นายสมศักดิ์ หลิมประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพีที ไดร์ แอนด์ เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPT ผู้ให้บริการระบบไฟฟ้ากำลังสำหรับควบคุมการทำงานของเครื่องจักร เพื่อเพิ่มขีดความสามารถเชิงการแข่งขันแก่ภาคอุตสาหกรรม ครอบคลุมถึงการจำหน่ายอุปกรณ์และระบบควบคุมไฟฟ้าที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม รวมถึงให้บริการติดตั้งและก่อสร้างสถานีไฟฟ้าย่อย เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมพร้อมเข้าไปขยายตลาดในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะประเทศอินโดนีเซีย เวียดนามและฟิลิปปินส์ ซึ่งมีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ดีและมีการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย CPT จะใช้เงินลงทุนประมาณ 70 ล้านบาท เพื่อตั้งสำนักงานขายใน 3 ประเทศดังกล่าว ซึ่งในเบื้องต้นจะมุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าโรงงานน้ำตาลเป็นอันดับแรก ก่อนจะขยายไปสู่อุตสาหกรรมประเภทอื่นๆ เช่น อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ เหล็กและกระดาษ
สำหรับแนวทางการดำเนินงานนั้น CPT จะใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์อันยาวนานกว่า 25 ปี ในการนำเสนอสินค้าและบริการต่างๆ ซึ่งประกอบด้วยงานออกแบบและจัดหาตู้ควบคุมเครื่องจักรสำหรับกระบวนการผลิต การติดตั้งตู้ไฟฟ้ากำลังระดับแรงดันปานกลาง (MV Switchgear Panel) และตู้จ่ายไฟฟ้าระดับแรงดันต่ำ รวมถึงงานติดตั้งเดินสายระบบไฟฟ้าให้แก่ลูกค้า เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันกับคู่แข่งที่เป็นบริษัทจากต่างประเทศ โดยบริษัทฯ เชื่อว่ามั่นว่าจากความสำเร็จของผลงานต่างๆ ที่ผ่านมา จะเป็นเครื่องชี้วัดถึงศักยภาพในการให้บริการ ซึ่งจะสามารถสร้างความเชื่อมั่นและได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าในตลาดต่างประเทศได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ บริษัทฯ มั่นใจว่าหลังจากตั้งสำนักงานขายใน 3 ประเทศดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จะทำให้ CPT สามารถทำการตลาดเจาะเข้าไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อการเติบโตของรายได้จากตลาดต่างประเทศ โดยในปี 2563 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้จากตลาดต่างประเทศไว้ที่ 500 ล้านบาท หรือคิดเป็น 25% ของรายได้รวมทั้งหมด จากในปัจจุบันที่มีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศ 10% หรือประมาณ 100 ล้านบาท
"เรามั่นใจในศักยภาพการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ว่าจะสามารถชิงความได้เปรียบในการแข่งขันกับคู่แข่งในตลาดต่างประเทศได้ เนื่องจาก CPT มีความรู้และความเชี่ยวชาญ พร้อมด้วยประสบการณ์ในการเป็นผู้วางระบบไฟฟ้าสำหรับควบคุมเครื่องจักร ซึ่งได้รับความไว้วางใจและการยอมรับจากลูกค้าเป็นอย่างดีมาโดยตลอด โดยเราประเมินว่ารายได้จากต่างประเทศจะเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ไตรมาส 1/2562 เป็นต้นไป" นายสมศักดิ์ กล่าว