เล่าให้ฟังหน่อยว่าเข้ามาเป็นนักแสดงได้อย่างไร
ซานาย่า อิราณี : ตอนนั้นกำลังเรียนMBA อยู่ แล้วแม่ก็ชวนให้ลองเข้ามาในวงการบันเทิง แม่บอกว่าลองพักเรียนสักปีนึงมั้ย แล้วมาหาประสบการณ์ในวงการ จากนั้นก็ได้เริ่มเดินแบบ และได้มาเป็นนักแสดง
อาร์ชิส ชาร์มา : ก่อนที่จะเข้ามาเป็นนักแสดง ได้เรียนเกี่ยวกับแฟชั่นดีไซน์ เรียนละครเวที จากละครเวทีก็ได้เริ่มมารับงานนักแสดง จนทำให้รู้ว่าตัวเองชอบการแสดง เลยตัดสินใจย้ายมาอยู่ที่มุมไบ แล้วมาเอาดีทางด้านนี้เลย
ทั้งคู่โด่งดังมากในอินเดีย มีผลงานมาแล้วมากน้อยแค่ไหน
ซานาย่า อิราณี : ที่ผ่านมาอยู่ในวงการบันเทิงมา 11 ปี มีผลงานมาประมาณ 4-5 เรื่อง ตอนนี้ก็ยังได้เดินทางไปโปรโมตอยู่หลายๆประเทศ รู้สึกดีใจมากที่ทุกคนให้การตอบรับแม้ว่าเรื่องนั้นจะถ่ายทำเสร็จไปแล้ว โดยส่วนตัวคิดว่าตัวเองไม่ได้เป็นซุปเปอร์สตาร์อย่างศาห์รุข ข่าน
อาร์ชิส ชาร์มา : เข้าวงการบันเทิงมาแล้ว 8 ปี มีทั้งภาพยนตร์ ละคร ในแต่ละเรื่องที่ได้เล่น ก็ได้รับอะไรจากการแสดงมากขึ้นเรื่อยๆ
ทราบหรือไม่ว่าซีรีส์ที่ทั้งคู่ได้แสดงโด่งดังมากๆในเมืองไทย
อาร์ชิส ชาร์มา : รู้ว่ากระแสการตอบรับในเมืองไทยดีมากๆตั้งแต่ที่ก้าวมาถึงสนามบิน
ซานาย่า อิราณี : รู้สึกได้ถึงการต้อนรับที่อบอุ่น เซอร์ไพร์ส และตื่นเต้นมาก ๆ ซึ่งได้รับความรู้สึกแบบนี้เช่นเดียวกับที่ลอนดอนอินโดนีเซีย รวมถึงประเทศไทยแต่ละประเทศที่ฉายซีรีส์ "สีดารามศึกรักมหาลงกา" ได้รับการตอบรับดีเหมือนเมืองไทยหรือไม่
อาร์ชิส ชาร์มา : สีดารามประสบความสำเร็จในทุกๆประเทศที่มีชาวอินเดียอาศัยอยู่ อย่างเช่น อินโดนีเซียซึ่งมีวัฒนธรรมคล้ายกัน แต่ที่ทำให้อึ้งมากคือที่ตะวันออกกลาง เพราะสีดารามเป็นเรื่องศาสนาของชาวฮินดู ซึ่งถ้าได้รับความนิยมในประเทศที่ไม่ได้นับถือฮินดู ก็แสดงว่าการเล่าเรื่องประสบความสำเร็จอย่างมาก
ทำไมทั้งคู่ถึงได้เล่นซีรีส์ลิขิตแค้นแสนรัก
ซานาย่า อิราณี : ตอนที่เข้าไปคัดเลือกนักแสดงซีรีส์เรื่องนี้ ก็จะมีนักแสดงหลายคนที่เข้ามาแคสติ้ง รวมถึงอาร์ชิส ซึ่งพอตัวเองได้เข้าบทกับอาร์ชิสแล้วรู้สึกว่าเข้ากันมากที่สุด เลยกระซิบบอกทีมงานว่าขอให้เป็นคนนี้นะ
อาร์ชิส ชาร์มา : หลักจากที่ได้ซ้อมบทกันแล้วคิดว่าน่าจะเป็นคู่ที่เข้ากันมากที่สุด เลยทำให้เป็นเหตุผลที่ถูกเลือกให้มาเล่นด้วยกันในซีรีส์เรื่องนี้
ในเรื่องจะเห็นว่าผู้พันใจร้ายกับปาโรมาก ตัวจริงเป็นเหมือนในซีรีส์หรือไม่
