กลุ่ม ปตท.’ ร่วมกับ 'ไรส์’ จัด D-Next: Demo Day 2018 แสดงผลงาน 15 สตาร์ทอัพระดับโลก ตอบโจทย์ New S-Curve

จันทร์ ๑๖ กรกฎาคม ๒๐๑๘ ๑๓:๕๐
นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยีและวิศวกรรม บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และประธานกรรมการ บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัดเป็นประธานในพิธีเปิดงาน "D-NEXT: Demo Day 2018" ภายใต้โครงการ "D-NEXT by PTT Digital x RISE" ดำเนินการโดย บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด (PTT Digital) ร่วมกับ RISE สถาบันเร่งสปีด นวัตกรรมองค์กร และสตาร์ทอัพระดับภูมิภาค โชว์ผลงาน Prototype ของ 15 ทีม สตาร์ทอัพระดับโลก ที่ได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วม Bootcamp พัฒนาศักยภาพ ขยายการเติบโตธุรกิจตลอดระยะเวลา 3 เดือน ต่อผู้บริหารกลุ่ม ปตท. นักลงทุนและนักธุรกิจชั้นนำในวงการสตาร์ทอัพกว่า 300 ท่าน พร้อมเปิดโอกาสให้สตาร์ทอัพที่มีศักยภาพ ร่วมงานกับกลุ่ม ปตท. เพื่อนำเทคโนโลยีมาต่อยอด ให้ตอบโจทย์การพัฒนาธุรกิจ New-S Curve พร้อมเติบโตแบบก้าวกระโดด ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิตอลของประเทศและภูมิภาคอาเซียน โดยผู้ชนะได้แก่ ทีม BBP สตาร์ทอัพด้าน Energy Tech จากประเทศสิงคโปร์

นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยีและวิศวกรรม บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และประธานกรรมการ บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด กล่าวว่า "กลุ่ม ปตท. มุ่งที่จะนำเทคโนโลยีดิจิตอลมาดำเนินธุรกิจให้เติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพและทันต่อการเปลี่ยนแปลงขององค์กรขนาดใหญ่ในยุคดิจิตอลที่แข่งขันกันด้วยความเร็วในการพัฒนางานนวัตกรรมและเทคโนโลยี โดยกลุ่มปตท. ได้เปิดตัวโครงการร่วมกับ RISE ภายใต้ชื่อโครงการ "D-NEXT by PTT Digital x RISE" มาเป็นระยะเวลา 6 เดือน เพื่อเฟ้นหาสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพจากกว่า 300 ทีม จาก 22 ประเทศทั่วโลก มาคัดเลือกให้เหลือ 15 ทีม ที่เหมาะสมกับธุรกิจทั้ง 6 ด้านของกลุ่ม ปตท. ได้แก่ Energy & Utility Management, Operation & Maintenance, Health & Environment, Sales & Marketing, Finance และธุรกิจอื่นๆ เช่น Human Resources เป็นต้น โดยสตาร์ทอัพทั้ง 15 ทีมนี้ จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์ที่นำเทคโนโลยีดิจิตอลมาใช้แก้ปัญหาให้กับธุรกิจในกลุ่ม ปตท. ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีโอกาสขยายธุรกิจร่วมกันกับ PTT Digital ให้เติบโตแข็งแกร่งเทียบเท่าสากล โดยงาน D-NEXT: Demo Day 2018 ในวันนี้ เป็นครั้งแรกของการโชว์ผลงานของสตาร์ทอัพซึ่งได้รับการพัฒนาให้ตอบโจทย์ธุรกิจกลุ่ม ปตท. ในระดับต้นแบบ (Prototype) แสดงถึงศักยภาพและความพร้อมในการพัฒนาไปสู่ธุรกิจร่วมกับกลุ่ม ปตท. ตอบโจทย์การสร้าง New S-Curve"

