"กรมสุขภาพจิตจับมือเอไอเอส สร้าง“สตาร์ทอัพ”ผู้บกพร่องทางสติปัญญายุค 4.0 ปลูกผักอินทรีย์ขายทางแอพฯ"

จันทร์ ๑๖ กรกฎาคม ๒๐๑๘ ๐๘:๔๙
สถาบันราชานุกูล กรมสุขภาพจิต จับมือเอไอเอส จัดโครงการฟื้นฟูสมรรถภาพและสร้างอาชีพรายได้ให้ผู้บกพร่องทางสติปัญญาวัย 18-25 ปี ที่ว่างงานคาดทั่วประเทศมีเกือบ 30,000 คน โดยเปิดศูนย์การเรียนรู้สอนการปลูกผักอินทรีย์ ปลอดสารพิษ ด้วยเทคโนโลยีทันสมัย ที่ศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพราชานุกูล(บางพูน) จ.ปทุมธานี และจำหน่ายผ่านแอพพลิเคชั่นชื่อ "ร้านฟาร์มสุข" พร้อมก้าวเป็นผู้ประกอบการกลุ่มใหม่หรือสตาร์ทอัพยุค 4.0 มีรายได้มั่นคงอยู่ในชุมชนอย่างยั่งยืน

นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต เป็นประธานเปิดโครงการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้บกพร่องทางพัฒนาการและสติปัญญากลับสู่ชุมชนอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างสถาบันราชานุกูล กรมสุขภาพจิต กับบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส ในการดูแลสุขภาพผู้ที่มีความบกพร่องทางพัฒนาการและสติปัญญาอายุ 18-25 ปี ควบคู่ไปกับการพัฒนาศักยภาพ เพื่อเตรียมความพร้อมด้านทักษะ และความรู้ ให้สามารถประกอบอาชีพที่เหมาะสม อยู่ในชุมชนได้ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ที่มีความบกพร่องฯให้เป็นประชากรที่มีคุณค่า และมีศักยภาพในการดูแลตนเอง และไม่เป็นภาระของครอบครัว

อธิบดีกรมสุขภาพจิตกล่าวว่า ได้ให้สถาบันราชานุกูลพัฒนาพื้นที่ภายในศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพราชานุกูล (บางพูน) จังหวัดปทุมธานี ขนาด 14ไร่ เพื่อใช้เป็นศูนย์การเรียนรู้ด้านการทำเกษตรปลอดสารพิษหรือเกษตรอินทรีย์สำหรับผู้บกพร่องทางพัฒนาการและสติปัญญาและครอบครัว ซึ่งจะพัฒนาเป็นโมเดลการฟื้นฟูสมรรถภาพฯแบบครบวงจรด้านการเกษตรของประเทศ โดยเอไอเอส เป็นฝ่ายสนับสนุนด้านความรู้ฝึกสอนทักษะการปลูกผักอินทรีย์ การติดตั้งเทคโนโลยีทางการเกษตรที่ใช้งานง่าย และการตลาด ความร่วมมือครั้งนี้จะมีผลดีต่อสุขภาพจิตของครอบครัวและผู้บกพร่องฯ ได้ภาคภูมิใจในการผลิตผักหรือพืชผลทางการเกษตรที่ปลอดสารพิษ สร้างสุขภาพดีแก่คนไทยและต่างประเทศ สามารถปลูกได้ทั้งทำบนที่ดินหรือแบบคอนโดก็ได้ พร้อมต่อยอดเป็นผู้ประกอบการกลุ่มใหม่หรือกลุ่มสตาร์ทอัพของประเทศในอนาคต

ทางด้านแพทย์หญิง มธุรดา สุวรรณโพธิ์ ผู้อำนวยการสถาบันราชานุกูล กล่าวว่า จากรายงานของกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ล่าสุดในปี 2561 มีผู้พิการทุกประเภทที่จดทะเบียนเกือบ 2 ล้านคน ในจำนวนนี้เป็น

ผู้บกพร่องทางสติปัญญาและกลุ่มออทิสติก 142,085 คน โดยอยู่ในวัยทำงานคืออายุ 15- 60 ปี ประมาณ 50,000 คน แต่มีงานทำประมาณ22,000 คน ส่วนใหญ่รับจ้างทั่วไปและทำงานในภาคเกษตรกร มีรายได้น้อยและไม่มั่นคง ที่เหลืออีก 28,000 คน ไม่มีงานทำหรือทำงานไม่ได้ ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่บ้าน ทำให้ขาดการฟื้นฟูสมรรถภาพในระยะยาว ขาดโอกาสทางสังคม มีความเสี่ยงเกิดปัญหาอารมณ์และปัญหาพฤติกรรมต่างๆตามมาได้

สำหรับโครงการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้บกพร่องทางพัฒนาการและสติปัญญากลับสู่ชุมชนอย่างยั่งยืนนี้ จะให้บริการผู้บกพร่องฯและครอบครัว ได้เรียนรู้การทำการเกษตรปลอดสารพิษทุกขั้นตอนอย่างละเอียดและเหมาะสมกับบริบทของแต่ ละครอบครัว เพื่อสร้างรายได้ให้ครอบครัว ซึ่งขณะนี้ผักปลอดสารพิษเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งไทยและต่างประเทศ

โดยผู้บกพร่องจะได้รับการฟื้นฟูสมรรถภาพที่จำเป็นในการใช้ชีวิตในชุมชนเช่นการดูแลสุขภาพตนเอง การสื่อสารกับคนอื่น การจัดการอารมณ์ ฯลฯ ใช้เวลาทั้งหมด 12 สัปดาห์ จัดได้ครั้งละ 5 ครอบครัว ทั้งนี้ครอบครัวหรือชมรมผู้พิการอื่นๆที่เกี่ยวข้อง สามารถเข้ามาเรียนรู้และจำหน่ายสินค้าเกษตรผ่านในระบบนี้ได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

ทางด้านนายพงษ์ศักดิ์ ตันวิสุทธิ์ หัวหน้าส่วนงานดิจิทัล ฟอร์ไทย บมจ. แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือเอไอเอส กล่าวว่าความร่วมมือกับสถาบันราชานุกูลในครั้งนี้ เอไอเอสจะสอนการปลูกผักอินทรีย์ ให้บุคลากรและกลุ่มผู้บกพร่องฯ ตั้งแต่กระบวนการคัดสรรเมล็ดพันธุ์ให้เหมาะสม การเตรียมดิน การเพาะปลูก การฉีดพ่นปุ๋ยชีวภาพการป้องกันแมลง รวมทั้งช่วยติดตั้งเทคโนโลยีทางการเกษตร อาทิ ระบบสมองกลสำหรับควบคุมการจ่ายน้ำ การรดน้ำอัตโนมัติ การแจ้งเตือนเมื่อสภาพแวดล้อมในพื้นที่แปลงเกษตรมีความผิดปกติ ซึ่งทำให้ง่ายต่อการดูแลยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังสนับสนุนช่องทางด้านการตลาด ให้กลุ่มผู้บกพร่อง โดยกลุ่มผู้บกพร่องสามารถจำหน่ายผลิตภัณฑ์ รวมถึงผักอินทรีย์ ภายใต้โครงการ ปลูกผัก ปลูกรัก ปลูกใจ ซึ่งเอไอเอสได้แนะนำการออกแบบบรรจุภัณฑ์ เพื่อให้มีความน่าสนใจ เพื่อจัดจำหน่ายผ่าน "ร้านฟาร์มสุข"ซึ่งเป็นร้านค้าต้นแบบในการส่งเสริมการจำหน่ายผักอินทรีย์ รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่สร้างสรรค์โดยกลุ่มผู้บกพร่องฯ และจำหน่ายทางระบบออนไลน์ผ่านทางแอปพลิเคชันที่มีชื่อว่า "ร้านฟาร์มสุข" เพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ และให้กลุ่มผู้บกพร่องสามารถดูแลตนเอง ยืนหยัด และเติบโตในสังคมได้

นอกจากนี้ยังจัดตั้ง "ศูนย์การเรียนรู้ฟาร์มสุข" แหล่งเรียนรู้เทคโนโลยีทางการเกษตรอัจฉริยะ ประกอบไปด้วย เทคโนโลยีไอโอที (IOT)สำหรับวัดผลสภาพแวดล้อมแปลงเกษตร , เทคโนโลยีควบคุมทางไกลอัตโนมัติ รวมถึงการบันทึก วิเคราะห์ข้อมูล และเฝ้าระวังติดตามสภาพแวดล้อมทางการเกษตร โดยให้ผู้ที่สนใจได้ใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ ทดลอง และค้นคว้านวัตกรรมดิจิทัล

ทั้งนี้การนำเทคโนโลยีเข้ามาส่งเสริมด้านการเกษตร เป็นแนวคิดภายใต้ "ดิจิทัล ฟอร์ไทย" ที่มุ่งสนับสนุนการทำงานของภาครัฐ ในการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยทั่วประเทศให้ดีขึ้น เพื่อก้าวไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 ได้อย่างยั่งยืน

www.rajanukul.go.th

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO