สผ. ร่วมกับ GIZ ขับเคลื่อนนโยบายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไปสู่การดำเนินการในพื้นที่เพิ่มอีก 60 จังหวัด

พฤหัส ๒๖ กรกฎาคม ๒๐๑๘ ๑๘:๓๙
ภาพ (จากซ้าย) นายสมชัย มาเสถียร รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดร. รวีวรรณ ภูริเดช เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) นายทิม มาเลอร์ ผู้อำนวยการองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) ประจำประเทศไทยและมาเลเซีย และ ดร. อเล็กซานเดอร์ โรลโบลด์ สถานทูตเยอรมนี ประจำประเทศไทย

วันนี้ (26 กรกฏาคม พ.ศ. 2561) สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ร่วมกับองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) เปิดตัวโครงการการดำเนินงานด้านนโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนนโยบายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไปสู่การดำเนินการในพื้นที่ครอบคลุม 60 จังหวัดทั่วประเทศ

นายสมชัย มาเสถียร รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวขอบคุณกระทรวงสิ่งแวดล้อม คุ้มครองธรรมชาติและความปลอดภัยทางปรมาณู สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (BMU) และ GIZ ที่ให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่องในประเด็นเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยเฉพาะความสำเร็จในการถ่ายทอดนโยบายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในพื้นที่นำร่องจำนวน 17 จังหวัด 32 เทศบาลในระยะที่ผ่านมา (พ.ศ.2557 –2560) ส่งผลให้เกิดการบูรณาการแนวคิดด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเข้าสู่กระบวนการจัดทำแผนระดับจังหวัดและท้องถิ่น และในปี พ.ศ. 2561 นี้จะได้ขยายพื้นที่การดำเนินงานใน 60 จังหวัดที่เหลือ เพื่อให้ครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศไทย นอกจากนี้ ยังได้สนับสนุนการดำเนินงานในเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น การจัดทำร่างแผนการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติ (NAP) ปีพ.ศ. 2558-2562

กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในฐานะหน่วยงานหลักด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศ มีภารกิจสำคัญ คือ การถ่ายทอดนโยบาย ยุทธศาสตร์และแผนด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเข้าสู่นโยบาย การประชุมในวันนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่ทุกหน่วยงานจะประสานความร่วมมือในการบูรณาการการขับเคลื่อนนโยบายในพื้นที่ให้เป็นรูปธรรม โดยมีสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคทำหน้าที่เชื่อมโยงนโยบายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเข้าสู่การดำเนินงานในระดับภูมิภาค ขณะที่สำนักงานจังหวัดและสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด ทำหน้าที่สนับสนุนการดำเนินงานจัดทำแผนและนโยบายในพื้นที่ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนที่จะร่วมเป็นเครือข่ายในการดำเนินงานต่อไป

ดร. รวีวรรณ ภูริเดช เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ได้กล่าวถึงวัตถุประสงค์และที่มาของโครงการนี้ว่า สผ.ทำหน้าที่เป็นหน่วยประสานงานกลางภายใต้กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและเป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินงานทั้งในด้านการลดก๊าซเรือนกระจก การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการสร้างขีดความสามารถด้านการบริหารจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อให้ประเทศไทยมีการเติบโตที่ปล่อยคาร์บอนต่ำตามแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนและตามวิสัยทัศน์ของแผนแม่บทรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พ.ศ. 2558 - 2593 ดังนั้น สผ. และ GIZ จึงได้ต่อยอดการดำเนินโครงการเพื่อขับเคลื่อนนโยบายในระดับประเทศสู่การปฏิบัติในพื้นที่ครอบคลุมเพิ่มอีก 60 จังหวัด ตลอดจนมุ่งหวังให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถพัฒนาศักยภาพในการบูรณาการนโยบายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเข้าสู่แผนพัฒนาระดับจังหวัด

