CRDเซ็นสัญญา2งานก่อสร้างใหม่มูลค่ากว่า454ล้านบาท งานราชการวิ่งเข้าครึ่งปีหลัง คาดผลงานปีนี้ได้ตามเป้า

ศุกร์ ๑๓ กรกฎาคม ๒๐๑๘ ๑๑:๐๖
บมจ.เชียงใหม่ริมดอย จรดปากกาเซ็นสัญญา 2 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 454.4 ล้านบาท พร้อมตุนงานอื่นๆ หนุนงานในมือรอรับรู้รายได้อยู่ที่ 1,000ล้านบาท สัดส่วนการรับงานภาคเอกชนต่องานราชการใกล้เคียงแผนที่คาดการณ์ไว้ผู้บริหารชี้ครึ่งปีหลังสัดส่วนงานราชการจะเพิ่มขึ้นจากการประมูลโครงการ และงบประมาณใหม่ของภาครัฐ พร้อมมองโอกาสในประเทศเพื่อนบ้านต่อเนื่อง เชื่อสิ้นปีผลการดำเนินงานได้ตามเป้าหมาย

นายธีรพัฒน์ จิรพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เชียงใหม่ริมดอย จำกัด (มหาชน) หรือ CRD ผู้ประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้างอาคารสิ่งปลูกสร้างทั่วไปประเภทต่างๆ และการรับเหมาก่อสร้างงานระบบสาธารณูปโภค เปิดเผยว่า บริษัทได้ทำการเซ็นสัญญาโครงการก่อสร้าง 2 โครงการใหม่มูลค่ารวม 454.4 ล้านบาทเรียบร้อยแล้ว ได้แก่ โครงการก่อสร้างโรงแรมHYATT REGENCY เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี มูลค่าโครงการ 342,400,000 ล้านบาท ระยะเวลาการก่อสร้างตั้งแต่ปีนี้ถึงเดือนกันยายนปี 2562 และงานก่อสร้างโครงสร้างและงานสถาปัตยกรรม โครงการโรงเรียนนานาชาติเกรซ (วิทยาเขตใหม่) จังหวัดเชียงใหม่ มูลค่าโครงการ 112,000,000 ล้านบาท โดยมีระยะเวลาการก่อสร้างตั้งแต่ปีนี้ถึงเดือนมีนาคมปี 2562

ขณะเดียวกัน บริษัทยังมีงานจากโครงการอื่นๆที่มีการเซ็นสัญญาไปก่อนหน้า ไม่ว่าจะเป็นงานสะพานเชื่อมครัวบางกอกแอร์เวย์, งานอาคารควบคุมระบบปรับอากาศของมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช และการก่อสร้างระบบผลิตก๊าซไบโอมีเทน โดยทั้งหมดจะส่งผล บริษัทมีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) เพิ่มขึ้นอยู่ที่ประมาณ 1,000 ล้านบาท จากไตรมาส 1( ณ วันที่ 31 มีนาคม 2561) มีมูลค่างานอยู่ที่ 848.18 ล้านบาท โดยปัจจุบันสัดส่วนการรับงานเอกชนของบริษัทต่องานราชการใกล้เคียงกับไตรมาสที่ผ่านมา แต่เชื่อว่าในสิ้นปีนี้สัดส่วนงานเอกชนจะอยู่ที่ 85% งานภาครัฐ 15% ตามแผนของบริษัทที่วางไว้ โดยงานในส่วนราชการยังคงเป็นไปตามขั้นตอนของแต่ละหน่วยงาน

"งานที่ได้รับเข้ามาใหม่ค่อนข้างมีความหลากหลายทั้งในเรื่องของมูลค่างาน และรูปแบบงาน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการปรับตัวเพื่อแสวงหาโอกาสให้มีงานเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และส่งผลให้บริษัทสามารถรักษาระดับงานในมือให้มีอัตราไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาทตามแนวทางที่บริษัทมีการดำเนินงานมาโดยตลอด ขณะเดียวกัน บริษัทยังคงศึกษาดูงานในต่างประเทศอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มโอกาสและช่องทางการหารายได้ให้มากขึ้น"นายธีรพัฒน์ กล่าว

สำหรับการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทมีงานภาคเอกชนที่อยู่ระหว่างการเจรจา และเสนอราคาก่อสร้างอีกหลายโครงการ เช่นเดียวกับงานราชการที่อาจจะล่าช้ามาจากช่วงครึ่งปีแรก รวมถึงงานจากงบประมาณใหม่ๆที่น่าจะทยอยออกมาประมาณปลายปี ซึ่งเชื่อว่าด้วยประสบการณ์และศักยภาพของบริษัทจะทำให้ได้รับงานเพิ่มเข้ามา รวมถึงงานในส่วนของต่างประเทศที่ประเมินแล้วว่าบริษัทสามารถดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพและช่วยเพิ่มช่องทางในการสร้างรายได้ให้กับบริษัท โดยทั้งหมดนี้คาดว่าจะทำให้ในปีนี้สามารถสร้างผลประกอบการได้ตามเป้าหมายที่จะเติบโตมากกว่าปีที่ผ่านมา

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