ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดมองทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น การเมืองไทยหนุนโตต่อเนื่อง

ศุกร์ ๒๐ กรกฎาคม ๒๐๑๘ ๑๕:๓๕
ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดคงประมาณการเศรษฐกิจโลกที่คาดว่าจะเติบโตที่ 4.0% ในปีนี้ ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่สูงที่สุดในรอบ 5 ปี ทั้งนี้เป็นเพราะแรงสนับสนุนจากพื้นฐานเศรษฐกิจที่ยังคงแข็งแกร่ง อีกทั้งยังเป็นการเติบโตแบบกระจายตัวและสัมพันธ์กันทั่วทุกภูมิภาคซึ่งแตกต่างจากในปีที่ผ่านๆ มา อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ยังต้องจับตามอง โดยธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดมีมุมมอง "เชิงบวกแบบเฝ้าระวัง" ต่อภาพรวมเศรษฐกิจโลก เนื่องจากปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจหลักๆ ของโลกซึ่งจวบจนขณะนี้ยังคงดีอยู่ท่ามกลางความเสี่ยงทางการเมือง

"ปัจจัยเสี่ยงหลัก 3 ด้านที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกที่เราจะเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด ได้แก่ 1) ผลที่ตามมาจากการยุติการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 2) ผลทั้งทางตรงและทางอ้อมอันเนื่องมาจากโอกาสเกิดสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน และ 3) ความอ่อนไหวของเศรษฐกิจหลักของโลกที่มีต่อความผันผวนของราคาน้ำมัน" ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดระบุในบทวิเคราะห์เศรษฐกิจล่าสุด

ในส่วนของเศรษฐกิจประเทศไทย ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) ยังคงประมาณการการเติบโตในปี 2561 ไว้ที่ 4.3% และยังคงมุมมองดอกเบี้ยนโยบายมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น ทิม ลีฬหะพันธุ์ นักเศรษฐศาสตร์ประจำธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) กล่าว

ประเทศไทยค่อนข้างปลอดภัยจากแรงปะทะทางการค้าโลกและการเมืองระหว่างประเทศ และมีดุลบัญชีเดินสะพัดที่เข้มแข็ง เนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศขับเคลื่อนโดยภาคบริการและการท่องเที่ยวเป็นหลัก มีแนวโน้มการฟื้นตัวในการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยอัตราการเติบโตของประเทศคาดว่าจะเกิน 4% (ซึ่งถือว่าเป็นอัตราการเติบโตตามศักยภาพของประเทศ) หลังจากที่อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจของประเทศลดลงต่ำกว่า 1% จากเหตุการณ์ทางการเมืองภายในประเทศช่วงปี 2558

"ปัจจัยความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจโลกจะส่งผลต่อทั่วโลกในระดับที่ต่างกัน สำหรับประเทศไทย ปัจจัยภายในประเทศขณะนี้มีน้ำหนักต่อการเติบโตของประเทศมากกว่า เรามีโครงการขนาดใหญ่หลายโครงการที่เกี่ยวเนื่องกับโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) เป็นตัวกระตุ้นการเติบโตระยะยาว นอกจากนี้ ความเป็นไปได้ที่จะมีการเลือกตั้งในปีหน้า ทำให้เชื่อว่านักลงทุนมองตลาดไทยในเชิงบวก"

"อย่างไรก็ตาม ตลาดในปัจจุบันได้สะท้อนปัจจัยบวกส่วนใหญ่ไปแล้ว หากไม่มีปัจจัยกระตุ้นใหม่ เศรษฐกิจของไทยน่าจะเติบโตในระดับกลางๆ นี้" ทิมกล่าวเสริม

ดอกเบี้ยนโยบาย – แนวโน้มนโยบายการเงินปรับขึ้นสู่ภาวะปกติ

ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดคงประมาณการเดิมที่คาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะปรับดอกเบี้ยนโยบายขึ้น 0.25% ในเดือนกันยายน และอีก 0.25% ในไตรมาส 4 ของปี 2561 ซึ่งเป็นมุมมองที่แตกต่างจากตลาดที่มองว่าธปท. จะคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ถึงสิ้นปี

