแนะนำผมตลอด
@ต้องศึกษาคาแร็กเตอร์ของการเป็นตำรวจเพิ่มเติมหรือเปล่า
ผมศึกษานะครับ ก็ค้นคว้าตามอินเตอร์เน็ต บางทีเดินทางผ่านไปตรงไหนแล้วเห็นตำรวจยศใหญ่ๆ เขามีมาดยังไง เขาจะดูขรึมๆ สุขุม นิ่ง สำหรับผมถือว่ายากครับกับคาแร็กเตอร์นี้ ยากตรงที่เราใหม่ แรกๆ ยอมรับว่าตื่นเต้น (หัวเราะ) มันก็จะไม่รีแล็กซ์ ตรงนี้ต้องแก้ไขครับ (หัวเราะ) ก่อนที่จะมาเข้าฉากผมทำการบ้านพอสมควรในเรื่องบท บทผมจำได้ ในบางไดอะล็อกก็จะเปลี่ยนไปในทิศทางที่ส่งเสริมตำรวจ ใส่ชุดตำรวจนี่นะกินข้าวอิ่มแล้วแน่นมากเลยครับ (หัวเราะ)
@ต้องเล่นคิวบู๊เหมือน 3 พระเอกมั้ย?
มีบู๊ให้เห็นครับ แต่จะไม่ได้บู๊เหมือนพี่ธันน์ คืออันนั้นเขาเก่งไง ผมก็จะเป็นแบบพาลูกน้องไปจับ ส่วนมากจะใช้ปืนยิงอย่างเดียวไม่ได้เตะต่อยมากเท่าไหร่
@จากอดีตนักกีฬาเปลี่ยนบทบาทมาเป็นนักแสดง?
ถือว่าต้องปรับตัวมากพอสมควรครับ คือเปลี่ยนอาชีพ สำหรับที่ผมคิดตัวผมเริ่มจากศูนย์ ต้องทำความเข้าใจในหลักการทำงานใหม่นี้ครับ การอยู่ในสังคมใหม่ก็ดี การเร่งทำความเข้าใจในหลักการทำงานก็ดีครับ แล้วก็แปลกดี มีอะไรให้ศึกษาอีกเยอะ สนุกดีครับเป็นอะไรที่ไม่ซ้ำดี แต่ก็ต้องมีอะไรพัฒนาไปเรื่อยๆ งานละครก็หนัก งานกีฬาก็หนัก แต่หนักคนละแบบ ย้อนไปตอนที่ผมเล่นกีฬาใหม่ๆ เราก็เริ่มจากการไม่เป็นและพัฒนาตัวเองมาเรื่อยๆ ติดทีมชาติและไปแข็งระดับโลกได้ สำหรับงานแสดงตอนนี้ชอบครับ (หัวเราะ)
@ตอนนี้มาเป็นนักแสดงแล้ว มีหลักในการวางตัวอย่างไรบ้าง
ผมค่อนข้างเป็นตัวของตัวเองนะครับ คือถ้าเป็นเรื่องสัมมาคาราวะ เรื่อง เวลา เรื่องอ่อนน้อมถ่อมตน ผมว่าคนเราควรมีอยู่ในตัวของตัวเองอยู่แล้วครับ วางตัวให้เหมาะสมกับช่วงหรือสถานการณ์ หรือรู้กาลเทศะมากกว่า ตอนนี้ผมก็ยังไม่รู้นะครับว่าผมวางตัวถูกหรือมากน้อยแค่ไหน ยังไงก็ช่วยแนะนำผมด้วยนะครับ
@ร่วมงานกับผู้จัดฯ หน้าใหม่ไฟแรง
พี่ธันน์ กับ พี่ยุ้ย จีรนันท์ น่ารักมาก เขาแนะนำผมทุกอย่าง ผมต้องพัฒนาอีกเยอะต้องเข้าใจในบท น้ำเสียงการแสดง การแบ่งวรรคพูด ครูมิ้งค์ (เพ็ญจันทร์ วงศ์สมเพ็ชร) แอ็คติ้งโค้ช ก็แนะนำดี ให้ผมรู้จุดที่จะแก้ไขในส่วนพกพร่อง ยังไงผมก็ขอฝากละครเรื่อง เชิงชายชาญ ด้วยนะครับ ทุ่มเทตั้งแต่ผู้จัดฯ คนอื่นไม่ต้องถามถึงช่วยกันทำงานเป็นอย่างดีครับ
ตามไปให้กำลังใจนักแสดงหนุ่มหน้าใหม่ฝีมือไม่ธรรมดาคนนี้ได้ในละคร "เชิงชายชาญ" ทุกเย็นวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 18.50 น และวันศุกร์เวลา 18.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และ Facebook Live Fanpage: Ch7HD หรือรับชมย้อนหลังได้ทาง BUGABOO.TV
Profile
ชื่อสกุล : คมกฤษณ์ ดวงสุวรรณ์ ชื่อเล่น : ป่าน
วันเดือนปีเกิด : เกิด 9 ธันวาคม 2534
ภูมิลำเนา : จังหวัดลำปาง
การศึกษา : ปริญญาตรี สถาบันการพลศึกษาวิทยาเขตสุโขทัย
งานอดิเรก : เล่นกีตาร์ ร้องเพลง ยิงธนู
นักแสดงในดวงใจ : พี่เวียร์-ศุกลวัฒน์ และ พี่มิน-พีชญา
คติประจำใจ : ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้ ถ้าเรามีความเข้าใจ มีความตั้งใจ และกล้าที่จะทำมัน