นายชายชาญ เอี่ยมเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า กิจกรรมงานแสดงอาหารและเครื่องดื่มภาคตะวันออก (Eastern food & Hoteliers Expo 2018) ภายใต้โครงการพัฒนาศักยภาพการท่องเที่ยวภาคตะวันออก ภายใต้ตราสัญลักษณ์สีสันตะวันออก จัดโดยสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชลบุรี โดยได้รับความร่วมมือกับกลุ่มภาคตะวันออก 4 จังหวัด คือ จ.ระยอง, จ.ชลบุรี, จ.จันทบุรี และ จ.ตราด ซึ่งคาดว่า จะได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวและประชาชน เพื่อเป็นการสร้างสีสัน และสร้างภาพลักษณ์ที่ดี ยกระดับความน่าเชื่อถือแก่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และกลุ่มจังหวัดชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก
ด้าน นายถาวร วัฒนกุล ตำแหน่ง ท่องเที่ยวกีฬาจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า กิจกรรมงานแสดงอาหารและเครื่องดื่มภาคตะวันออก Eastern food & Hoteliers Expo 2018 จะเกิดขึ้นในวันที่ 7-8 สิงหาคม 2561 นี้ ณ บริเวณลานโปรโมชั่น ชั้น G ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา แจ้งวัฒนะ โดยแนวคิดคือ การนำจุดเด่นหลายด้านทั้งแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม ประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามและวิถีชีวิตชุมชน 4 จังหวัดของภาคตะวันออก ซึ่งเชื่อมโยงสู่วัฒนธรรมเกี่ยวกับอาหารการกิน โดยเฉพาะการมีอาหารพื้นเมืองท้องถิ่นหลายประเภทอันมีเอกลักษณ์เฉพาะหารับประทานยาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันพิธีเปิดงาน วันที่ 7 สิงหาคม 2561 ได้สร้างกิจกรรมการจัดแข่งขันทำอาหารประจำถิ่น เพื่อส่งเสริมให้ชุมชนได้ตระหนักและร่วมกันอนุรักษ์ให้ประชาชนคนไทยและทั่วโลกได้คิดถึงอาหารไทยได้มากยิ่งขึ้น โดยตั้งโจทย์หาแชมป์ประจำจังหวัดใน 4 เมนู คือ 1. แจงลอน จังหวัดชลบุรี, 2. แกงหมูชะมวง จังหวัดระยอง, 3. เส้นจันทร์ผัดปู จังหวัดจันทบุรี และ 4. ข้าวคลุกพริกเกลือซีฟู๊ด จังหวัดตราด โดยมี แม่ช้อยนางรำ-คุณสันติ เศวตวิมล, อาจารย์วลัยพร ใจหนักแน่น ผู้เชี่ยวชาญอาหารท้องถิ่นประจำจังหวัดระยอง, นางณัฐธิดา หอมหวล (แม่เจริญ) ผู้บุกเบิกและพัฒนาข้าวหลามหนองมนและผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารทะเลมากว่า 50 ปี และ นายบุญสมิทธิ์ พุกกะระสุต (เชฟบุค) คอลัมนิสต์อาหาร นิตยสารชั้นนำ
นอกเหนือกิจกรรมการแข่งขันแล้ว ท่านสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม จากชุมชนท้องถิ่น ผู้ประกอบการร้านอาหาร หรือ กลุ่มวิสาหกิจชุมชน และ ผู้ประกอบการ OTOP กว่า 40 ผู้ประกอบการ ร่วมสืบสานอาหารไทยให้คงอยู่อย่างยั่งยืน เพราะ "อาหารไทยประจำถิ่น" เป็นทั้งมรดกวัฒนธรรม เป็นของดีของประเทศ คนไทยทุกคนจึงควรมีส่วนร่วมในการช่วยกันอนุรักษ์อาหารไทยให้คงอยู่ และส่งเสริมให้เป็นเมนูแถวหน้าของคนทั่วโลกสมกับที่ได้รับการกล่าวขานว่าประเทศไทยเป็นครัวของโลก