นายสุวิทย์ วรรณะศิริสุข ผู้อำนวยการสายบัญชีและการเงิน บริษัท ไทยลักซ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TLUXE ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์น้ำ สัตว์เลี้ยง ทั้งภายในประเทศ และต่างประเทศ ตลอดจนดำเนินธุรกิจด้านผลิตไฟฟ้า Geothermal Energy และ พลังงานลม (Wind Energy) ในประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจในครึ่งปีหลัง 2561 มีทิศทางการเติบโตที่ชัดเจนมากขึ้น ในกลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์น้ำ โดยเฉพาะอาหารกุ้ง ที่มียอดขาย Turnaround ชัดเจน จากกลยุทธ์เน้นการขายอาหารเกรดพรีเมี่ยม ที่มีคุณสมบัติเร่งการเจริญเติบโต และต้านทานโรคสูง ส่งผลให้เกษตรกรสามารถลดต้นทุนในการเพาะเลี้ยงได้มากขึ้น พร้อมทั้งปรับกลยุทธ์ด้านการตลาดแบบเชิงรุก ประกอบกับสภาวะอากาศเริ่มนิ่ง โรคระบาดลดลง เกษตรกรมีการลงกุ้งอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นปัจจัยให้ยอดขายจะเพิ่มสูงขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังอย่างแน่นอน
"ธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์น้ำ ที่ผ่านมามีการเพิ่มไลน์การผลิตที่โรงงานจ.สงขลา เพื่อกระจายสินค้าเพิ่มขึ้น ให้ทันต่อความต้องการของลูกค้า ทำให้กำลังการผลิตแตะที่ระดับ 80% ของกำลังผลิตรวม" นายสุวิทย์กล่าว
ส่วนด้านธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงมียอดผลิตปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน สำหรับการรับจ้างผลิต ทั้งที่โรงงาน จ.เพชรบุรี และโรงงาน จ. สงขลา มีปริมาณการสั่งผลิตที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้รายได้จากการรับจ้างผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้น ทั้งนี้เป็นผลพวงมาจากพฤติกรรมของสังคมในปัจจุบัน ที่ครองชีวิตโสด แต่งงานช้ามีบุตรน้อยหรือไม่มีบุตร จึงทำให้มีการเลี้ยงสัตว์ไว้แก้เหงาเพิ่มขึ้น จากปัจจัยดังกล่าวทำให้อาหารสัตว์เลี้ยงมีการเติบโตเพิ่มขึ้นไปด้วย
ผู้อำนวยการสายบัญชีและการเงิน บมจ. ไทยลักซ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (TLUXE) กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากมีการลงนามขายโรงไฟฟ้าที่ญี่ปุ่น ที่เปิดขายไฟฟ้าให้Kyushu Electric ให้กองทุนญี่ปุ่นเรียบร้อย และได้รับอนุมัติ การสนับสนุนวงเงินเพิ่มเติม อีกประมาณ 600 ล้านบาท จาก Exim bank บริษัทฯ กำลังเตรียมการปรับโครงสร้าง เพื่อเร่งระดมทุนจากกลุ่มทุนญี่ปุ่น ในบริษัทลูกในประเทศญี่ปุ่น ที่บริษัทฯ ถือหุ้น 100% โดยดำเนินการลงทุน Renewable Energy เพื่อขายไฟฟ้าให้หน่วยงานการไฟฟ้าตามพื้นที่ต่างๆ เช่น Kyushu Electric, Aomori Electric, Hakodate Electric เป็นต้น เพื่อเป็นการเตรียมแหล่งเงินทุนในการขยายการลงทุนในโครงการไฟฟ้า พลังงานลมและ Geothermal ของบริษัทฯ
นายสุวิทย์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่เมืองดานัง ประเทศเวียดนาม โดยเป็นการเข้าไปร่วมลงทุนกับพันธมิตรชาวญี่ปุ่น ในโครงการอาคารที่พักอาศัย ริมแม่น้ำใจกลางเมืองดานัง ซึ่งเป็นเมืองที่คนเวียดนามต้องการอยู่มากที่สุดเมืองหนึ่งในประเทศเวียดนาม โดยผู้พัฒนาโครงการเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ รายใหญ่ในประเทศญี่ปุ่น ได้รับกระแสการตอบรับความต้องการที่ดีเป็นอย่างมาก จากทั้งกลุ่มทุนที่ต้องการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในเวียดนาม และกลุ่มบุคคลที่ต้องการที่พักอาศัยทำเลทอง รอการเปิดการขายห้องชุดในโครงการ โดยบริษัทฯ คาดว่าจะเปิดขายได้ภายในเดือนตุลาคม 2561 นี้ และมั่นใจว่าจะสามารถปิดการขายห้องชุดทั้งหมดได้ในเวลาที่รวดเร็วมาก เนื่องจากเมืองดานังมีการควบคุมใบอนุญาตก่อสร้างอาคารที่พักอาศัยทำให้ความต้องการสูงกว่า Supply มาก โดยเฉพาะที่ตั้งโครงการเป็นตำแหน่งทำเลทองที่ดีที่สุดแห่งหนึ่ง ในเมืองดานัง และ Developer สัญชาติญี่ปุ่นได้ใช้มาตรฐานการก่อสร้าง วัสดุอุปกรณ์จากประเทศญี่ปุ่นทั้งสิ้น ทำให้โครงการมีจุดยืนที่โดดเด่น แตกต่างจากโครงการอื่นๆ อย่างชัดเจน
ล่าสุดการชำระคืนหุ้นกู้ จำนวน 200 ล้านบาท บริษัทฯ ได้ดำเนินการชำระคืนตามวาระครบกำหนดเป็นที่เรียบร้อย