ซิตี้" ในยุคไทยแลนด์ 4.0 ทั้งนี้ ปัจจัยหลักที่ทำให้ "อะโคเนติค" ครองตำแหน่ง Local Brand อันดับ 1 และมียอดขายติดอันดับ 1 ใน 4 แบรนด์ที่มียอดขายสูงสุดในประเทศไทย เพราะผู้บริโภคให้ความเชื่อมั่นในคุณภาพและบริการหลังการขาย ภายใต้แนวคิด "สินค้าราคา...คนไทย" จึงมั่นใจว่า "อะโคเนติค" มีศักยภาพที่จะแข่งขันกับแบรนด์ระดับอินเตอร์ได้เป็นอย่างดี โดยปีนี้ ตั้งเป้ายอดขายทีวี จำนวน 2 พันล้านบาท
ในทุกๆปี ช่วงเดือนมิถุนายน จะเป็น "โลซีซั่น" ของตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า แต่ในปีนี้ กระแสการแข่งขันบอล มีส่วนผลักดันให้ อะโคเนติค ทีวี มียอดขายเพิ่มขึ้นสูงกว่า 20% เนื่องจาก ผู้บริโภคมีความต้องการดูการแข่งขันฟุตบอลผ่าน "จอทีวี"ไซด์ใหญ่ เพราะคุณภาพมีความคมชัดมากกว่าและทำให้เชียร์บอลได้สนุกยิ่งขึ้น แสดงให้เห็นว่าทีวีไซด์ใหญ่ยังมีโอกาสเติบโตได้อีก ในช่วงไตรมาสที่ 4 "อะโคเนติค" จึงมีแผนพัฒนาทีวี ขนาดจอ 49 – 65 นิ้ว ให้เป็น สมาร์ททีวี 4k HDR เพื่อป้อนสู่ตลาด ยิ่งไปกว่านั้น ยังตอกย้ำความมั่นใจให้กับผู้บริโภค ด้วยการรับประกันคุณภาพจอ เป็นระยะเวลานาน 3 ปี พร้อมกับให้ความสำคัญต่อการบริการหลังการขาย โดยปัจจุบัน "อะโคเนติค" มีจุดให้บริการหลังการขาย Home Service สามารถให้บริการถึงบ้านลูกค้าในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล และกำลังขยายการบริการให้ครอบคลุมทั่วประเทศ
ภาพรวมตลาดทีวีในประเทศ มีการแข่งขันค่อนข้างสูง โดยผู้บริโภคมีความต้องการซื้อทีวีใหม่ เฉลี่ย 2.3 ล้านเครื่องต่อปี ทำให้มีมูลค่าตลาดรวม ประมาณ 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งยังมีโอกาสเติบโตมากขึ้นไปอีก เพราะผู้บริโภคมีความต้องสมาร์ททีวีเพื่อใช้ในการท่องโลกโซเชี่ยลและดูรายการจากช่อง Youtube อย่างมีคุณภาพ สำหรับ "อะโคเนติค" นับเป็นแบรนด์ไทยที่มียอดขายเป็นอันดับหนึ่ง และอันดับ 4 แบรนด์ที่มียอดขายดีในตลาดรวม ทั้งนี้ มั่นใจว่าจะเป็นกลายแบรนด์ที่มียอดขายสูงสุดในประเทศ เป็นอันดับ 3 ในเร็วๆ นี้ อย่างแน่นอน สำหรับ ช่องทางการจัดจำหน่ายของ "อะโคเนติค" มีตัวแทนจำหน่ายมากกว่า 500 จุดทั่วประเทศ