ซานาย่า อิราณี : ไม่เหมือนเด็ดขาด (หัวเราะ) นอกฉากพูดน้อยมาก และ พูดจาสุภาพมาก แต่พอได้เข้าฉากกลับเล่นบทผู้พันได้ดีมากๆ นี้เลยเป็นเหตุผลที่ทำให้อาร์ชิสได้รับบทนี้ เพราะเค้าเล่นดีมากๆ
แล้วตัวจริงของ ซานาย่า เหมือนในบทบาทหรือไม่
อาร์ชิส ชาร์มา : ตัวจริงของซานาย่าจะเหมือนกับบทบาทของผู้พันมากกว่า (หัวเราะ)
ฉากไหนที่ทั้งคู่คิดว่ายากที่สุด
อาร์ชิส ชาร์มา : จะเป็นช่วงแรกที่ถ่ายทำแล้วรู้สึกถึงความท้าทาย เพราะต้องอยู่กับบทที่ต้องร้องไห้นานๆ และยังต้องถ่ายทำท่ามกลางทะเลทรายที่ร้อนมากๆ แต่ก็เป็นแค่ช่วงแรกเท่านั้น
สำหรับซีรีส์แผนรักลวงใจเป็นอย่างไรบ้าง
ซานาย่า อิราณี : เป็นเรื่องโปรดที่สุดในตอนนี้ เพราะตัวเองได้เรียนรู้และได้เติบโตในด้านการแสดง
เร็วๆนี้ อาร์ชิส จะมีซีรีส์เรื่อง "วัลลัภ มหากษัตริย์ชาตินักรบ" ช่วยเล่าให้ฟังหน่อย
อาร์ชิส ชาร์มา : สำหรับบทบาทที่ได้รับมีตัวตนอยู่จริง ซึ่งเอาไปเปรียบเทียบกับพระรามไม่ได้เลย กษัตริย์ปฤถวี มีตัวตนอยู่จริงในประวัติศาสตร์ ปัจจุบันคือรัฐมัธยประเทศ ในยุคสมัยนั้นกษัตริยาจะชอบล่าอาณานิคม แต่กษัตริย์ปฤถวี จะตรงกันข้าม ชอบสันติภาพ ความรัก เป็นศิลปิน ซึ่งในยุคนั้นจะรุ่งเรืองด้านวรรณกรรม ส่วนตัวคิดว่านี่คือสิ่งที่สะท้อนความเป็นตัวตนของอินเดีย ด้านของการเตรียมตัวก่อนแสดงเรื่องนี้ ต้องดูแลรูปร่าง เราเองต้องมีวินัยอย่างมากในการบริหารน้ำหนัก เพราะถ้าได้รูปร่างที่ดีแล้ว การสวมบาทบาทนี้ก็จะง่ายขึ้น ทั้งเสื้อผ้าและคาเรคเตอร์
ทั้งคู่ชอบหรือประทับใจอะไรในเมืองไทย
อาร์ชิส ชาร์มา : ปกติแล้วชีวิตจะมีแต่ความเร่งรีบ แต่ทันทีที่ได้ถึงเมืองไทย รู้สึกถึงความผ่อนคลาย รีแลกซ์ ได้เป็นอิสระ ได้ทำอะไรที่อยากทำ
ซานาย่า อิราณี : ประทับใจและชอบทะเลเมืองไทยมากๆเหมือนกับ 10 ปีที่เคยมา
ฝากบทบาทของทั้งคู่กับแฟนๆชาวไทย
ซานาย่า อิราณี : ขอบคุณแฟนๆทุกคนที่ชื่นชอบละคร รู้สึกตื้นตันกับการต้อนรับที่อบอุ่น อยากฝากละครล่าสุด "แผนรักลวงใจ" และขอกำลังใจเช่นเดียวกับละครเรื่องอื่นๆที่เคยฉายมา
อาร์ชิส ชาร์มา : รู้สึกขอบคุณมากๆ รักทุกคน และรู้สึกดีที่ได้เป็นที่รักของทุกคน อยากให้ทุกคนคอยติดตามผลงานของละครเรื่องต่อไปก็คือ "วัลลัภ มหากษัตริย์ชาตินักรบ" และอยากจะกลับมาพูดคุยกันอีกครั้ง พร้อมกับอยากให้ได้รับการตอบรับที่ดีเหมือนกับทุกเรื่องที่ผ่านมาเช่นกัน
สามารถติดตาม รายการ เจาะประเด็น ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 13.35น.ทาง ช่อง 8 เข้มทุกเรื่องราว สุดทุกอารมณ์