"เรามองการปรับขึ้นดอกเบี้ยจากการเติบโตภายในประเทศที่ปรับตัวดีขึ้น การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในประเทศอื่น (ทั้งในภูมิภาคเดียวกันและทั่วโลก) และสัญญาณจากธนาคารแห่งประเทศไทย อย่างไรก็ตาม ตัวเลขเงินเฟ้อและข้อมูลเศรษฐกิจไตรมาส 2 ที่จะมีการเผยแพร่ก่อนการประชุมกนง. (19 กันยายน) จะเป็นข้อมูลสำคัญในการตัดสินใจของกนง." ทิม กล่าว

"เรายังคงตั้งคำถามถึงประโยชน์ของการนำเงินเฟ้อทั่วไปมาเป็นเป้าหมายในการดำเนินนโยบายการเงินของธปท. และที่สำคัญไปกว่านั้นคือ ความสามารถของนโยบายการเงินในการดูแลเงินเฟ้อทั่วไปที่มีราคาสินค้าบริโภคยากต่อการควบคุมและราคาเชื้อเพลิงในสัดส่วนถึง 30% ของตะกร้าการคิดคำนวนเงินเฟ้อรวม เรามองว่าธนาคารแห่งประเทศไทยอาจจะปรับเป้าหมายเงินเฟ้อในต้นปีหน้า ซึ่งจะส่งผลอย่างมีนัยสำคัญต่อการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบายของตลาด"

การเมือง – เดินหน้าสู่การเลือกตั้ง

การเลือกตั้งน่าจะเกิดขึ้นในต้นปีหน้า เนื่องจากมีปัจจัยสนับสนุนหลายประการ เช่นกำหนดระยะเวลาและการบังคับใช้ร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

"จากที่เราได้พูดคุยกับนักลงทุน พวกเขาคาดว่านโยบายทางเศรษฐกิจต่างๆ จะดำเนินไปอย่างต่อเนื่องหลังการเลือกตั้ง อย่างไรก็ตามเรายังคงต้องติดตามดูอย่างใกล้ชิดว่าจะมีปัจจัยกระตุ้นใหม่ใดที่จะมีผลต่อเศรษฐกิจในระยะยาว" ทิมกล่าว

ภาพรวมอัตราแลกเปลี่ยน

"เราคาดว่าดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยยังคงแข็งแกร่งและธนาคารแห่งประเทศไทยมีแนวโน้มปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้น ด้วยเหตุนี้เราคาดว่าในระยะกลาง เงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น" ทิมกล่าว

"โดยสรุป การฟื้นตัวแบบกระจายตัวของเศรษฐกิจไทยในช่วงหลายปีที่ผ่านมากำลังผนวกรวมเป็นแรงส่งที่ส่งผลดีต่อประเทศ มองไปข้างหน้า เรามีมุมมองเชิงบวกต่อศักยภาพในการเติบโตและพื้นฐานที่ยืดหยุ่นของเศรษฐกิจไทย ซึ่งพร้อมจะทะยานขึ้นหากมีปัจจัยเกื้อหนุนใหม่ๆ"

เกี่ยวกับธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด

เราเป็นธนาคารสากลชั้นนำระดับโลกที่ดำเนินธุรกิจมานานกว่า 150 ปีในประเทศที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีเป้าหมายเพื่อขับเคลื่อนการค้า การลงทุนและการสร้างความมั่งคั่ง หลักการที่สืบทอดมาและค่านิยมองค์กรของเราสะท้อนอยู่ในพันธกิจของสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดที่ว่า Here for good

เราดำเนินธุรกิจในกว่า 60 ตลาด ด้วยจำนวนสาขากว่า 1,000 แห่งและตู้เอทีเอ็มประมาณ 3,000 เครื่องบริษัทสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดจำกัด มหาชน ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในลอนดอนและฮ่องกง นอกจากนี้ยังได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์บอมเบย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งชาติในประเทศอินเดียอีกด้วย

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม หรือต้องการอ่านบทความจากทีมนักเศรษฐศาสตร์ โปรดเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.sc.com และติดตามสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดได้ทาง Twitter, LinkedIn และ Facebook

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