นางอรวดี โพธิสาโร กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด เปิดเผยว่า "ตลอด 12 สัปดาห์ใน Bootcamp สตาร์ทอัพทั้ง 15 ทีม ได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญทางธุรกิจและเทคโนโลยีของกลุ่ม ปตท.และพันธมิตรจาก RISE รวมทั้งมีการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบสนองความต้องการต่อธุรกิจในกลุ่ม ปตท. ให้หน่วยธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ได้ทดสอบการใช้งานเพื่อพัฒนาต่อยอดเพิ่มเติม โดยสตาร์ทอัพทั้ง 15 ทีม ที่ร่วมโชว์ผลงานในงาน D-Next: Demo Day 2018 จะได้มีโอกาสร่วมเป็นส่วนหนึ่งในโครงการ Digital Transformation ของกลุ่ม ปตท. และมีโอกาสร่วมงาน ตลอดจนขยายการลงทุนในธุรกิจใหม่ของ PTT Digital และกลุ่ม ปตท. ต่อไปในอนาคต ซึ่งนับเป็นอีกก้าวสำคัญของกลุ่ม ปตท. ที่จะได้เรียนรู้วัฒนธรรมและแนวคิดการทำงานแบบสตาร์ทอัพ ผู้ประกอบการที่รอบรู้ กล้าคิด กล้าทำสิ่งใหม่ และพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิตอล ด้านการพัฒนาศักยภาพธุรกิจสตาร์ทอัพไปพร้อมๆกับยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันขององค์กรขนาดใหญ่"

ด้าน คุณหญิง จิตติพัฒนกุลชัย ผู้ร่วมก่อตั้ง RISE สถาบันเร่งสปีดนวัตกรรมองค์กรและสตาร์ทอัพ กล่าวว่า "RISE เล็งเห็นว่า การผลักดันประเทศไทยให้ก้าวสู่ยุคดิจิตอลอย่างผู้ที่ได้เปรียบในระดับสากลนั้น องค์กรขนาดใหญ่ มีส่วนสำคัญต่อการสร้าง New-S Curve ให้กับประเทศเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งสามารถเริ่มต้นได้ด้วยการส่งเสริมและสนับสนุนสตาร์ทอัพที่มีแนวคิดและธุรกิจบริการใหม่ๆ ซึ่งแตกต่างไปจากในองค์กร แต่มีความรวดเร็วในการดำเนินงานและสามารถทำงานในรูปแบบพาร์ทเนอร์ที่เติมเต็มความเชี่ยวชาญทางธุรกิจขององค์กรขนาดใหญ่ ร่วมกันขยายตลาดให้เติบโตอย่างรวดเร็วได้ โดยปัจจุบัน เศรษฐกิจดิจิตอล มีแนวโน้มเติบโตถึง 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งอาเซียนถือว่า เป็นภูมิภาคที่ได้เปรียบตรงที่เป็นตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลก ด้วยจำนวนประชากรรวมกว่า 620 ล้านคน รองจากจีนและอินเดีย โดยงาน D-Next: Demo Day 2018 ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ที่สตาร์ทอัพในภูมิภาคอาเซียนและประเทศอื่นๆทั่วโลก รวมถึงนักลงทุน และผู้บริหารกลุ่ม ปตท. จะได้สร้างเครือข่ายเพื่อร่วมมือกันต่อยอดการดำเนินธุรกิจด้วยเทคโนโลยีดิจิตอล"

สำหรับสตาร์ทอัพที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ (D-NEXT Award) จากผลการตัดสินของคณะกรรมการ ได้แก่ ทีม BBP (Barghest Building Performance) สตาร์ทอัพด้าน Energy Tech จากประเทศสิงคโปร์ นำเสนอระบบควบคุมอุณหภูมิภายในอาคารด้วยอัลกอริทึ่มอัจฉริยะแบบ Real-time ทำให้เพิ่มหรือลดอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศภายในอาคารได้อย่างเหมาะสมด้วยระบบอัตโนมัติลดการใช้พลังงานลงได้สูงสุดถึง 40 %ตลอดจนลดค่าใช้จ่าย และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดย BBP จะคิดค่าบริการตามสัดส่วนพลังงานที่ช่วยให้ธุรกิจประหยัดลงได้ นอกจากนี้ ยังมีสตาร์ทอัพที่ได้รับรางวัล Fan Favorite Award ได้แก่ ทีมUpUp App สตาร์ทอัพด้าน HR Techจากประเทศเวียดนามนำเสนอแอพพลิเคชั่นในรูปแบบเกมที่ช่วยสร้างความผูกพันของพนักงานด้วยการสะสมคะแนนแลกรับของรางวัลตามเป้าหมายและผลลัพธ์ของการดำเนินงานที่ตั้งไว้ช่วยเพิ่มแรงจูงใจในการทำงาน ทำให้วัดผลการดำเนินงานได้เร็วขึ้น และเพิ่มความผูกพันที่พนักงานมีต่อองค์กร

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๒ ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๑๗:๑๖ กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๑๗:๕๕ Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๑๗:๔๗ โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๑๗:๑๒ ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๑๗:๐๐ กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๑๖:๐๐ WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๑๖:๐๔ เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๑๖:๔๗ ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๑๖:๐๒ NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