ดร.สิทธิชัย แดงประเสริฐ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซีดีไอพี (ประเทศไทย) จำกัด หรือCDIPเปิดเผยถึง โครงการ 'กิจกรรมการพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ประกอบการใหม่สาขาอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร และการเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ' โดยได้รับงบประมาณสนับสนุนมาจากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และศูนย์บริการปรึกษาการออกแบบและวิศวกรรม หรือ DECC ซึ่งเป็นหน่วยบริการหนึ่งใน สวทช. โดย CDIP รับไม้ต่อมาเปิดรับสมัครผู้ประกอบการจำนวน 50 กิจการ ผ่านทางออนไลน์ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เกี่ยวกับการเพิ่มมูลค่าสินค้าทางการเกษตรด้วยนวัตกรรมและดีไซน์ การพัฒนาห่วงโซ่อุปทานธุรกิจ ตั้งแต่ต้นน้ำสู่ปลายน้ำ จากแหล่งผลิตสินค้าเกษตรสู่ตลาดรีเทล ก่อนจะคัดเลือกผู้ประกอบการให้เหลือเพียง 20 กิจการ ติวเข้มอีกรอบเพื่อนำเสนอ 20ผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาขึ้นมา และจับคู่ธุรกิจต่อไป หวังเชื่อมโยงทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องให้มาร่วมกันต่อยอดงานวิจัยเพื่อเพิ่มมูลค่าผลผลิตทางการเกษตรของไทย ก่อนจะผลักดันเป็นสินค้า Health Care คุณภาพ จำหน่ายในเชิงพาณิชย์
สำหรับโครงการดังกล่าว มี 4 เป้าหมายหลัก ได้แก่ 1.Pilot plantเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ต้นแบบ 2. การขึ้นทะเบียน อย. 3.โรงงานผลิต นอกจาก JSP เรายังมีโรงงานที่เป็นพาร์ทเนอร์อีกด้วย 4.Matchingโดยพาเอสเอ็มอีไปพบผู้ประกอบการรายใหญ่ที่ต้องการสินค้าใหม่ เพื่อตอบโจทย์นโยบายภาครัฐ ที่ต้องการให้ช่วยกันพัฒนาสินค้าเกษตรด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาสามารถขายได้จริง เป็นสินค้าใหม่ ไร้คู่แข่ง ไม่ใช่ทำของเลียนแบบ ขายตัดราคากันเอง
อย่างไรก็ตามการจับมือกับทุกภาคส่วนในการช่วยเหลือเอสเอ็มอีพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ไม่ใช่โครงการแรกของ CDIPเพราะก่อนหน้านี้บริษัทเคยร่วมมือกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) รวมทั้ง สวทช.ในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับข้าวมาแล้ว โดยเปิดรับผู้ประกอบการจำนวน 200 ราย มาเข้ารับการอบรมให้ความรู้ ก่อนจะคัดเลือกให้เหลือเพียง 10 ราย เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และจับคู่ธุรกิจกับผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มีนโยบายสนับสนุนสินค้าทางการเกษตร อาทิ บางจาก โครงการหลวง เป็นต้น และต่อไปทาง ดร.สิทธิชัย จะนำงานวิจัยของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กว่า 100 งาน ที่ยังไม่เคยนำไปต่อยอดเชิงพาณิชย์มาก่อน โดย CDIP รับหน้าที่จับมาจับคู่กับผู้ประกอบการที่คัดเลือกมาแล้วจำนวน 7 ราย โดยผู้ประกอบการเหล่านี้ถือเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพ และขายสินค้าอยู่ในห้างอยู่แล้ว เพียงยกโมเดลTraining, PitchingและMatchingไปวางก็สามารถกรุยทางนำองค์ความรู้ออกมาสู่ตลาด ผลักดันงานวิจัยบน'หิ้ง' ไปขาย บน 'ห้าง' ได้เป็นผลสำเร็จ