นายทิม มาเลอร์ ผู้อำนวยการองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) ประจำประเทศไทยและมาเลเซีย กล่าวว่า "โครงการการดำเนินงานด้านนโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นส่วนหนึ่งของแผนงานความร่วมมือด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ไทย-เยอรมัน (Thai – German Climate Programme: TGCP) โดยได้รับงบประมาณสนับสนุนจากแผนงานปกป้องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศระดับสากล (IKI) ของ BMU ในการดำเนินงาน 4 ปี (พ.ศ. 2561 – 2564) ผ่าน 4 แนวทางหลัก คือ การพัฒนาศักยภาพหน่วยงานและบุคลากร การบูรณาการนโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การติดตามและประเมินผล และการพัฒนากลไกการขับเคลื่อนด้านงบประมาณ"

"GIZ และ สผ. มีความมุ่งมั่นที่จะยกระดับการดำเนินงานให้ครอบคลุมทุกภูมิภาคของประเทศ และใช้บทเรียนจากระยะที่ 1 เข้ามาปรับใช้เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น โดยในครั้งนี้ เรามีความมุ่งหวังที่จะพัฒนาศักยภาพหน่วยงานและบุคลากรในการบูรณาการนโยบายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเข้าสู่แผนพัฒนาระดับจังหวัดที่เชื่อมโยงกับบริบทของพื้นที่ ไม่เพียงแต่กับหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่โครงการฯ ยังขยายความร่วมมือไปยังหน่วยงานราชการระดับจังหวัด เช่น สำนักงานจังหวัด สังกัดกระทรวงมหาดไทย" นายทิม มาเลอร์กล่าวเพิ่มเติม

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๘:๒๕ หอการค้าไทย-อิตาเลียน จัดพิธีมอบรางวัลอันทรงเกียรติ Ospitalit? Italiana ครั้งที่ 11 เชิดชูร้านอาหารอิตาเลียนทั่วไทยที่สะท้อนวัฒนธรรมอิตาเลียนอันโดดเด่นและเป็นเลิศ
๐๘:๒๐ เปิดประตูสู่การเรียนรู้ระดับสากล! ม.ศรีปทุม MOU กับ WCC Aeronautical and Technological College ฟิลิปปินส์
๐๘:๔๑ DEXON คว้างานใหญ่ NDT จากกลุ่ม ปตท.สผ. มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท
๐๘:๔๔ ระบบขนส่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแนวทางสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนของมหาวิทยาลัยพะเยาอย่างยั่งยืน
๐๘:๕๓ วัน แบงค็อก จับมือสถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนา จัดเวิร์คช็อปร่วมกับศิลปินระดับโลก คาลัม สกอตต์ และ ลอเรน ออลเรด
๐๘:๑๔ PDPC เตือนบริษัทเอกชน และหน่วยงานภาครัฐ ไม่ให้ละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด พร้อมเปิดช่องทางร้องเรียนเพื่อปกป้องสิทธิของประชาชน
๐๘:๑๐ สถาบันปิดทองหลังพระฯ บูรณาการร่วมจังหวัดศรีสะเกษผลักดันซ่อมแซมและเสริมศักยภาพแหล่งน้ำในชุมชน เพิ่มประสิทธิภาพผลิตสินค้าเกษตรและสร้างรายได้ให้กับประชาชนอย่างยั่งยืน
๐๘:๑๗ โรงพยาบาลพระรามเก้า คว้ารางวัลเกียรติยศ SET AWARDS 2024 ประเภท Highly Commended Sustainability Awards
๐๘:๑๕ Bangkok Art Auction จัดงานประมูลศิลปะส่งท้ายปี The Iconic Treasure 2024 ผลงานกว่า 100 ชิ้น พร้อมชวนชมนิทรรศการก่อนการประมูล ตั้งแต่วันนี้ ถึง 10 พ.ย. 67 ณ
๐๘:๕๐ บินตรงจากแดนปลาดิบเสิร์ฟความอร่อยติดดาวกับเชฟมิชลินสตาร์ 1 ดาว ณ ห้องอาหารอูโนมาส ชั้น 54 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